สรุปเลยสั้นๆ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ลดโควต้าผู้เล่น A (อายุเกิน 21 ปี หรือไม่ผ่าน Home-grown) เหลือ 18 คน จากเดิม 25 คน (ส่วนโควต้าผู้เล่น B อายุไม่เกิน 21 ปี และผ่าน Home-grown) ยังไม่จำกัด
2. ค่าจ้างนักเตะต่อสัปดาห์ในรายชื่อที่ส่งเล่น UCL ต้องเท่ากับหรือน้อยกว่ายอดที่ส่งในฤดูกาล 2013-14
3. ปรับเงินสดอีก 50 ล้านปอนด์
Cr.
http://www.bbc.com/sport/0/football/27290532
ไม่หนักเท่ากับแบนไปเลยแต่ก็ถือว่าหนักใช้ได้ครับ ที่แน่ๆ คือผู้เล่นที่จะส่งเล่น UCL หายไปแน่ๆ 7 คน อาจจะแก้โดยการส่งเด็กชุด B อายุไม่เกิน 21 ลงไปเติมได้ แต่ว่าจะให้เด็กขนาดนั้นลง UCL เลยหรือครับ? เสี่ยงพอสมควร ส่วนห้ามเพิ่มค่าจ้างนี่ก็หนักเหมือนกันครับ เพราะคุณจะซื้อตัวแพงๆ จ่ายค่าจ้างแพงๆ ให้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะเพิ่มก็ต้องเอาคนที่ค่าจ้างถูกๆ มาใส่แทนเพื่อให้ยอดยังเท่าเดิม (ส่วนจำนวนคนที่หายไป 7 คนผมว่า UEFA คงมีวิธีการของเขาครับ อาจจะให้เทียบกับของฤดูกาลก่อนก็ได้ว่าใครหายไปแต่ยังอยู่ในทีม ก็ดึงรายการนั้นมาใส่เลย) ดังนั้นจะเอานักเตะเกรด A ทั้งทีมมาใส่ไม่ได้แล้วครับ ต้องมีเกรด B เกรด C มาเฉลี่ยไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ค่าจ้างเพิ่ม สำหรับผมถือว่าโอเคนะ ดูมันสมองทีมงานของทั้งแมน.ซิตี้และปารีสละกันครับว่าจะทำยังไงต่อ จะรับมั้ย หรือจะยื่นอุทธรณ์ ถ้ารับก็รับเลย มีเวลาไปวางแผนกัน แต่ถ้าอุทธรณ์มีสิทธิ์โดนเพิ่ม และถ้าแพ้อุทธรณ์อีกคือต้องโดนแบบไม่มีต่อรองแล้ว ทีนั้นล่ะครับเจ็บแน่ ส่วนเรื่องปรับเงินสด ให้มาเตะฟรีดีกว่ามั้ย 555+
แถม ส่วนลิเวอร์พูลที่ตัวแดงมา 2 ฤดูกาล ฤดูกาลนี้ไม่ติด FFP เพราะว่าไม่ได้ไปเล่น แต่ถ้าฤดูกาลหน้ายังตัวแดงเหมือนเดิม ก็จะโดนแบบที่ซิตี้กับปารีสโดนเหมือนกันครับ ส่วนอาร์เซนอล แมน.ยูไนเต็ด กำไรมาแล้ว 2 ฤดูกาล เชลซี กำไรมาแล้ว 1 ฤดูกาล จะปลอดภัยจากกฎนี้ไปอีก 3 ปีครับ
บทลงโทษแมน.ซิตี้ กับปารีสฯ ในกรณีตก Financial Fair Play มาแล้วครับ
1. ลดโควต้าผู้เล่น A (อายุเกิน 21 ปี หรือไม่ผ่าน Home-grown) เหลือ 18 คน จากเดิม 25 คน (ส่วนโควต้าผู้เล่น B อายุไม่เกิน 21 ปี และผ่าน Home-grown) ยังไม่จำกัด
2. ค่าจ้างนักเตะต่อสัปดาห์ในรายชื่อที่ส่งเล่น UCL ต้องเท่ากับหรือน้อยกว่ายอดที่ส่งในฤดูกาล 2013-14
3. ปรับเงินสดอีก 50 ล้านปอนด์
Cr. http://www.bbc.com/sport/0/football/27290532
ไม่หนักเท่ากับแบนไปเลยแต่ก็ถือว่าหนักใช้ได้ครับ ที่แน่ๆ คือผู้เล่นที่จะส่งเล่น UCL หายไปแน่ๆ 7 คน อาจจะแก้โดยการส่งเด็กชุด B อายุไม่เกิน 21 ลงไปเติมได้ แต่ว่าจะให้เด็กขนาดนั้นลง UCL เลยหรือครับ? เสี่ยงพอสมควร ส่วนห้ามเพิ่มค่าจ้างนี่ก็หนักเหมือนกันครับ เพราะคุณจะซื้อตัวแพงๆ จ่ายค่าจ้างแพงๆ ให้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะเพิ่มก็ต้องเอาคนที่ค่าจ้างถูกๆ มาใส่แทนเพื่อให้ยอดยังเท่าเดิม (ส่วนจำนวนคนที่หายไป 7 คนผมว่า UEFA คงมีวิธีการของเขาครับ อาจจะให้เทียบกับของฤดูกาลก่อนก็ได้ว่าใครหายไปแต่ยังอยู่ในทีม ก็ดึงรายการนั้นมาใส่เลย) ดังนั้นจะเอานักเตะเกรด A ทั้งทีมมาใส่ไม่ได้แล้วครับ ต้องมีเกรด B เกรด C มาเฉลี่ยไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ค่าจ้างเพิ่ม สำหรับผมถือว่าโอเคนะ ดูมันสมองทีมงานของทั้งแมน.ซิตี้และปารีสละกันครับว่าจะทำยังไงต่อ จะรับมั้ย หรือจะยื่นอุทธรณ์ ถ้ารับก็รับเลย มีเวลาไปวางแผนกัน แต่ถ้าอุทธรณ์มีสิทธิ์โดนเพิ่ม และถ้าแพ้อุทธรณ์อีกคือต้องโดนแบบไม่มีต่อรองแล้ว ทีนั้นล่ะครับเจ็บแน่ ส่วนเรื่องปรับเงินสด ให้มาเตะฟรีดีกว่ามั้ย 555+
แถม ส่วนลิเวอร์พูลที่ตัวแดงมา 2 ฤดูกาล ฤดูกาลนี้ไม่ติด FFP เพราะว่าไม่ได้ไปเล่น แต่ถ้าฤดูกาลหน้ายังตัวแดงเหมือนเดิม ก็จะโดนแบบที่ซิตี้กับปารีสโดนเหมือนกันครับ ส่วนอาร์เซนอล แมน.ยูไนเต็ด กำไรมาแล้ว 2 ฤดูกาล เชลซี กำไรมาแล้ว 1 ฤดูกาล จะปลอดภัยจากกฎนี้ไปอีก 3 ปีครับ