กลยุทธทางการตลาดของ "ซัมซุง"

นิตยสาร Vanity Fair ได้เขียนถึงประวัติและกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของซัมซุง โดยในเนื้อหาระบุว่ามันเป็นเรื่องปรกติ ที่ซัมซุงจะละเมิดสิทธิบัตรของคู่แข่งต่อไปเรื่อย ๆ เพราะซัมซุงมีประวัติทางด้านนี้มานาน และก็ประสบความสำเร็จมากเสียด้วย

ในปี 2010 ก่อนที่แอปเปิลจะฟ้องซัมซุงข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ทีมผู้บริหารและทีมกฎหมายของแอปเปิล ได้บินเข้าพบกับทีมผู้บริหารของซัมซุง โดยรองประธานของซัมซุงได้ขู่แอปเปิลไว้ว่า ถ้าแอปเปิลเลือกที่จะฟ้องซัมซุง ซัมซุงก็จะฟ้องคืนทันที เพราะว่า “ซัมซุงผลิตมือถือมานานแทบจะตลอดกาล และซัมซุงก็มีสิทธิบัตรของตัวเอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าแอปเปิลได้ละเมิดสิทธิบัตรบางฉบับไปแล้วด้วยซ้ำ”

Vanity Fair บอกอีกว่ากลยุทธ์หลักของซัมซุง คือการก็อปปี้ก่อน จากนั้นเมื่อโดนฟ้องค่อยฟ้องกลับ จากนั้นก็ลากเรื่องให้ยาว เมื่อแพ้ก็ขอเวลาดึงเรื่อง ก่อนยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง จากนั้นดึงเรื่องให้ยาวที่สุดเท่าที่จะยาวได้ และเมื่อใกล้จะแพ้จริง ๆ แล้วค่อยเสนอคู่กรณีว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้นอกชั้นศาล

ในปี 2007 บริษัท Sharp ได้ฟ้องซัมซุงข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับทีวี โดยซัมซุงได้ทำเรื่องฟ้องกลับ จากนั้นก็ดึงเรื่องให้ยาวที่สุด จนกระทั่งปี 2009 ซัมซุงถูกตัดสินว่าละเมิดสิทธิบัตร แต่ก่อนที่จะได้รับโทษโดนแบนไม่ให้ขายสินค้าได้ ซัมซุงก็ได้ติดต่อกับ Sharp เพื่อยื่นข้อเสนอนอกชั้นศาล

ปี 2006 บริษัท Pioneer ได้ฟ้องซัมซุงกรณีละเมิดสิทธิบัตรทีวีพลาสม่า ซัมซุงก็สามารถดึงเรื่องให้ยาวถึงปี 2009 แต่สุดท้ายทาง Pioneer สายป่านไม่ยาวพอ จนสุดท้าย Pioneer ต้องปิดธุรกิจเกี่ยวกับโทรทัศน์ลงในที่สุด

สุดท้าย ซัมซุงได้ตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้กับแอปเปิล โดยเมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone ครั้งแรก ซัมซุงได้นำคุณสมบัติของ iPhone มาเปรียบเทียบกับมือถือที่วางจำหน่ายอยู่ของตัวเองอย่างละเอียดถึงขั้นฟีเจอร์ต่อฟีเจอร์ และสุดท้ายซัมซุงก็พบว่า 126 ฟีเจอร์ของ iPhone เหนือกว่ามือถือของซัมซุง ณ​ เวลานั้น จนสุดท้ายก็เกิดมือถือตระกูล Galaxy S ขึ้น

และแน่นอน สุดท้ายแอปเปิลก็ต้องฟ้องซัมซุง แต่ด้วยความชำนาญการในเรื่องการลอกเลียนแบบและไม่ถูกลงโทษมานาน ทำให้ซัมซุงเลือกที่จะไม่เจรจากับแอปเปิล และเลือกการต่อสู้กันในชั้นศาลแทน

จนถึงตอนนี้ ซัมซุงต้องจ่ายเงินให้กับแอปเปิลเป็นค่าเสียหายจากการละเมิดสิทธิบัตรเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นเพียงแค่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเศษ ๆ เท่านั้น ในขณะที่สินค้าตระกูล Galaxy S ของซัมซุงกลายเป็นคู่แข่งอันดับ 1 ของแอปเปิล

บทความหลักของ Vanity Fair ละเอียดกว่านี้มาก แนะนำให้ไปอ่านถ้าสนใจครับ

Credit : https://www.blognone.com/node/55991

คหสต : น่าสงสารบริษัทอื่นๆที่ตั้งใจคิดค้นสินค้าขึ้นมานะครับ ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆอีกหน่อยบริษัทตั้งใจคิดค้นสินค้าจะค่อยๆล้มตายหายไปจนไม่มีเหลือเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่