. . ผมมีกลุ่มเพื่อน ที่ชอบตีแบดมินตันด้วยกัน 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก ผมเป็นขาประจำ ตีแบด ทุกบ่ายวันอาทิตย์ กลุ่มนี้ เป็นเพื่อน สมัย มัธยม
กลุ่มที่สอง ผมเป็นขาจร แวะไปตี เฉพาะ ตอนไปค้างบ้านเพื่อนรัก นาย McGuyver
ตีกันประมาณ 3 ทุ่มกว่า ถึงเที่ยงคืน วันเสาร์
(พวกนี้ เป็นพวกค้างคาวราตรี เป็นเพื่อนตอนมหาลัย
ชอบออกกำลังกายกันดึก ๆ พวกนี้บอกว่า อากาศดี รถไม่ติด )
แบดมินตัน ที่ผมเล่นนั้น ก็เล่นกันแบบชาวบ้าน ไม่มีกรรมการตัดสิน
ไม่มีคนดูลูกออกเส้นให้ ต้องดูกันเอง ขานแต้มกันเอง
ส่วนใหญ่ก็เล่นประเภทคู่ มากกว่า เพราะเล่นเดี่ยวไม่ไหว
การนับแต้ม
ถ้าเล่นกับเพื่อนสมัยมัธยม เราเล่นนับแต้ม แบบกติกาเก่า
คือ แต้มจะเดินต่อเมื่อ เป็นฝ่ายเสริฟ์ ถ้าฝ่ายเสริฟ์ตีเสีย แต้มไม่เดิน
กติกาจริง ๆ (แบบเก่า) เล่นกัน ๑๕ ลูก (คะแนน)
แต่พวกเราลงมติกันว่า ไม่ไหว เล่นกันแค่ ๙ ลูก ก็พอ
( ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไม ต้อง ๙ ก็คิดเอาว่า คงเป็นเลขมงคล
การเชื่อในตัวเลขนี่ เป็นกันทุกๆคนเลยนะครับ)
แต่ถ้าเล่นกับเพื่อนมหาลัย เราเล่นกับแบบมาตราฐานสากล
คือ แต้มเดินตลอด (เขาเรียกว่า แบบ แรลลี่ )
ไม่ว่าฝ่ายเสริฟ์ หรือ ฝ่ายรับ เสริฟ์ลูกเสีย ตีลูกเสีย แต้มเดินตลอด
กติกาสากล (ที่ใช้กันทุกวันนี้) เล่นกัน ๒๑ ลูก (คะแนน)
และ เพื่อนๆ กลุ่มนี้ ใช้กติกา มาตราฐาน อย่าง เคร่งครัด ๒๑ แต้ม คือ ๒๑ แต้ม
(ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า มันจะเหนื่อยขนาดไหน
ผมเล่นไปหอบไป โหดสุด ๆ ไม่ปรานีปราศรัยกันเลย)
หลังจากที่ได้เล่นแบดมินตัน กับ เพื่อนๆ ทั้ง ๒ กลุ่มนี้ มาหลายปีดีดัก
ผมได้ประมวลข้อสังเกต บางประการ ตามความคิดส่วนตัวของผม ที่ได้รับจากสนามแบด ดังต่อไปนี้
1. เวลาตีแบดเสีย ( ตีออก ตบไม่ลง หยอดไม่ข้าม Net )
เรามักจะทำเป็นดูไม้แบด จับเอ็นที่ยึดไม้ ว่าหย่อน ตึงเกินไปรึเปล่า ดูแล้วดูอีก (แก้เขิน)
(หากไม้แบด มันพูดได้ มันคงบอกว่า แกตีไม่ดีเอง ไม่ต้องมาโทษข้าเลยนะ)
2. การดูลูกแบด ยังอยู่ในเส้น หรือออกนอกสนาม
เราสามาถ ทายนิสัย ของคู่เล่นฝั่งตรงข้าม ได้เลยว่า เขาเป็นคนอย่างไร
หากเขาขานลูกว่า ออกนอกเส้น จนเ็ป็น "นิสัย"
แสดงว่า . . ให้ทำใจได้เลยว่า ถ่าลูกก่ำกึ่ง ให้เตรียมใจเสียคะแนน
(และแปลได้ว่า น้ำใจนักกีฬา คงเหือดแห้งไปแล้ว คนแบบนี้ หวังชัยชนะเป็นที่ตั้ง . . มิตรภาพเรื่องรอง)
3. การนับคะแนน ก็บอก นิสัย คนได้
ถ้าชอบนับแต้มผิด แบบว่า ฝ่ายตัวเองมีคะแนนนำเสมอ ( เราก็ต้องทำใจ )
ถ้าชอบเถียงแต้มกันบ่อย ท้วงกันบ่อย ๆ ว่ามีการนับแต้มผิด ( คนแบบนี้ ถือว่า จริงจังในทุก ๆ เรื่อง)
แต่ ถ้านับแต้มไม่ถูก ซึ่งแบบนี้ สำหรับผมเอง ซึ่งชอบเป็นคนขานแต้ม ให้เพื่อนๆ เวลาเล่น
ถ้าผมเริ่มนับแต้มไม่ถูกแล้ว ผมจะรู้ได้ทันทีว่า เกมส์นั้น ผมเหนื่อยมาก ๆ จนจำแต้มไม่ได้
หรือเจอคนเล่นหนัก ๆ มาก จนต้องตั้งใจเล่น จนไม่สามารถจำคะแนนระหว่างเล่นได้เลย
4. การส่งลูก เวลาเริ่มคะแนนใหม่
เวลาแต้มหยุด ลูกไปตกในสนาม นอกสนาม ใกล้ ไกลตัวเรา
คนที่จะเก็บลูกให้ ฝ่ายเดียวกัน หรือ ฝ่ายตรงข้าม เพื่อเริ่มเล่นแต้มใหม่
เราจะรู้ทันทีเลยว่า เพื่อนที่เราเล่นด้วย คู่เล่นฝั่งตรงข้าม มีน้ำใจไหม เวลาต้องส่งลูกให้กัน
(ผมวัดใจ นิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตรงนี้เลย พวกที่ไม่ชอบเก็บลูก ให้คนอื่น นี่ก็ . . )
5. การบอกเทคนิคการเล่น ระหว่างการเล่น
มีคนจำพวกหนึ่ง คือ ชอบเป็นกุนซือ ระหว่างการเล่น คอยสั่งสอน คู่เล่น ให้ทำอย่างโน่นอย่างนี่
อันนี้ ต้องดูด้วยว่า Work ไม่ Work ผมเคยเจอทั้งเป็น กุนซือจริง กับกุนซือปลอม ๆ
เราจะรู้เลย ว่า ให้ที่สอน ๆ นี้ เวลาเล่นกัน กุนซือที่เล่นกับเรา มันเป็นจริง ๆ รึเปล่า
(อันนี้วัดไม่ค่อยได้ เพราะบางคนสอนเทคนิคให้ดีจริง ๆ แต่บางคนสอน แต่กลับทำไม่ได้ก็มี)
6. การให้กำลังใจกัน
ผมติดนิสัย ไม่ว่าฝ่ายเรา ฝ่ายเขา ตีแบดกัน ลูกได้เสียยังไง ผมก็ชอบต้องตะโกนว่า " เยี่ยม " เสมอ
บางทีก้อ "ปรบมือ" ให้ บางที ก็ "ยกนิ้วโป้ง" ชมว่ายอด ต้องยกแต้มให้จริง ๆ
ผมชอบทำแบบนี้บ่อย ๆ เพราะผมเชื่อว่า เรามาเล่นกันแบบชาวบ้าน เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น
เราไม่ได้มาเล่นกัน "แบบกินบ้านกินเมือง" ไม่ต้องซีเรียสคิดมาก จะต้องแพ้ชนะกันเอาเป็นเอาตาย
(แต่เราต้องจริงจัง แสดงฝีมือเวลาเล่นนะครับ ไม่ชอบพวกเล่นไม่เต็มร้อย)
ดังนั้น เราต้องคอยให้ สถานการณ์ ในระหว่างการเล่น มันรื่นเริงด้วย หัวเราะบ้าง ตบมือบ้าง
บรรยากาศจะได้ดูสบาย ๆ กันเอง และกระชับความเป็นมิตรด้วย
7. การตำหนิ คู่เล่น อันนี้ ต้องหลีกเลี่ยงนะครับ
ผมดูนิสัยคนก็ตรงนี้แหละ บางคนพาล โมโหโกรธาเพื่อนที่เป็นคู่เล่นฝ่ายเดียวกัน (ที่ฝีมืออ่อนกว่า)
อย่างที่บอก เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น ไม่ได้เป็นทีมชาติ คนเราบางทีก็มีขีดจำกัด
เวลาผมเห็นใครตำหนิเพื่อนแรง ๆ ในการเล่น ผมมักเห็นใจคนที่ถูกตำหนิมากกว่า
แต่ถ้าเป็นการแซวกัน อำกัน อันนี้ ผมถือว่าเป็นสีสัน
และผมก็ชอบจริง ๆ คนไหนอำดี มุขดี กัด จิก แบบสนุก ๆ
ผมจะสังเกตได้เลยว่า คนนั้นเพื่อนจะรักมากเป็นพิเศษ
เพราะผมคิดว่า เขาคงสนิทกันมาก จนอำกันได้แบบไม่ถือสา
(แต่ถ้าอย่างพวกที่ตำหนิแรง ๆ อันนี้ ผมเคยฟังคู่เล่นที่ถูกตำหนิมาระบายให้ฟังว่า ไม่อยากจับคู่เล่นกับคนนั้นเลยก็มี)
8. การขอโทษและให้อภัยกันและกัน
บ่อยครั้งที่เราตีลูก ดันไม่ข้าม แต่ลูกดันไปโดนคู่เล่นของเราเอง (เต็มหลัง)
บ่อยครั้งที่เราได้ลูกที่สวยงามเหมาะแก่การหยอด ตบ ตี สวนกลับ แต่เรากลับหวืด (ทำเสียเอง)
บ่อยครั้งที่เราตั้งใจมากไปหน่อย วิ่งไปเล่นลูกโดยไม่ดูคู่เล่น แล้วดันวิ่งชนกัน หรือเอาไม้ตีกัน (ผมเรียกว่า ยักษ์ชนยักษ์)
บ่อยครั้งที่เราตั้งใจมาก ๆ ตบลูกเต็มเหนี่ยวและมันก็ได้ผล นอกจากลงในเส้นแล้ว มันยังไปถูกกบาลของฝ่ายตรงข้าม
บ่อยครั้งที่เรา ลืมตัว แสดงอาการแย่ ๆ ออกมา เช่นเล่นไม่เต็มที่ หรือ เอาเป็นเอาตายเกินเหตุ
สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ผิดพลาด ผมเชื่อว่า่อาจเกิดขึ้นได้ในสนามทุกเมื่อ ซึ่งบางทีเราก็ควบคุมไม่ได้
แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้แน่ ๆ ก็คือ การขอโทษ และให้อภัยกันและกันครับ
9. น้ำใจ นอกสนาม
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน วิ่งออกไปซื้อน้ำมาให้เพื่อน ๆ ออกเงินส่วนตัวไปก่อน
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชี คอยคำนวณเงินค่าใช้จ่าย โดยไม่มีใครร้องขอ
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน คอยเช็คว่ามีใครลืม ไม้แบด สัมภาระของเพื่อน ๆ หลังเล่นเกมส์จบแล้ว
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ออกเงินค่าเล่นแบด ให้เพื่อนบางคน (ที่ไม่มี) แล้วไม่เคยทวงคืนเลย
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน อยู่นอกสนาม ก็ยัง Entertain ตบมือ ขานแต้ม เชียร์ให้เพื่อนเฮฮา จนเสียงแหบเสียงแห้ง
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน คอยแนะนำ กติกา เทคนิค การเล่น แบบไม่อมภูมิ
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน นอกจากเล่นแบดแล้ว ยังดันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เรื่องอื่น ๆ อีก โดยไม่คิดว่าเสียเวลาเปล่าเลย
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ไม่หวงไม้แบดสุดโปรด ราคาแพง มีน้ำใจ ยกให้เพื่อนโดยไม่ลังเลเลย
ผมเคยเห็น สิ่งดีๆ เหล่านี้มาแล้ว แล้วมันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ผมยังหลงทาง หาทางออกจากสนามแบดแห่งนี้ . . ไม่ได้เลย
.................................................................................................
ทิ้งท้าย . . ปลายสนาม
การเล่น แบดมินตัน เราอาจจำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์นอกกาย บางอย่าง ในการเล่น
แต่ สิ่งที่สำคัญ สำหรับ แบดมินตัน หรือ กีฬาอื่น ๆ ทุกประเภท
กลับเป็น " สิ่งที่อยู่ภายในของเราเอง"
ก่อน และหลัง จบเกมส์ ในและนอกสนาม
คุณมี "ใจ" ให้ กับการเล่น และ
คุณมี "น้ำใจ" ให้กับ ผู้ร่วมเล่น ทุก ๆ คนแล้วรึยัง ?
ผมเชื่อว่า การเล่น กีฬา สามารถแสดง "ธาตุแท้ในใจ" ของเรา บางส่วนออกมาได้
ทุกขณะที่ คุณเล่น กีฬาอยู่ บางที อาจมีใครกำลัง สังเกต ดูนิสัย คุณอยู่ก็ได้ ครับ
Bad Cheerful - by Pichaya
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=473072
Badminton Man ❤️
. . ผมมีกลุ่มเพื่อน ที่ชอบตีแบดมินตันด้วยกัน 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก ผมเป็นขาประจำ ตีแบด ทุกบ่ายวันอาทิตย์ กลุ่มนี้ เป็นเพื่อน สมัย มัธยม
กลุ่มที่สอง ผมเป็นขาจร แวะไปตี เฉพาะ ตอนไปค้างบ้านเพื่อนรัก นาย McGuyver
ตีกันประมาณ 3 ทุ่มกว่า ถึงเที่ยงคืน วันเสาร์
(พวกนี้ เป็นพวกค้างคาวราตรี เป็นเพื่อนตอนมหาลัย
ชอบออกกำลังกายกันดึก ๆ พวกนี้บอกว่า อากาศดี รถไม่ติด )
แบดมินตัน ที่ผมเล่นนั้น ก็เล่นกันแบบชาวบ้าน ไม่มีกรรมการตัดสิน
ไม่มีคนดูลูกออกเส้นให้ ต้องดูกันเอง ขานแต้มกันเอง
ส่วนใหญ่ก็เล่นประเภทคู่ มากกว่า เพราะเล่นเดี่ยวไม่ไหว
การนับแต้ม
ถ้าเล่นกับเพื่อนสมัยมัธยม เราเล่นนับแต้ม แบบกติกาเก่า
คือ แต้มจะเดินต่อเมื่อ เป็นฝ่ายเสริฟ์ ถ้าฝ่ายเสริฟ์ตีเสีย แต้มไม่เดิน
กติกาจริง ๆ (แบบเก่า) เล่นกัน ๑๕ ลูก (คะแนน)
แต่พวกเราลงมติกันว่า ไม่ไหว เล่นกันแค่ ๙ ลูก ก็พอ
( ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไม ต้อง ๙ ก็คิดเอาว่า คงเป็นเลขมงคล
การเชื่อในตัวเลขนี่ เป็นกันทุกๆคนเลยนะครับ)
แต่ถ้าเล่นกับเพื่อนมหาลัย เราเล่นกับแบบมาตราฐานสากล
คือ แต้มเดินตลอด (เขาเรียกว่า แบบ แรลลี่ )
ไม่ว่าฝ่ายเสริฟ์ หรือ ฝ่ายรับ เสริฟ์ลูกเสีย ตีลูกเสีย แต้มเดินตลอด
กติกาสากล (ที่ใช้กันทุกวันนี้) เล่นกัน ๒๑ ลูก (คะแนน)
และ เพื่อนๆ กลุ่มนี้ ใช้กติกา มาตราฐาน อย่าง เคร่งครัด ๒๑ แต้ม คือ ๒๑ แต้ม
(ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า มันจะเหนื่อยขนาดไหน
ผมเล่นไปหอบไป โหดสุด ๆ ไม่ปรานีปราศรัยกันเลย)
หลังจากที่ได้เล่นแบดมินตัน กับ เพื่อนๆ ทั้ง ๒ กลุ่มนี้ มาหลายปีดีดัก
ผมได้ประมวลข้อสังเกต บางประการ ตามความคิดส่วนตัวของผม ที่ได้รับจากสนามแบด ดังต่อไปนี้
1. เวลาตีแบดเสีย ( ตีออก ตบไม่ลง หยอดไม่ข้าม Net )
เรามักจะทำเป็นดูไม้แบด จับเอ็นที่ยึดไม้ ว่าหย่อน ตึงเกินไปรึเปล่า ดูแล้วดูอีก (แก้เขิน)
(หากไม้แบด มันพูดได้ มันคงบอกว่า แกตีไม่ดีเอง ไม่ต้องมาโทษข้าเลยนะ)
2. การดูลูกแบด ยังอยู่ในเส้น หรือออกนอกสนาม
เราสามาถ ทายนิสัย ของคู่เล่นฝั่งตรงข้าม ได้เลยว่า เขาเป็นคนอย่างไร
หากเขาขานลูกว่า ออกนอกเส้น จนเ็ป็น "นิสัย"
แสดงว่า . . ให้ทำใจได้เลยว่า ถ่าลูกก่ำกึ่ง ให้เตรียมใจเสียคะแนน
(และแปลได้ว่า น้ำใจนักกีฬา คงเหือดแห้งไปแล้ว คนแบบนี้ หวังชัยชนะเป็นที่ตั้ง . . มิตรภาพเรื่องรอง)
3. การนับคะแนน ก็บอก นิสัย คนได้
ถ้าชอบนับแต้มผิด แบบว่า ฝ่ายตัวเองมีคะแนนนำเสมอ ( เราก็ต้องทำใจ )
ถ้าชอบเถียงแต้มกันบ่อย ท้วงกันบ่อย ๆ ว่ามีการนับแต้มผิด ( คนแบบนี้ ถือว่า จริงจังในทุก ๆ เรื่อง)
แต่ ถ้านับแต้มไม่ถูก ซึ่งแบบนี้ สำหรับผมเอง ซึ่งชอบเป็นคนขานแต้ม ให้เพื่อนๆ เวลาเล่น
ถ้าผมเริ่มนับแต้มไม่ถูกแล้ว ผมจะรู้ได้ทันทีว่า เกมส์นั้น ผมเหนื่อยมาก ๆ จนจำแต้มไม่ได้
หรือเจอคนเล่นหนัก ๆ มาก จนต้องตั้งใจเล่น จนไม่สามารถจำคะแนนระหว่างเล่นได้เลย
4. การส่งลูก เวลาเริ่มคะแนนใหม่
เวลาแต้มหยุด ลูกไปตกในสนาม นอกสนาม ใกล้ ไกลตัวเรา
คนที่จะเก็บลูกให้ ฝ่ายเดียวกัน หรือ ฝ่ายตรงข้าม เพื่อเริ่มเล่นแต้มใหม่
เราจะรู้ทันทีเลยว่า เพื่อนที่เราเล่นด้วย คู่เล่นฝั่งตรงข้าม มีน้ำใจไหม เวลาต้องส่งลูกให้กัน
(ผมวัดใจ นิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตรงนี้เลย พวกที่ไม่ชอบเก็บลูก ให้คนอื่น นี่ก็ . . )
5. การบอกเทคนิคการเล่น ระหว่างการเล่น
มีคนจำพวกหนึ่ง คือ ชอบเป็นกุนซือ ระหว่างการเล่น คอยสั่งสอน คู่เล่น ให้ทำอย่างโน่นอย่างนี่
อันนี้ ต้องดูด้วยว่า Work ไม่ Work ผมเคยเจอทั้งเป็น กุนซือจริง กับกุนซือปลอม ๆ
เราจะรู้เลย ว่า ให้ที่สอน ๆ นี้ เวลาเล่นกัน กุนซือที่เล่นกับเรา มันเป็นจริง ๆ รึเปล่า
(อันนี้วัดไม่ค่อยได้ เพราะบางคนสอนเทคนิคให้ดีจริง ๆ แต่บางคนสอน แต่กลับทำไม่ได้ก็มี)
6. การให้กำลังใจกัน
ผมติดนิสัย ไม่ว่าฝ่ายเรา ฝ่ายเขา ตีแบดกัน ลูกได้เสียยังไง ผมก็ชอบต้องตะโกนว่า " เยี่ยม " เสมอ
บางทีก้อ "ปรบมือ" ให้ บางที ก็ "ยกนิ้วโป้ง" ชมว่ายอด ต้องยกแต้มให้จริง ๆ
ผมชอบทำแบบนี้บ่อย ๆ เพราะผมเชื่อว่า เรามาเล่นกันแบบชาวบ้าน เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น
เราไม่ได้มาเล่นกัน "แบบกินบ้านกินเมือง" ไม่ต้องซีเรียสคิดมาก จะต้องแพ้ชนะกันเอาเป็นเอาตาย
(แต่เราต้องจริงจัง แสดงฝีมือเวลาเล่นนะครับ ไม่ชอบพวกเล่นไม่เต็มร้อย)
ดังนั้น เราต้องคอยให้ สถานการณ์ ในระหว่างการเล่น มันรื่นเริงด้วย หัวเราะบ้าง ตบมือบ้าง
บรรยากาศจะได้ดูสบาย ๆ กันเอง และกระชับความเป็นมิตรด้วย
7. การตำหนิ คู่เล่น อันนี้ ต้องหลีกเลี่ยงนะครับ
ผมดูนิสัยคนก็ตรงนี้แหละ บางคนพาล โมโหโกรธาเพื่อนที่เป็นคู่เล่นฝ่ายเดียวกัน (ที่ฝีมืออ่อนกว่า)
อย่างที่บอก เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น ไม่ได้เป็นทีมชาติ คนเราบางทีก็มีขีดจำกัด
เวลาผมเห็นใครตำหนิเพื่อนแรง ๆ ในการเล่น ผมมักเห็นใจคนที่ถูกตำหนิมากกว่า
แต่ถ้าเป็นการแซวกัน อำกัน อันนี้ ผมถือว่าเป็นสีสัน
และผมก็ชอบจริง ๆ คนไหนอำดี มุขดี กัด จิก แบบสนุก ๆ
ผมจะสังเกตได้เลยว่า คนนั้นเพื่อนจะรักมากเป็นพิเศษ
เพราะผมคิดว่า เขาคงสนิทกันมาก จนอำกันได้แบบไม่ถือสา
(แต่ถ้าอย่างพวกที่ตำหนิแรง ๆ อันนี้ ผมเคยฟังคู่เล่นที่ถูกตำหนิมาระบายให้ฟังว่า ไม่อยากจับคู่เล่นกับคนนั้นเลยก็มี)
8. การขอโทษและให้อภัยกันและกัน
บ่อยครั้งที่เราตีลูก ดันไม่ข้าม แต่ลูกดันไปโดนคู่เล่นของเราเอง (เต็มหลัง)
บ่อยครั้งที่เราได้ลูกที่สวยงามเหมาะแก่การหยอด ตบ ตี สวนกลับ แต่เรากลับหวืด (ทำเสียเอง)
บ่อยครั้งที่เราตั้งใจมากไปหน่อย วิ่งไปเล่นลูกโดยไม่ดูคู่เล่น แล้วดันวิ่งชนกัน หรือเอาไม้ตีกัน (ผมเรียกว่า ยักษ์ชนยักษ์)
บ่อยครั้งที่เราตั้งใจมาก ๆ ตบลูกเต็มเหนี่ยวและมันก็ได้ผล นอกจากลงในเส้นแล้ว มันยังไปถูกกบาลของฝ่ายตรงข้าม
บ่อยครั้งที่เรา ลืมตัว แสดงอาการแย่ ๆ ออกมา เช่นเล่นไม่เต็มที่ หรือ เอาเป็นเอาตายเกินเหตุ
สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ผิดพลาด ผมเชื่อว่า่อาจเกิดขึ้นได้ในสนามทุกเมื่อ ซึ่งบางทีเราก็ควบคุมไม่ได้
แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้แน่ ๆ ก็คือ การขอโทษ และให้อภัยกันและกันครับ
9. น้ำใจ นอกสนาม
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน วิ่งออกไปซื้อน้ำมาให้เพื่อน ๆ ออกเงินส่วนตัวไปก่อน
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชี คอยคำนวณเงินค่าใช้จ่าย โดยไม่มีใครร้องขอ
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน คอยเช็คว่ามีใครลืม ไม้แบด สัมภาระของเพื่อน ๆ หลังเล่นเกมส์จบแล้ว
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ออกเงินค่าเล่นแบด ให้เพื่อนบางคน (ที่ไม่มี) แล้วไม่เคยทวงคืนเลย
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน อยู่นอกสนาม ก็ยัง Entertain ตบมือ ขานแต้ม เชียร์ให้เพื่อนเฮฮา จนเสียงแหบเสียงแห้ง
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน คอยแนะนำ กติกา เทคนิค การเล่น แบบไม่อมภูมิ
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน นอกจากเล่นแบดแล้ว ยังดันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เรื่องอื่น ๆ อีก โดยไม่คิดว่าเสียเวลาเปล่าเลย
เคยไหม เห็นเพื่อนบางคน ไม่หวงไม้แบดสุดโปรด ราคาแพง มีน้ำใจ ยกให้เพื่อนโดยไม่ลังเลเลย
ผมเคยเห็น สิ่งดีๆ เหล่านี้มาแล้ว แล้วมันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ผมยังหลงทาง หาทางออกจากสนามแบดแห่งนี้ . . ไม่ได้เลย
.................................................................................................
ทิ้งท้าย . . ปลายสนาม
การเล่น แบดมินตัน เราอาจจำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์นอกกาย บางอย่าง ในการเล่น
แต่ สิ่งที่สำคัญ สำหรับ แบดมินตัน หรือ กีฬาอื่น ๆ ทุกประเภท
กลับเป็น " สิ่งที่อยู่ภายในของเราเอง"
ก่อน และหลัง จบเกมส์ ในและนอกสนาม
คุณมี "ใจ" ให้ กับการเล่น และ
คุณมี "น้ำใจ" ให้กับ ผู้ร่วมเล่น ทุก ๆ คนแล้วรึยัง ?
ผมเชื่อว่า การเล่น กีฬา สามารถแสดง "ธาตุแท้ในใจ" ของเรา บางส่วนออกมาได้
ทุกขณะที่ คุณเล่น กีฬาอยู่ บางที อาจมีใครกำลัง สังเกต ดูนิสัย คุณอยู่ก็ได้ ครับ
Bad Cheerful - by Pichaya
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=473072