ส่วนตัวคิดว่าคงไม่น่าจะมี เพราะเป็นเรื่องของแต่ละประเทศนั้นๆ แต่ละที่ก็มีกฏการให้วีซ่ายากง่ายต่างกันไป
แต่มักจะเห็น บางประเทศ การจะไปของวีซ่าประเทศเค้าจะได้อย่างไม่ยากเลย ถ้าเรามีวีซ่าประเทศอื่นมาก่อน
อย่างเช่นได้ยินว่า (ไม่แน่ใจว่าถูกผิดยังไง ช่วยยืนยันด้วย) ถ้าจะเข้าไต้หวัน ก็ควรมีวีซ่าของอเมริกาก่อน
อย่างนี้เค้าใช้เกณฑ์อะไรเป็นการวัดอ่ะคะ ว่าถ้าเข้าประเทศนี้ได้ ก็เข้าประเทศนั้นได้ แบบนั้นหรือ
แล้วถ้าคนที่โดนปฏิเสธวีซ่าจากที่นึง แล้วไปขอวีซ่าอีกที่นึง อย่างนี้เค้าจะรู้ไหมว่า โดนปฏิเสธจากประเทศก่อนหน้าเพราะอะไร
แล้วถ้าคนที่เคยโดดวีซ่า เวลาไปขอวีซ่าประเทศอื่น จะทำให้ยากขึ้นไหม
นอกจากการเปิดดูพาสปอร์ตเล่มเก่าดูแล้ว ทางสถานทูตจะรู้หรือไม่ว่า บุคคลนั้นได้เคยไปประเทศไหนมาแล้วบ้าง หรือว่ามันเป็นข้อมูลส่วนตัวซึ่งเราจะบอกหรือไม่บอกก็ได้
เคยได้ยินมาว่า (อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าได้ยินมาถูกไหม) เมื่อสมัยสักยี่สิบปีที่แล้ว อาจจะระบบคอมพิวเตอร์กักเก็บข้อมูลไม่ละเอียดเท่ากับสมัยนี้ เคยมีคนๆนึงไปโดดวีซ่าที่อเมริกา ทำงานในร้านอาหาร แต่ก็กลับมาไทย พออยากกลับไปอเมริกาอีกครั้งก็ไปเปลี่ยนชื่อไทยก่อน นามสกุลก็คงเปลี่ยนเพราะเค้าแต่งงานด้วย จากนั้นก็ค่อยไปขอวีซ่าใหม่ คล้ายๆกับว่าเป็นคนอีกคนไปเลย สรุปขอวีซ่าผ่าน เลยได้อเมริกาอีกครั้ง โดยที่เค้าไม่รู้ว่าเป็นคนๆเดียวกันกับคนก่อนที่โดด เพราะสมัยนั้นยังไม่มีการบันทึกลายนิ้วมือ
ิอยากทราบว่า ระหว่างสถานทูตของแต่ละประเทศมีการแบ่งข้อมูลกันรึเปล่าเวลาขอวีซ่า
แต่มักจะเห็น บางประเทศ การจะไปของวีซ่าประเทศเค้าจะได้อย่างไม่ยากเลย ถ้าเรามีวีซ่าประเทศอื่นมาก่อน
อย่างเช่นได้ยินว่า (ไม่แน่ใจว่าถูกผิดยังไง ช่วยยืนยันด้วย) ถ้าจะเข้าไต้หวัน ก็ควรมีวีซ่าของอเมริกาก่อน
อย่างนี้เค้าใช้เกณฑ์อะไรเป็นการวัดอ่ะคะ ว่าถ้าเข้าประเทศนี้ได้ ก็เข้าประเทศนั้นได้ แบบนั้นหรือ
แล้วถ้าคนที่โดนปฏิเสธวีซ่าจากที่นึง แล้วไปขอวีซ่าอีกที่นึง อย่างนี้เค้าจะรู้ไหมว่า โดนปฏิเสธจากประเทศก่อนหน้าเพราะอะไร
แล้วถ้าคนที่เคยโดดวีซ่า เวลาไปขอวีซ่าประเทศอื่น จะทำให้ยากขึ้นไหม
นอกจากการเปิดดูพาสปอร์ตเล่มเก่าดูแล้ว ทางสถานทูตจะรู้หรือไม่ว่า บุคคลนั้นได้เคยไปประเทศไหนมาแล้วบ้าง หรือว่ามันเป็นข้อมูลส่วนตัวซึ่งเราจะบอกหรือไม่บอกก็ได้
เคยได้ยินมาว่า (อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าได้ยินมาถูกไหม) เมื่อสมัยสักยี่สิบปีที่แล้ว อาจจะระบบคอมพิวเตอร์กักเก็บข้อมูลไม่ละเอียดเท่ากับสมัยนี้ เคยมีคนๆนึงไปโดดวีซ่าที่อเมริกา ทำงานในร้านอาหาร แต่ก็กลับมาไทย พออยากกลับไปอเมริกาอีกครั้งก็ไปเปลี่ยนชื่อไทยก่อน นามสกุลก็คงเปลี่ยนเพราะเค้าแต่งงานด้วย จากนั้นก็ค่อยไปขอวีซ่าใหม่ คล้ายๆกับว่าเป็นคนอีกคนไปเลย สรุปขอวีซ่าผ่าน เลยได้อเมริกาอีกครั้ง โดยที่เค้าไม่รู้ว่าเป็นคนๆเดียวกันกับคนก่อนที่โดด เพราะสมัยนั้นยังไม่มีการบันทึกลายนิ้วมือ