คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
. อย่าเพิ่งกู้เลยดีกว่าครับ รอเก็บเงินไปอีกสักระยะหนึ่งน่าจะดีกว่า
เพราะถ้ากู้วงเงิน 1.5 - 2 ล้านบาท ระยะเวลา 20 - 30 ปี จะผ่อนประมาณเดือนละ 10,000 - 1ึ7,000 บาท และยิ่งในระหว่างที่ยังสร้างบ้านไม่เสร็จแล้ว ยังต้องจ่ายค่าเช่าบ้านอีก 4,000 บาท รวมๆ แล้วแค่เรื่องบ้านพักอาศัยอย่างเดียวก็มีภาระถึงเดือนละ 14,000 - 21,000 บาทแล้ว แถมยังต้องกังวลในเรื่องของรายได้จากการค้าขายอีก ผมว่าช่วงนี้ค่อยๆ เก็บเงินไปอีกสักพักหนึ่งจนพร้อมกว่านี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะครับ
ส่วนจะเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่นั้น ผมว่าลองเก็บเงินให้ได้เดือนละ 17,000 บาท ซึ่งเท่ากับค่างวดผ่อนบ้านเลยน่าจะดี เพื่อว่าจะได้เป็นการทดสอบตัวเองไปในตัวว่าถ้าจะต้องผ่อนบ้านกับธนาคารจริงๆ แล้ว จะผ่อนไหวไหม โดยถ้าปัจจุบันยังไม่ได้รีบร้อนอยากสร้างบ้านมากนักรวมถึงยังกังวลว่าจะผ่อนบ้านไหวไหม อาจจะเก็บเงินอย่างนี้ไปสักระยะหนึ่งจนมั่นใจแล้วจริงๆ ว่าผ่อนบ้านหลังนี้ได้อย่างราบรื่น หรือจะรอให้ผ่อนรถหมดก่อนก็ได้ จะได้นำค่างวดรถ 22,000 บาท มาใช้ผ่อนบ้านแทน แถมยังนำเงินที่เก็บในช่วงนี้ไปใช้ตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ถึง 17,000 x 4 ปี x 12 เดือน = 816,000 บาท เลยทีเดียว หรืออาจจะนำไปเป็นเงินดาวน์เพื่อขอกู้น้อยลง จะได้เป็นการประหยัดดอกเบี้ยด้วย
นอกจากเรื่องกู้สร้างบ้านแล้ว อยากจะแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของการบริหารเงินที่ใช้ค้าขายและเงินที่ใช้ส่วนตัว ว่าควรต้องแยกออกจากกัน เช่น คุณอาจกันรายได้ส่วนหนึ่งเป็นเงินเดือนให้ตัวเองไว้ใช้จ่ายชีวิตประจำวันไว้เลย หรืออาจจะทำบัญชี รับ-จ่าย โดยแยกบัญชีค้าขายและส่วนตัวออกจากกัน เพื่อให้คุณสามารถบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถจัดสรรได้ว่าเงินเก็บที่มีอยู่ เช่น เงินเก็บจำนวน 950,000 บาท ที่มีอยู่เป็นเงินเก็บส่วนตัว หรือเป็นเงินที่ต้องใช้หมุนเวียนในการค้าขาย
เพราะถ้ากู้วงเงิน 1.5 - 2 ล้านบาท ระยะเวลา 20 - 30 ปี จะผ่อนประมาณเดือนละ 10,000 - 1ึ7,000 บาท และยิ่งในระหว่างที่ยังสร้างบ้านไม่เสร็จแล้ว ยังต้องจ่ายค่าเช่าบ้านอีก 4,000 บาท รวมๆ แล้วแค่เรื่องบ้านพักอาศัยอย่างเดียวก็มีภาระถึงเดือนละ 14,000 - 21,000 บาทแล้ว แถมยังต้องกังวลในเรื่องของรายได้จากการค้าขายอีก ผมว่าช่วงนี้ค่อยๆ เก็บเงินไปอีกสักพักหนึ่งจนพร้อมกว่านี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะครับ
ส่วนจะเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่นั้น ผมว่าลองเก็บเงินให้ได้เดือนละ 17,000 บาท ซึ่งเท่ากับค่างวดผ่อนบ้านเลยน่าจะดี เพื่อว่าจะได้เป็นการทดสอบตัวเองไปในตัวว่าถ้าจะต้องผ่อนบ้านกับธนาคารจริงๆ แล้ว จะผ่อนไหวไหม โดยถ้าปัจจุบันยังไม่ได้รีบร้อนอยากสร้างบ้านมากนักรวมถึงยังกังวลว่าจะผ่อนบ้านไหวไหม อาจจะเก็บเงินอย่างนี้ไปสักระยะหนึ่งจนมั่นใจแล้วจริงๆ ว่าผ่อนบ้านหลังนี้ได้อย่างราบรื่น หรือจะรอให้ผ่อนรถหมดก่อนก็ได้ จะได้นำค่างวดรถ 22,000 บาท มาใช้ผ่อนบ้านแทน แถมยังนำเงินที่เก็บในช่วงนี้ไปใช้ตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ถึง 17,000 x 4 ปี x 12 เดือน = 816,000 บาท เลยทีเดียว หรืออาจจะนำไปเป็นเงินดาวน์เพื่อขอกู้น้อยลง จะได้เป็นการประหยัดดอกเบี้ยด้วย
นอกจากเรื่องกู้สร้างบ้านแล้ว อยากจะแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของการบริหารเงินที่ใช้ค้าขายและเงินที่ใช้ส่วนตัว ว่าควรต้องแยกออกจากกัน เช่น คุณอาจกันรายได้ส่วนหนึ่งเป็นเงินเดือนให้ตัวเองไว้ใช้จ่ายชีวิตประจำวันไว้เลย หรืออาจจะทำบัญชี รับ-จ่าย โดยแยกบัญชีค้าขายและส่วนตัวออกจากกัน เพื่อให้คุณสามารถบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถจัดสรรได้ว่าเงินเก็บที่มีอยู่ เช่น เงินเก็บจำนวน 950,000 บาท ที่มีอยู่เป็นเงินเก็บส่วนตัว หรือเป็นเงินที่ต้องใช้หมุนเวียนในการค้าขาย
แสดงความคิดเห็น
ควรกู้เงินสร้างบ้านดีมั้ย สถานะการณ์เสี่ยงแบบนี้
ตอนนี้ตัวเองอยากจะสร้างบ้านสักหลังหนึงบนที่ดินของตัวเองยอดกู้ 1.5-2ล้านบ้าน
อาชีพตอนนี้คือค้าขาย แต่ปีนี้มีปัญหาทำให้รายได้ลดลง เป็นอย่างมาก จากเคยได้เดือนล่ะแสน-สองแสน
ลดลงเหลือประมาณแปดหมื่น-แสนบาท ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
-มีภาระหนี้จากการซื้อรถ2คันไว้ค้าขาย ส่งเดือนล่ะ 22,000 บาท ค้างส่งอีก 4ปี
-มีเงินสดเก็บออมอยู่ที่ 9.5แสนบาท
-ที่ดินที่จะสร้างบ้านปลอดภาระมูลค่าที่ดินอยู่ที่1ล้านบาท
ตอนนี้ที่เป็นกังวลคือธุรกิจมันมีขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา กลัวว่าถ้ากู้เงินมาสร้างบ้านแล้วเราจะไม่มีเงินส่งธนาคาร
คำถามคือ เราควรจะกู้เงินมาสร้างบ้านในสถานการณ์ตอนนี้ดีมั้ย หรือ ว่าควรจะเก็บเงินต่อไปก่อนมีเงินสดแล้วค่อยสร้าง
ตอนนี้ไม่มีบ้านอยู่เช่าตึกแถวอยู่เดือนล่ะ 4พันบาท
อยากมีบ้านสวยๆสักหลังแต่กังวลเพราะเราหารายได้แค่คนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะไม่มีคนช่วย ไม่มีพ่อแม่พี่น้องให้ช่วย
ขอแท็ก สีลม กับ ชายคา นะคะน่าจะเกี่ยวข้องที่สุด