ได้มีโอกาสไปพักที่ Ao Kao White Sand Beach Resort (อ่าวขาวไวท์แซนบีชรีสอร์ท) ที่เกาะหมากหนึ่งคืนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (04/05/57) โดยจองห้องแบบ Honeymoon Suite  ผ่านทาง agoda ซึ่งราคา net แล้วตกคืนละเกือบสามพันบาท (ไม่มีอาหารเช้า)

ปัญหาที่เราเจอคือ หลังจากกินข้าวกับภรรยาที่ห้องอาหารและจิบเครื่องดื่มนิดหน่อยที่บาร์ของรีสอร์ทเสร็จแล้ว ประมาณเกือบสามทุ่มเราเข้าห้องพักเพื่อที่ใช้เวลาส่วนตัวกัน เข้าห้องพักเราก็เปิดแอร์ไว้เลยแล้วไปอาบน้ำ จนอาบน้ำเสร็จปรากฎว่าเครื่องปรับอากาศไม่สามารถทำอุณหภูมิที่ตั้งไว้ได้ โดยอุณหภูมิห้องอยู่ที่ประมาณ 29-30 องศาตลอดเวลา (เป็นแอร์ของ LG รีโมตสามารถดูอุณหภูมิห้องได้) ตอนแรกก็คิดไว้ว่าอากาศร้อนทำให้ห้องเย็นช้า ก็นั่งดูทีวีกันจน ประมาณสี่ทุ่มกว่าแอร์ก็ยังไม่เย็น อุณหภูมิก็ยังอยู่ที่ 29-30 องศา ภรรยาเราก็บอกว่าถ้าร้อนอย่างนี้คืนนี้นอนไม่ได้แน่ เราก็เอามือไปอังที่แอร์ปรากฏว่ามีแต่ลมร้อนออกมา ก็ลองปรับโหมดของแอร์ดูจนมีลมเย็นออกมาบ้าง แต่แปปเดียวสุดท้ายก็เป็นลมร้อนเหมือนเดิม จนเกือบๆห้าทุ่มจึงคิดว่าควรให้พนักงานมาดูดีกว่า

(ตอนกลางวันแอร์ก็ร้อนแบบนี้แต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะอยู่ในห้องประมาณชั่วโมงเดียวและคิดว่าเพราะอุณหภูมิภายนอกร้อนมาก แอร์จึงเย็นช้า)

เราจึงเดินไปที่อาคาร reception ของรีสอร์ทแต่ปรากฎว่าปิดไฟหมดแล้ว ก็เลยเดินไปที่บาร์ของรีสอร์ทซึ่งอยู่ริมหาดห่างจาก reception ไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งเจอน้องบาเทนเดอร์ (ตอนเรามานั่งดื่มก็เจอน้องเค้า ทราบภายหลังว่าชื่อคุณขวัญเป็นคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ท) จึงสอบถามว่าจะติดต่อพนักงานของทางรีสอร์ทได้ยังไง น้องเค้าถามว่ามีปัญหาอะไรเหรอ เราก็เลยเราให้เค้าฟัง น้องเค้าก็พยายามโทรหาคนที่รับผิดชอบให้เรา แต่เข้าใจว่าคงไม่สามารถติดต่อใครได้ น้องเค้าจึงอาสามาดูให้ เราก็เดินกับน้องเค้ามาที่ห้อง น้องเค้ามาดูก็ทราบปัญหาคือมีแต่ลมร้อนออกมา จนดูเสร็จ น้องเค้าบอกว่าเดี๋ยวผมมาจะไปดูว่าเพราะอะไร ประมาณ 15 นาที น้องเค้าก็กลับมาบอกเราว่าเป็นเพราะไฟตกทำให้แอร์ทำงานไม่ดี ห้องพี่สาวเค้าและห้องของน้องเค้าก็มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่งห้องของพี่สาวเค้าเป็นห้อง Honeymoon Suite เหมือนกัน อยู่หน้าหาดห่างจากห้องของเราไปประมาณ 20 เมตร และห้องของน้องเค้าก็อยู่ข้างๆ เราก็ถามน้องเค้าว่ามีห้องอื่นที่เราสามารถนอนได้ไหม เพราะร้อนอย่างนี้เรานอนไม่ได้แน่นอน น้องเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าไปดูให้ ประมาณ 00:15 น้องเค้ากลับมาบอกว่าหาห้องให้เราได้แล้ว

น้องเค้าก็เดินพาเรากับภรรยาไปดูห้อง เป็นห้องที่อยู่อีกฟากหนึ่งของรีสอร์ท น้องเค้าก็เล่าให้ฟังว่าแอร์ทำงานไม่ดีเพราะไฟตก บอกว่าที่เกาะใช้เครื่องปั่นไฟ เค้าให้เราไปนอนอีกฝากนึงเพราะใช้สายไฟคนละเส้น เราก็เออๆออๆไปกับเค้า ห้องที่เค้าหาให้เป็นห้องชื่อ อยุธยา3 เป็นเรือนไทยค่อนข้างเก่าแต่ก็สะอาด ในใจเห็นแล้วก็กลัวๆนิดหน่อย แต่ ณ เวลานั้นอยากนอนมากแล้วเพราะอีกวันต้องตื่นมาขึ้นเรือรอบ 8:00 โมงเช้ากลับเข้าฝั่ง ก็บอกน้องเค้าว่าโอเคเรานอนที่นี่แหละ น้องเค้าก็ให้กุญแจเราไว้ เราก็เลยถามชื่อน้องเค้าเพราะเผื่อมีปัญหาตอนคืนกุญแจจะได้อ้างชื่อเค้าได้ เค้าก็บอกว่าชื่อขวัญเป็นเจ้าของรีสอร์ทคนนึงเหมือนกัน (เราก็เลยคิดๆว่าเป็นธุรกิจของครอบครัวของเค้า) โดยน้องเค้าก็ขอตัวกลับ เราก็โอเค



หลังจากนั้นเราไม่อยากทิ้งของมีค่า พวกนาฬิกา กล้องถ่ายรูป ไว้ที่ห้องเดิม จึงเดินกลับไปเอา โดยเดินไล่หลังน้องเค้าไป (ก็เลยรู้ว่าเค้านอนห้องไหน)  
หลังจากเอาของเสร็จแล้วระหว่างทางผ่านห้องพี่สาวเค้า ม่านก็แง้มๆอยู่ ก็ยังเห็นเค้านอนดูทีวีกันโดยคนนอนบนเตียงนอนห่มผ้า (ซึ่งเราคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าถ้าห้องอื่นอุณหภูมิ 29-30 องศา ก็คงนอนไม่ได้หรอก) เราก็เลยเคาะห้องน้องเค้า คือด้วยอารมณ์ และปัญหาคาใจอยากรู้ว่าเพราะอะไร น้องเค้าก็ออกมา เราก็เลยบอกว่าเราเห็นว่าในห้องพี่สาวเค้า คนข้างในยังห่มผ้าเลยจะเป็นไปได้เหรอที่ข้างในห้องมันจะร้อนเหมือนห้องเรา เราก็บอกว่าถ้าร้อนขนาดนั้นเราอยากนอนถอดเสื้อผ้าด้วยซ้ำ น้องเค้าก็เงียบ เราก็เลยถามน้องเค้าว่าในห้องน้องเค้าร้อนเหมือนกันจริงเหรอ ขอเค้าไปดูหน่อยได้ไหม (ก็รู้นะครับว่าไม่สมควร แต่ด้วยอารมณ์เหมือนโดนหรอก) น้องเค้าก็บอกว่าอย่าเลยครับ ห้องเค้ารกมาก เราก็ทำเฉยๆเพราะเข้าใจแล้วละว่าจริงๆมันเป็นยังไง น้องเค้าก็ขอตัวลา เหมือนว่าหมดหน้าที่เค้าแล้ว ไม่มีคำขอโทษใดๆ

สรุป

สิ่งที่เรารู้สึกผิดหวังคือ

1. ไม่เคยได้ยินคำว่าขอโทษออกจากปากน้องเค้าเลย (ตอนแรกคิดว่าเค้าเป็นพนักงาน เราก็รู้สึกขอบใจน้องเค้ามากนะที่มาช่วยเหลือ โดยคิดว่าสิ่งที่เค้าอ้างมาคืออยากให้ลูกค้าเข้าใจว่าห้องอื่นก็เป็นจะได้ไม่เยอะ แต่เมื่อทราบว่าเป็นเจ้าของ เราก็รู้สึกว่าควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ และควรพูดว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ) น้องเค้าอ้างแต่เพราะว่าไฟตก แต่ที่เราเข้าใจคือง่ายๆว่าแอร์ของห้องเราเสีย ตื่นเช้ามาเช็คเอาท์ ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครมาถามหรือขอโทษอะไรเลย    

2. เราจองห้อง Honeymoon Suite เพื่อที่จะได้มาสวีทกับภรรยา แต่สิ่งที่เราได้คือ ห้องที่ร้อน และต้องเปลี่ยนห้องตอนเที่ยงคืนกว่าๆ มานอนห้องเก่าๆ ไม่ได้สวีทอะไรเลย จริงปัญหาแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดเลย แต่ถ้ามันเกิดแล้วเข้าใจนะว่ามันอาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น แต่ควรจะแสดงความรับผิดชอบและพูดความจริงกับลูกค้า ยิ่งตัวเองเป็นเจ้าของด้วย ค่าใช้จ่ายที่เรามาพักที่เกาะหมาก ร่วมๆ 5,000 บาท เพราะมีค่าเรือไปกลับอีกคนละ 900 บาท แต่สิ่งที่เราได้..... (ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือเซ็งมากเลย)

ขอรับรองว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง
ฆนินทร์ สุวรรณรัตน์