"มีเพื่อนบ้านที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"
วันนี้ขอระบายหน่อยค่ะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้แล้วกัน ไม่ไหวจริงๆกับเพื่อนบ้านไม่มีมารยาท กลับมาบ้านแต่ละครั้งไม่มีความสุขเลยถ้าข้างบ้านเค้าอยู่ วันหยุดนี่มีเสียงนาฬิกาปลุกเป็นคำหยาบคาย เรื่องยาวหน่อยนะคะ ใครมีคำแนะนำที่ดีช่วยหน่อยนะคะ
(ขออภัยในบางคำที่ดูไม่สุภาพ เพราะถ้าไม่ใช้มันจะไม่ชัดเจน)

แนะนำตัวนิดนึง : เราซื้อบ้านตอนอายุ 22 ปี(เราซื้อกับแฟน) ตอนนี้เราอายุ 25 ปีเต็มละ รวมๆก้อสองปีกว่าๆแล้วสินะที่อยู่บ้านหลังนี้ (ที่บอกอายุเพราะการที่โดนกระทำแบบนี้อาจเกี่ยวอายุก้อได้) เราซื้อบ้านอยู่ชลบุรี ตอนเลือกซื้อบ้านก้อเลือกจากโครงการที่ดูแล้วโอเค มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก อยู่ใกล้แหล่งคมนาคม เดินทางสะดวก และแล้วก้อมาตกลงปลงใจกับโครงการนี้แหละ ถูกใจใช่เลย

รูปลักษณ์ : ณ ตอนที่ซื้อ บ้านโครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวแบ่งออกเป็น 3 type ราคาก้อ 3,300,000 (Type C) / 2,800,000 (Type B) / 2,400,000 (Type A)  เราซื้อบ้าน type B ค่ะ ราคา 2,800,000 แต่ไม่ได้ซื้อเงินสดนะ (มันไม่ใช่เงินน้อยๆเลยสำหรับผู้หญิงที่ทำงานหาเงิน ทำทุกอย่างโดยไม่รบกวนที่บ้านแม้แต่บาทเดียว) ลักษณะการจัดเรียนบ้านจะเป็นแบบนี้ค่ะ ในแต่ละซอย บ้านแพงสุดจะอยู่ด้านหน้าๆเลย แพงรองลงมาจะอยู่กลางๆ และราคาน้อยสุดจะอยู่ด้านในสุดเลย ซื่งบ้านที่เราซื้อด้านซ้ายติดกับบ้าน type เดียวกัน ด้านขวาติดกับบ้าน Type เล็กสุด อ้อลืมบอกไป! เรื่องแรกที่มีเรื่องกัน คือเรื่องที่จอดรถ ขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
- บ้าน type C จอดรถได้ 2 คัน หน้าบ้านจอดได้ 2 คัน แบบสบายมากๆ
- บ้าน type B จอดรถได้ 1 คัน หน้าบ้านจอดได้ 2 คัน แบบสบายๆ
- บ้าน type A จอดรถได้ 1 คัน หน้าบ้านจอดได้ 2 คัน แบบคับแคบสุดๆ

สำหรับบ้านเรา แฟนเราจอดในบ้าน เราจอดหน้ารั้วค่ะ เพราะใช้รถทุกวัน

ความคาดหวัง :
- หมู่บ้านมีสภาพแวดล้อมที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก อยู่ใกล้แหล่งคมนาคม เดินทางสะดวก  , ผลลัพธ์ OK
- โครงสร้างบ้าน แปลน อื่นๆ , ผลลัพธ์ OK
- เพื่อนบ้านที่ดี , ผลลัพธ์ NG อย่างแรง

"บ้านครอบครัว" :
เอาหละ เข้าเรื่องซักที ขออภัยที่เกริ่นซะยาว เอาเป็นว่าบ้านรอบทิศเราดีหมด ยกเว้น บ้านข้างขวาเรา ขอเรียกว่า "บ้านครอบครัว"
ลักษณะโดยทั่วไปของบ้านครอบครัว ที่สัมผัสได้ : เป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันหลายคน คล้ายๆกับว่า ลูกสาวมาซื้อบ้านอยู่กับผัว มีลูกเล็กๆ ระดับอนุบาล โดยมีผู้อาศัยคือหลักคือ น้องเมีย พ่อตา แม่ยาย และก้อมีญาติมาอาศัยอยู่บ้างประปราย มีหมา 3 ตัว แมว 1 ตัว ผัวเค้าทำอู่รถยนต์ นานๆมาที แต่ละคนมีนิสัยดังนี้
- เมีย : ปากดีมากกกกก หยาบคาย เสียงดังโวยวาย พูดเสียงเบาๆไม่เป็น ชอบดุแม่ ด่าลูก ด่าหยาบคาย ได้อีก คุยโทรศัพท์ตะโกนเสียงดังสามบ้านแปดบ้าน ชอบบีบแตรรถเสียงดังๆ เพื่อให้แม่มาเปิดประตู ถ้าเราเป็นผู้ชายเราจะไม่เอาผู้หญิงคนนี้มาทำเมียแน่นอน
- ผัว : เสียงดังโวยวาย ชอบคุยโอ้อวด ชอบทำตัวเป็นนักเลงใหญ่ นานๆกลับบ้านที
- น้องเมีย : นิสัยเหมือนพี่มัน
- แม่ยาย : อันนี้ดีหน่อย แต่เสียงดังโวยวาย
- พ่อตา : กินเหล้าทุกวัน เสียงดัง

ปัญหาที่เผชิญ เกี่ยวกับเพื่อนบ้าน :
- เสียงดังโวยวาย หยาบคาย
    เราซื้อบ้านหลังนี้คิดว่าจะเจอเพื่อนบ้านที่ดี เพราะราคาพอสมควร แต่ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับครอบครัวนี้ ด้วยความที่บ้านติดกันเราจะเจอแบบนี้เสมอ ครอบครัวนี้เค้าชอบด่ากันเป็นกิจวัตร ตะโกนคุยกันเสียงดังโวยวาย เรื่องรัยชาวบ้านรู้หมด ทุกๆวันเราจะต้องได้ยินเสียงจากคนที่เป็นเมีย ได้แก่คำว่า  กู "ไอ้เฮี่ย" "" "อีนั่น" "ไอ้นี่" เยอะแยะมากมายไปหมด มาก เราคิดตลอดว่า นี่เราอยู่ในโครงการหมู่บ้านหรืออยู่ในสลัมกันแน่ ถ้าเรามีลูกเราจะเลี้ยงเค้าที่ไหน คัยไม่เป็นเราไม่รู้หรอก นังเมียนี่ใช้แทนกับลูกตัวน้อยๆว่ากูทุกคำ เรียกลูกว่าทุกคำ และแทนคนอื่นๆว่า"อี,ไอ้" มีอยู่ครั้งนึงที่ราได้ยิน นังเมียมันตะโกนฟ้องแม่มัน "แม่ๆๆๆ ไอ้....(ชื่อลูก) มันเรียกหนูว่าอี"
จากนั้นก้อหันไปด่าลูก
"ไอ้เฮี่ย เป็นลูกกูนะ มาเรียกกูอีได้งัย คัยสั่งคัยสอน" ประมานนี้แล้วก้อด่าๆๆๆๆๆ เสียงดังลั่นบ้านไปหมด
เด็กน้อยก้อเหมือนผ้าขาว ทำไปเค้าถึงทำแบบนี้กับลูก เอาสีดำไปสาดใส่ทำไม ทำไม่พูดกันดีๆ
มีครั้งนึงเราได้ยินอีกเหมือนลูกเค้าเป็นแผลกลับมา แม่มันก้อด่าลูกว่า "ไปทำเฮี่ยอะไรมา ไปโดนเพื่อนต่อยมาหรอ ดูซิเนื้อตัวเลอะเทอะไปหมด" แล้วก้อด่าลูก ด่าอย่างเดียว ไม่มีสอนกันดีๆเลย มีอีกมากมายเล่าไม่หมด เยอะมาก

- เรื่องที่จอดรถ ภาคแรก
     ที่บอกว่าภาคแรก เพราะตอนนั้นเรายังไม่ซื้อรถ ฉนั้นบ้านเราจะจอดรถข้างในคันเดียว หน้าบ้านจะว่าง เรื่องมันมีอยู่ว่า ข้างบ้านเราเค้าทำอู่รถ รถที่บ้านเค้าจะเยอะมากๆๆๆๆๆ หมุนเวียนมาตลอด แล้วก้อจะมาจอดหน้าบ้านเราเป็นประจำ จอดทั้งกลางวันกลางคืน อันนี้คือไม่เคยขอกันเลย ไม่เคยมาคุยด้วยว่าจะขอจอด เพื่อนเรามางี้ไม่เคยได้จอดต้องออกไปจอดที่อื่น เราก้อเริ่มทนไม่ไหวแล้วแหละ เพราะมันทุกวันเลย มีอยู่ครั้งนึง เรากับแฟนเราขี่มอไซไปขึ้นรถบริษัท แต่วันนั้นไปไม่ทันรถ เค้าก้อเลยเอามอไซด์มาจอดหน้าบ้าน ย้ำ "จอดหน้าบ้านตัวเอง" แล้วก้อขับรถไปทำงานโดยไม่ได้เอามอไซด์ไปเก็บ เป็นเหตุให้บ้านมันจอดรถมันหน้าบ้านเราไม่ได้ เย็นวันนั้นเรากลับมาอยู่บ้านคนเดียว เหตุการณ์ก้อก้อเกิดขึ้น ขณะเรานั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน

ผัวมัน : เห้ยยยย!!! น้อง!! มีคัยอยู่ในบ้านป่าวหนะ ออกมาคุยกันหน่อยดิ๊! (นี่คือสิ่งที่ผัวมันเรียกเรา มันยืนเรียกเราอยู่ข้างบ้านตรงรั้วมัน เรียกหลายครั้งมากจนเราต้องออกไป)
เรา : มีอะไรคะ
ผัวมัน : นี่มันจะเกินไปแล้วนะ ถึงขั้นเอามอไซด์มาจอดขวาง ไม่ให้จอดรถกันเลยหรอ
เรา : อธิบายถึงเหตุผล บลาๆๆ
ผัวมัน : (บ่ายเบี่ยงประเด็น) เห็นว่าอยู่กันสองคน รถก้อมีคันเดียว ก้อเลยจะขอจอดบ้างเป็นครั้งคราว(ได้ข่าวว่าทุกวัน) ก้อนึกว่าไม่อยากให้จอด เห็นทำพฤติกรรมแบบนี้ (สรุปคือกุผิดใช่มะ?)


เห้ยยยยยย นี่บ้านเรานะโว้ยยยยย ทำไมๆๆ ไม่เข้าใจเลยอ่ะ จอดมอไซหน้าบ้านตัวเองไม่ได้หรอวะ

- เรื่องที่จอดรถ ภาคสอง
     เราย้ายบริษัท แล้วก้อซื้อรถ ก้อเลยเอารถมาจอดหน้าบ้านฝั่งรั้วปูน ทุกๆครั้งที่จอด เราจะจอดค่อนข้างชิดรั้วบ้านเรา แต่หน้ารถค่อนไปทางข้างบ้าน ง่ายๆคือจอดเกือบชิดหน้าบ้านมันแหละ สาเหตุคือบ้านฝั่งตรงข้ามเรา ถ้าเค้าจะจอดรถในบ้านเค้าจะหักวงเลี้ยวลำบากมากถ้าเราไม่จอดชิด ดังนั้นเราก้อเลยจอดชิดๆ แต่ย้ำนะว่าอยู่ในเขตบ้านเรา ไม่ลำเส้นไปบ้านมันแน่นอนแล้วก้อไม่ได้ชิดอะไรมากมาย และแล้ววันนึง เราไปขี่มอไซต์ไปกินข้าวกับแฟนแล้วกลับมาสักสองทุ่ม ผัวมันยืนรอเลยที่รั้วบ้านมัน ยืนตะโกนเรียกแฟนเรา เราจะเล่าย่อๆนะ  ผัวมันตะโกนเสียงดัง เสียงดังไปยันหน้าหมูบ้านเลยก้อว่าได้ บ้านแถวนั้นเปิดประตูหน้าต่างออกมาดูกันหมด

ผัวมัน : เห้ย ไอ้น้อง นี่ทำเกินไปแล้วนะโว้ย
แฟนเรา : ทำไมคับ เรื่องอะไร
ผัวมัน : นี่จอดรถกันแบบนี้มันไม่เห็นแก่ตัวกันไปหน่อยเหรอ จอดชิดหน้าบ้านพี่ขนาดนี้ (ค;ามจิงไม่ชิดเลย มีถังขยะกั้นซะขนาดนั้น ซึ่งถังขยะมันก้อเป็นคนมาขยับกั้นเอง)
แฟนเรา : (พยายามอธิบายเหตุผลว่าทำไม บลาๆ) ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะคับ หน้าบ้านก้อบ้านผม ผมเข้าใจคับ รถบ้านพี่หลายคัน จอดหน้าบ้านสองคันก้อเต็มแล้ว แต่พี่เคยมาคุยกับผมหรือเปล่าละคับเรื่องที่จอดรถ อยู่ๆก้อมาโวยวายแบบนี้
ผัวมัน : กุไม่สนโว้ย ถ้ากูรู้ว่ามีเพื่อนบ้านอย่าง กูไม่มาอยู่หรอกโว้ย บลาๆๆๆ (มันขึ้นกู ขณะที่แฟนเราพูด พี่ คับ ทุกคำ)
เรา : พูดกันเบาๆก้อได้นะคะ เกรงใจคนอื่นเค้า
ผัวมัน : กุไม่เบาโว้ย จะพูดแบบนี้ คัยจะได้ยินก้อได้ยินไป

เหตุการณ์นี้ เราเถียงกับมันนานมาก นานจนต้องบอกให้แฟนเราหยุดแล้วเข้าบ้านไป ส่วนบ้านมันก้อมายืนดูกันเต็มแต่ไม่มีคัยห้ามเลย เช้าวันต่อมาแม่แฟนเรามาเคลียร์เพราะเป็นห่วงมาก แม่แฟนเราร้อนใจมากถึงขนาดจะเอาคนที่มีอิทธืพลในพื้นที่ไปขู่มันที่อู่รถยนต์ด้วยซ้ำ แต่ก้อไม่ได้ทำเพราะกลัวเรื่องไม่จบ ตอนแม่แฟนเรามาไม่เจอตัวผัวแต่เจอเมียมัน เมียมันบอก "โอ้ย ไม่มีรัยหรอกป้า แฟนหนูเค้าเป็นคนเสียงดัง" มันพูดแค่นี้ มาก หรือว่ามันเห็นเราเป็นเด็ก เลยข่มเหงได้หรอ? หรือว่าอิจฉาว่าอายุเท่านี้แต่ซื้อบ้านได้หลังใหญ่กว่ามัน? บ้านมันชอบคุยนักหนาว่ารวย งู้นงี้ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่สุด ที่จอดรถเยอะๆ ห้องนอนเยอะๆไปเลย มาซื้อบ้านหลังเล็กสุด ที่จอดรถแคบๆ ทำไม

- เรื่องแมว
     บ้านครอบครัวมันเลี้ยงแมวไว้ตัวนึง เลี้ยงแบบปล่อยปะละเลย แมวมันชอบมาบ้านเราเพราะเงียบไม่มีหมากวน รอยตีนแมวนี่เต็มผนังรอบบ้านเราไปหมด แมวมันชอบคาบซากหนูมากินที่บ้านเรา สภาพคือ ไส้ทะลัก หัวขาด หางขาด ตัวขาด หนอนขึ้น แฟนเราต้องไปเก็บเป็นประจำ บ่อยมากแทบจะวันเว้นวัน เราไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังงัยดี เราไม่อยากเลี้ยงหมาเพราะทำงานทั้งคู่ไม่มีเวลาดูแล ส่วนตอนกลางคืนแมวมันก้อชอบมานอนที่เบาะรถมอไซค์ รอยเล็บขูดเบาะขาดเต็มไปหมดจนต้องเปลี่ยนเบาะใหม่แล้วหาผ้าคลุม
     เราเคยไปบอกป้าที่เป็นแม่ยายว่าแมวเค้าเป็นแบบนี้ เราเจอปัญหานี้ เราพูดดีๆ น้องเมียมันรีบแจ๋นขึ้นมาว่า แมวในหมูบ้านมีตั้งหลายตัว จะมาโทษแมวมันได้งัย    เราไม่รู้จะทำงัยเกี่ยวกับปัญหาแมว เบื่อมาก


นี่คือส่วนหนึ่งที่เราเจอ ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เล่าไม่หมด ทุกวันนี้เราไม่คุยกับบ้านนี้เลย อะไรเลี่ยงได้เราเลี่ยง ปัญหาเล็กๆน้อยเราพยายามไม่เอามาใส่ใจ เราเบื่อมากกกกกกกกกกกกก เราเคยไปคุยกับบ้านรอบๆข้าง เค้าเบื่อเหมือนเรา เค้าได้ยินเหมือนเรา แต่เค้าก้อไม่คิดว่ามันจะทำกับเราขนาดนี้ มีบางบ้านบอกผัวมันเป็นนักเลงหัวไม้ อย่าไปสนใจ เราก้อแค่อยากจะมาแชร์ให้หลายๆคนรับรู้ สิ่งที่ทำได้คือทำใจ เราเคยไปหาดูหมู่บ้านอื่น อยากย้ายมาก แต่เดี๋ยวนี้ราคาบ้านแพงเหลือเกิน ขั้นต่ำก้อสามล้านกว่า จนใจละหละ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ จบละค่ะ