โรคแพ้เครื่องประดับ ภัยที่คุณคาดไม่ถึง
สาวๆ ที่รักสวยรักงาม ก้าวติดเทรนด์แฟชั่นไม่มีถอย คงไม่รู้หรอกว่าเครื่องประดับสวยๆที่ช่วยให้คุณเป็นสาวสวยยิ่งขึ้นหรือเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟันตามแฟชั่นนิยมอาจลอบทำร้ายผิวคุณได้อย่างนึกไม่ถึงเช่นตุ้มหูสร้อยกรอบเลี่ยมพระแหวนและกำไลข้อมือเป็นต้น ไม่เพียงเครื่องประดับเหล่านี้ยังมีสิ่งอื่นๆใกล้ตัวที่คุณอาจนึกไม่ถึง เช่น กระดุมกางเกงยีนส์ ซิป เข็มขัด ตะขอชุด ชั้นใน ที่ดัดขนตา สายนาฬิกา อาการแพ้ก็คือ ผิวเป็นผื่นแดงและคัน เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
รู้มั้ยว่าศัตรูตัวสำคัญที่ทำร้ายผิวคุณได้คือ นิกเกิล ซึ่งมองๆ ดูแล้วไม่น่ามีพิษสงเสียเลย ก็แค่โลหะธรรมดาที่ปะปนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่ได้นึกถึง เช่น หม้อหุงต้ม ลูกบิด ประตูเหรียญสตางค์แม้แต่ในอาหารและในน้ำก๊อกก็อาจมีสารนิกเกิลปะปนอยู่ด้วย และบางคนก็อาจจะแพ้ทองคำได้เหมือนกัน
แพ้เครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิล
สารเคมีอย่างนิกเกิล มักทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้เมื่อมีการสัมผัส โดย 1 ใน 5 ของผู้หญิงมักแพ้สารที่ว่านี้ และผื่นแพ้จากนิกเกิลมักเกิดบริเวณที่สัมผัสกับเครื่องประดับ เช่น ที่ติ่งหู คอ ข้อมือ หรือหน้าอก จะมีอาการเป็นผื่นแดง และอาจเป็นสะเก็ดที่หนังตาบน เนื่องจากสารนิกเกิลติดมือที่ชื่นเหงือแล้วไปถูกหนังตา บางคนอาจเป็นผื่นลามไปทั่วตัว หรืออาจเป็นแค่เฉพาะที่ก็ได้
นพ. นิยม ตันติคุณ แพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกล่าวว่า "มีผู้ป่วยเป็นโรคผิวหนังที่มีอาการผื่นแดงและคันอันเกิดจากการสวมใส่เครื่องประดับที่ทำมาจากนิกเกิลมากขึ้น คุณหมอแนะนำว่า หลังการเจาะหูควรรอให้แผลแห้งสัก 3 สัปดาห์ จึงใส่เครื่องประดับตามแฟชั่นได้ มิเช่นนั้นรอยแผลที่เกิดจากการเจาะหูจะเกิดการอักเสบขึ้นได้ และหลังจากเจาะหูใหม่ๆ คุณควรจะเลือกตุ้มหูที่ปราศจากสารนิกเกิลจะดีที่สุด"
แพ้เครื่องประดับที่ทำจากทอง
นอกจากนิกเกิลจะก่อให้เกิดการแพ้ได้แล้ว เครื่องประดับอื่นๆ ก็ทำให้ผิวหนังมีปัญหาได้เหมือนกัน เช่น ทอง เงิน ทองแดง เพราะการนำทองมาทำเครื่องประดับนั้นจำเป็นต้องผสมกับโลหะที่จะทำให้ทองแข็งตัว หากเป็นทองบริสุทธิ์ ก็มีความอ่อนเกินกว่าที่จะนำมาทำเป็นตัวเรือนหุ้มเพชรพลอยได้ แต่ถ้านำนิกเกิลมาเป็นส่วนผสมก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังได้เหมือนกัน (นิกเกิลมีราคาถูกและทำให้เครื่องประดับไม่ดำ ) แต่ถ้าหากเป็นทองที่มีคุณภาพดี ก็จะมีส่วนผสมของนิกเกิลเป็นจำนวนไม่มาก หรือบางคนก็อาจมีอาการแพ้ทองได้เหมือนกัน
ถ้าหากสงสัยว่า คุณมีอาการโรคภูมิแพ้เครื่องประดับละก็ คุณควรไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการทดสอบผิวหนังด้วยแผ่นพลาสเตอร์ทดสอบ เพราะไม่เจ็บไม่ปวดแต่อย่างใด เพื่อความมั่นใจคุณแพ้สารนิกเกิลจริงหรืไม่ จะได้หลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองได้
สาวๆ มากมายที่ไม่รู้ว่าเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับที่กำลังฮิตกันอยู่นั่นมีสารนิกเกิลตัวร้อยแอบแฝงอยู่ด้วยไม่ใช่เฉพาะแต่ในเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ที่ตะขอชุดชั้นใน กระดุมกางเกง ที่หนีบผม ฯลฯ
การป้องกัน
หากรู้ตัวว่าคุณแพ้สารนิกเกิล ก็ควรหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้
อย่าแตะต้องเครื่องประดับที่มีส่วนผสมของนิกเกิล แม้ว่าจะการเคลือบป้องกันก็ตามเพราะพอใช้ไปนานวันเข้า สารที่เคลือบไว้ก็จะหลุดลอกออกและปลอดปล่อยสารนิกเกิลออกมาโจมตีผิวคุณโดยไม่รู้ตัว
ให้พยายามเลือกเครื่องประดับสแตนเลสที่ปราศจากสารนิกเกิลซึ่งมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆไป
แต่ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำมาจากแก้ว เครื่องเคลือบดินเผา หรือพลาสติกจะดีกว่า
ไม่ควรกินอาหารกระป๋อง
ควรสวมใส่ถุงมือเมื่อต้องใช้มือนับเหรียญ (แคชเชียร์) คีม ไขควง และตะปู
"คอติโซน" เพื่อไปหยุดชะงักระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำการต่อต้านมากนัก อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ควรทาเพียงบางๆ เท่านั้น
นอกจากทาครีมแล้ว ให้ใช้ผ้าเย็นๆ มาประคบอีกที
ทาครีมสเตียรอยด์ ซึ่งตัวยาจะเข้มข้นมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่แพ้ หากเป็นที่ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ซึ่งมีผิวหนากว่าบริเวณอื่นก็ต้องใช้ตัวยาที่เข้มข้นมากกว่าการใช้ในบริเวณที่ผิวบอบบาง
หากเป็นมากควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากสารนิกเกิลเป็นโรคเรื้อรัง ยากแก่การรักษาให้หายขาด นอกจากต้องหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้แพ้เท่านั้น แต่เมื่อคุณไม่อาจทิ้งแฟชั่นความสวยความงามได้ ก็ขอแนะนำให้ใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกแทน
การแพ้ทองคำ
สาวๆ ที่รักสวยรักงาม ก้าวติดเทรนด์แฟชั่นไม่มีถอย คงไม่รู้หรอกว่าเครื่องประดับสวยๆที่ช่วยให้คุณเป็นสาวสวยยิ่งขึ้นหรือเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟันตามแฟชั่นนิยมอาจลอบทำร้ายผิวคุณได้อย่างนึกไม่ถึงเช่นตุ้มหูสร้อยกรอบเลี่ยมพระแหวนและกำไลข้อมือเป็นต้น ไม่เพียงเครื่องประดับเหล่านี้ยังมีสิ่งอื่นๆใกล้ตัวที่คุณอาจนึกไม่ถึง เช่น กระดุมกางเกงยีนส์ ซิป เข็มขัด ตะขอชุด ชั้นใน ที่ดัดขนตา สายนาฬิกา อาการแพ้ก็คือ ผิวเป็นผื่นแดงและคัน เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
รู้มั้ยว่าศัตรูตัวสำคัญที่ทำร้ายผิวคุณได้คือ นิกเกิล ซึ่งมองๆ ดูแล้วไม่น่ามีพิษสงเสียเลย ก็แค่โลหะธรรมดาที่ปะปนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่ได้นึกถึง เช่น หม้อหุงต้ม ลูกบิด ประตูเหรียญสตางค์แม้แต่ในอาหารและในน้ำก๊อกก็อาจมีสารนิกเกิลปะปนอยู่ด้วย และบางคนก็อาจจะแพ้ทองคำได้เหมือนกัน
แพ้เครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิล
สารเคมีอย่างนิกเกิล มักทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้เมื่อมีการสัมผัส โดย 1 ใน 5 ของผู้หญิงมักแพ้สารที่ว่านี้ และผื่นแพ้จากนิกเกิลมักเกิดบริเวณที่สัมผัสกับเครื่องประดับ เช่น ที่ติ่งหู คอ ข้อมือ หรือหน้าอก จะมีอาการเป็นผื่นแดง และอาจเป็นสะเก็ดที่หนังตาบน เนื่องจากสารนิกเกิลติดมือที่ชื่นเหงือแล้วไปถูกหนังตา บางคนอาจเป็นผื่นลามไปทั่วตัว หรืออาจเป็นแค่เฉพาะที่ก็ได้
นพ. นิยม ตันติคุณ แพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกล่าวว่า "มีผู้ป่วยเป็นโรคผิวหนังที่มีอาการผื่นแดงและคันอันเกิดจากการสวมใส่เครื่องประดับที่ทำมาจากนิกเกิลมากขึ้น คุณหมอแนะนำว่า หลังการเจาะหูควรรอให้แผลแห้งสัก 3 สัปดาห์ จึงใส่เครื่องประดับตามแฟชั่นได้ มิเช่นนั้นรอยแผลที่เกิดจากการเจาะหูจะเกิดการอักเสบขึ้นได้ และหลังจากเจาะหูใหม่ๆ คุณควรจะเลือกตุ้มหูที่ปราศจากสารนิกเกิลจะดีที่สุด"
แพ้เครื่องประดับที่ทำจากทอง
นอกจากนิกเกิลจะก่อให้เกิดการแพ้ได้แล้ว เครื่องประดับอื่นๆ ก็ทำให้ผิวหนังมีปัญหาได้เหมือนกัน เช่น ทอง เงิน ทองแดง เพราะการนำทองมาทำเครื่องประดับนั้นจำเป็นต้องผสมกับโลหะที่จะทำให้ทองแข็งตัว หากเป็นทองบริสุทธิ์ ก็มีความอ่อนเกินกว่าที่จะนำมาทำเป็นตัวเรือนหุ้มเพชรพลอยได้ แต่ถ้านำนิกเกิลมาเป็นส่วนผสมก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังได้เหมือนกัน (นิกเกิลมีราคาถูกและทำให้เครื่องประดับไม่ดำ ) แต่ถ้าหากเป็นทองที่มีคุณภาพดี ก็จะมีส่วนผสมของนิกเกิลเป็นจำนวนไม่มาก หรือบางคนก็อาจมีอาการแพ้ทองได้เหมือนกัน
ถ้าหากสงสัยว่า คุณมีอาการโรคภูมิแพ้เครื่องประดับละก็ คุณควรไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการทดสอบผิวหนังด้วยแผ่นพลาสเตอร์ทดสอบ เพราะไม่เจ็บไม่ปวดแต่อย่างใด เพื่อความมั่นใจคุณแพ้สารนิกเกิลจริงหรืไม่ จะได้หลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองได้
สาวๆ มากมายที่ไม่รู้ว่าเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับที่กำลังฮิตกันอยู่นั่นมีสารนิกเกิลตัวร้อยแอบแฝงอยู่ด้วยไม่ใช่เฉพาะแต่ในเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ที่ตะขอชุดชั้นใน กระดุมกางเกง ที่หนีบผม ฯลฯ
การป้องกัน
หากรู้ตัวว่าคุณแพ้สารนิกเกิล ก็ควรหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้
อย่าแตะต้องเครื่องประดับที่มีส่วนผสมของนิกเกิล แม้ว่าจะการเคลือบป้องกันก็ตามเพราะพอใช้ไปนานวันเข้า สารที่เคลือบไว้ก็จะหลุดลอกออกและปลอดปล่อยสารนิกเกิลออกมาโจมตีผิวคุณโดยไม่รู้ตัว
ให้พยายามเลือกเครื่องประดับสแตนเลสที่ปราศจากสารนิกเกิลซึ่งมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆไป
แต่ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำมาจากแก้ว เครื่องเคลือบดินเผา หรือพลาสติกจะดีกว่า
ไม่ควรกินอาหารกระป๋อง
ควรสวมใส่ถุงมือเมื่อต้องใช้มือนับเหรียญ (แคชเชียร์) คีม ไขควง และตะปู
"คอติโซน" เพื่อไปหยุดชะงักระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำการต่อต้านมากนัก อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ควรทาเพียงบางๆ เท่านั้น
นอกจากทาครีมแล้ว ให้ใช้ผ้าเย็นๆ มาประคบอีกที
ทาครีมสเตียรอยด์ ซึ่งตัวยาจะเข้มข้นมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่แพ้ หากเป็นที่ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ซึ่งมีผิวหนากว่าบริเวณอื่นก็ต้องใช้ตัวยาที่เข้มข้นมากกว่าการใช้ในบริเวณที่ผิวบอบบาง
หากเป็นมากควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากสารนิกเกิลเป็นโรคเรื้อรัง ยากแก่การรักษาให้หายขาด นอกจากต้องหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้แพ้เท่านั้น แต่เมื่อคุณไม่อาจทิ้งแฟชั่นความสวยความงามได้ ก็ขอแนะนำให้ใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกแทน