คุยเรื่อง Live ในอนาคต น่าสนใจไหม หรือคิดต่าง อย่างไร

กระทู้สนทนา
วันนี้ได้เขาไปอ่านข่าวเเละงบของ Live .มา
http://www.skenique.com/menu_detail.php?menu_id=62&m=2
เกี่ยวการเข้าไปถือหุ้น เกี่ยวกับความสวยความงาม สกินิก กรุ๊ป
ที่ 029/2557
วันที่ 2 พฤษภาคม 2557
เรื่อง ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีการลงทุนในบริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ้างถึง 1. หนังสือแจ้งสารสนเทศ “เรื่องการลงทุนซื้อหุ้นสามัญ บริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด ฉบับลงวันที่ 24 เมษายน 2557”
ตามที่บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) (“บริษัท”) เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด (“สกินิก กรุ๊ป”) ในสัดส่วนร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียน มูลค่ารวมเป็นเงิน 14,500,000 บาท ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
ข้อ 1. ที่มาที่ไปของการเข้าลงทุนใน สกินิก กรุ๊ป และชื่อผู้ที่แนะนาให้บริษัทเข้าลงทุน
สืบเนื่องจากตามแผนธุรกิจ 3 ปี ของบริษัทที่ต้องลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นการขยายประเภทธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งและทาให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทจึงมองหาธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่าอนาคตตลาดของธุรกิจเสริมความงามว่าสามารถเติบโตต่อไปได้อีกเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน รวมทั้งเมื่อเปิดสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC แล้วจะทาให้ตลาดของธุรกิจประเภทนี้สามารถเติบโตไปอีกมากเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทสนใจในธุรกิจเสริมความงาม คือ บริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด และเหตุผลที่เลือกบริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด เพราะ บริษัทมองเห็นศักยภาพของ สกินิก กรุ๊ป ว่าสามารถเติบโตต่อไปได้อีก รวมทั้งการลงทุนใน สกินิก กรุ๊ป เป็นการลงทุนในจานวนไม่มาก เพราะเป็นการลงทุนในช่วงเริ่มต้นที่ สกินิก กรุ๊ป กาลังขยายธุรกิจและขยายฐานลูกค้า ซึ่งหากบริษัทไปเลือกลงทุนในบริษัทที่ดาเนินธุรกิจประเภทนี้จนติดตลาดแล้วบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนในจานวนมากกว่า ดังนั้น เมื่อการลงทุนใน สกินิก กรุ๊ป มีจานวนเงินลงทุนไม่สูงมากจนเกินไป รวมทั้ง สกินิก กรุ๊ป มีศักยภาพในการดาเนินธุรกิจ จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทเลือกลงทุนใน สกินิก กรุ๊ป
ในประเด็นของผู้แนะนาให้บริษัทลงทุนนั้น ในส่วนนี้ไม่มีผู้แนะนาให้บริษัทลงทุน แต่เป็นทีมผู้บริหารของบริษัท โดยนางสาวณีรนุช ณ ระนอง นายอภินันท์ ปัญญากร นายวีรพันธ์ ณ ระนอง และนายประเสริฐพงศ์ บูลภักดิ์ ซึ่งมีความชานาญในการเข้าไปลงทุนกิจการใหม่ ๆ และเล็งเห็นถึงศักยภาพของ สกินิก กรุ๊ป จึงเข้าไปเจรจากับผู้บริหารของ สกินิก กรุ๊ป โดยตรง
ข้อ 2. อธิบายข้อมูลของ สกินิก กรุ๊ป เพิ่มเติมเกี่ยวกับ
2.1 ลักษณะของสถาบันเสริมความงาม
สถาบันเสริมความงามของ สกินิก กรุ๊ป เป็นคลินิกที่เปิดให้บริการในลักษณะเสริมความงาม ในเรื่องการลบริ้วรอย ร่องรอยแห่งวัย ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ และร้อยไหม รวมถึงการเลเซอร์ต่าง ๆ ทั้งนี้รวมตลอดถึงการให้บริการให้คาปรึกษา แนะนา แก่ลูกค้าโดยทั่วไป เกี่ยวกับเรื่องเสริมความงามต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายในการให้บริการที่ว่า “ความสวยคือศิลปะที่ออกแบบได้”
สาหรับ สกินิก กรุ๊ป ดาเนินธุรกิจในรูปแบบ Holding company เพื่อเข้าไปลงทุนในคลินิกแต่ละสาขา โดยการดาเนินธุรกิจของแต่ละสาขา จะจัดตั้งขึ้นในรูปแบบบริษัทจากัด กล่าวคือ 1 สาขา ต่อ 1 บริษัท โดยสัดส่วนการถือหุ้นแต่ละสาขา เพื่อบริหารจัดการแต่ละสาขา สกินิก กรุ๊ป จะให้แพทย์ในพื้นที่ที่ตั้งสาขานั้นถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 30 และสัดส่วนที่เหลือจะถือหุ้นโดย สกินิก กรุ๊ป
2.2 วันที่ก่อตั้ง จานวนและที่ตั้งสาขา
คลินิก สกินิก ณ ปัจจุบัน มี 2 สาขา โดยสาขาที่ 1 ก่อตั้งและเปิดทาการเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555 หรือเรียกว่า สาขาหาดใหญ่ โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งในรูปบริษัทจากัด เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2556 ภายใต้ชื่อ “บริษัท สกินิก จากัด” สานักงานตั้งอยู่เลขที่ 405 ถนนนิพัทธิ์สงเคราะห์ 1 อาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และสาขาที่ 2 ก่อตั้งและเปิดทาการเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 หรือเรียกว่า สาขาสยามสแควร์ ภายใต้ชื่อ “คลินิก สกินิก สาขาสยามสแควร์” ตั้งอยู่ที่ สยามสแควร์ ซอย 3 กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้สาขาสยามสแควร์ อยู่ระหว่างการดาเนินการจัดตั้งเป็นบริษัทจากัด
2.3 ฐานะทางการเงิน และผลการดาเนินงานที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก สกินิก กรุ๊ป จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2557 จึงยังไม่มีงบการเงินที่สอบทาน และในการหามูลค่าตามบัญชีจึงไม่สามารถจะทาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สกินิก กรุ๊ป ถือหุ้นอยู่ในคลินิก สกินิก ทั้ง 2 สาขา ในสัดส่วนร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งเดิมก่อนที่บริษัทจะเข้าไปซื้อหุ้นจากสกินิก กรุ๊ป คลินิก สกินิก ทั้ง 2 สาขา ลักษณะการประกอบธุรกิจไม่ได้จดทะเบียนและบริหารงานในรูปแบบของบริษัทจากัด แต่จะมีหุ้นส่วน 3 คน คือ นางสาวลดาวัลย์ คงดาเนิน นายพีระพล ปึงพิพัฒน์ตระกูล และนายเจริญลักษณ์ คงดาเนิน ที่ร่วมกันก่อตั้งและร่วมกันบริหารงานมาโดยตลอด ซึ่งผลการดาเนินงานตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี นับจากวันที่เริ่มก่อตั้งสาขาที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อไตรมาส อยู่ที่ร้อยละ 18.65 ของรายได้ และในการดาเนินงานที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนของหุ้นส่วนทั้ง 3 คน โดยไม่ต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินแต่อย่างใด ซึ่งจากผลการเติบโตดังกล่าวทาให้หุ้นส่วนทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นผู้เริ่มก่อตั้ง คลินิก สกินิก คืนทุนได้ภายใน 1 ปี
ข้อ 3. หลักเกณฑ์ในการกาหนดราคาซื้อ สกินิก กรุ๊ป ตามที่บริษัทระบุว่าราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายพิจารณาแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าเป็นราคาที่เหมาะสมนั้น ใช้หลักเกณฑ์ใดในการพิจารณากาหนดราคา
เนื่องจากบริษัท สกินิก กรุ๊ป จัดตั้งเมื่อ วันที่ 13 มีนาคม 2557 ตามเงื่อนไขที่ได้อธิบายในข้อ 2.3 ซึ่งบริษัท ไม่สามารถนางบการเงินของ สกินิก กรุ๊ป มาคานวณหามูลค่าที่เหมาะสมได้ ดังนั้น บริษัทจึงใช้วิธีการคานวณโดยการนารายรับ รายจ่าย และผลกาไรที่เกิดขึ้นจากผลการดาเนินงานจริงของทั้ง 2 สาขา คือ คลินิก สกินิก สาขาหาดใหญ่ และคลินิก สกินิก สาขาสยามสแควร์ มาคานวณหามูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกาไรต่อหุ้น (P/E Ratio)
นอกจากนี้บริษัทขอแก้ไขข้อความในหนังสือแจ้งข่าวสารสนเทศของบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) ฉบับที่ 026/2557 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 จากที่ได้ระบุรายละเอียดโดยบริษัทแจ้งว่ารายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด เป็นรายการประเภทที่ 3 นั้น บริษัทขอชี้แจงแก้ไขว่ารายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สกินิก กรุ๊ป จากัด ไม่ใช่รายการประเภทที่ 3 เพราะมิใช่รายการที่บริษัทได้ออกหุ้นของบริษัทเพื่อเป็นการตอบแทนการได้มาซึ่งสินทรัพย์นั้น แต่รายการดังกล่าวเป็นรายการที่บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่นเกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
_____________________________
( นายธรากร จันทร์เกิด )
เลขานุการบริษัท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่