ทริปคนเถื่อน เชียงใหม่ ดอยสุเทพ ดอยม่อนแจ่ม 4 เม.ย. 57 – 7 เม.ย. 57
ที่ตั้งชื่อว่า
"ทริปคนเถื่อน" เพราะสำหรับพวกผมแล้วทริปนี้ถือเป็นทริปที่ ดิบ เถื่อน เนื่องจากปกติพวกผมปั่นกันแต่ทางราบ
ประกอบกับการนั่งรถไฟฟรี 10กว่าชั่วโมงไปเชียงใหม่ และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย...
ทริปนี้เกิดจากความเสี้ยนส่วนบุคคลของ จขกท. ที่อยากจะปั่นจักรยานที่เชียงใหม่
จึงทำการชวนเพื่อนๆ&พี่ชาย ตั้งแต่ประมาณเดือน ก.พ. (ก่อนสอบอีก!) ตอนแรกคิดว่า จะปั่นจาก กทม. ไป หรือยังไงดี
ด้วยกำลังขาที่มีอันน้อยนิด ของนักปั่นมือใหม่อย่างพวกเรา 4คน(หมอบ2 เสือภูเขา2) จึงตัดสินใจที่จะไปด้วยรถไฟฟรี ขบวน109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
หลังจากสอบเสร็จ ผมก็หาข้อมูลในเน็ต ไม่ว่าจะเป็น การนำจักรยานขึ้นรถไฟ ที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
และแผนการก็ถูกจัดทำขึ้นมาอย่างเรียบร้อย...
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
วันแรก 4 เม.ย. 57
เริ่มจากการที่ผมตื่นตั้งแต่ 06.00 และปั่นจักรยานไปสถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อรับตั๋วรถไฟฟรีขบวน 109 กทม.-ชม
(ในขณะที่พี่ผมยังคงนอนอยู่ = = แต่ให้อภัยครับ มันทำงานหนัก 55+)
หลังจากนั้นก็จัดของอย่างเรียบร้อย นำน้ำที่แช่Freezeไว้2คืนใส่กระเป๋า ไว้ดับกระหายบนรถไฟที่แสนทรมาน!
ประมาน 09.15 ก็ปั่นไปหัวลำโพงกัน 2 คนกับพี่ชาย
และแล้วสมาชิกทริปทุกคนก็มาพร้อมกันประมาณ 10.30
ก็ไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ของการรถไฟ เรื่องจักรยานเลยครับ ง่าย&สะดวกมาก
ตอนแรกนึกว่าจะยุ่งยาก แต่ไม่เลยครับ แค่นำตั๋วรถไฟไปยื่นเค้าแล้วก็บอกว่า “เอาจักรยานไปลงเชียงใหม่ครับ”
เจ้าหน้าที่ก็จัดการเขียนใบระวางสินค้า ตกคันละ 90 บาทครับ 4คัน ก็ 360 บาท
เรียบร้อยแล้วก็มาถ่ายรูปกันสักหน่อยยย
อันนี้เบื้องหลังการถ่ายทำ 55+
เนื่องจากรถไฟขบวน 109 จอดเทียบชานชาลาแล้ว เราจึงปลด Accessories ของจักรยานออกเพื่อป้องกันความเสียหาย
และนำจักรยานขึ้นไปผูก&ล็อคที่ตู้สัมภาระให้เรียบร้อย
จากนั้นก็ไปเติมพลังที่ KFC ที่สถานีหัวลำโพง เข้า 7-11 เพื่อตุนเสบียงและรีบกลับไปที่รถไฟ
12.47 รถไฟก็ออกจากสถานีหัวลำโพงครับ (Late ไป 2 นาที ตามสไตล์รถไฟไทย)
อากาศค่อนข้างร้อนครับ รถไฟเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ เพราะยังอยู่ในเขตเมือง
และก็เร่งความเร็วขึ้นเมื่อผ่านสถานีรังสิต สักพักฟ้าก็เริ่มครึ้ม....
จากนั้นไม่นานฝนก็เริ่มตกปรอยๆ แต่ดีที่ฝนไม่สาดเข้ามา...
พวกเราก็คิดกันว่า ถ้าไปถึง ฝนตกจะทำไง??..... “ไม่รู้ว่ะ.... ลุยฝนมั้ย!!!”
ได้แต่ภาวนาให้ฝนไม่ตก
นั่งคุยกันไปคุยกันมา หลับไปหลับมา ลืมตามาอีกทีก็ลพบุรีแล้วคนก็เริ่มขึ้นมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวันศุกร์ คนกลับบ้านกันเยอะ
ฟ้าค่อยๆมืดลง ตอนนี้รถไฟ Late ไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง
ยิ่งดึกยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นเรื่อยๆ พลาดครับ ไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมา ใครจะไปรู้ เดือนเมษา กลางคืนมันจะหนาว
อ่ออ ลืมบอกครับ มีข่าวว่าพายุจะเข้าไทย วันที่ 4-7 พอดีเป๊ะ กับทริปผม = =
วันที่สอง 5 เม.ย. 57
หลังจากทนหนาวมาทั้งคืน มองนาฬิกา ก็ประมานเกือบตี4แล้ว คิดในใจคงเพิ่งเลยขุนตานมั้ง (คิดว่า Late 2 ชั่วโมง)
มองข้างทางก็มื๊ดดดมืด สักพักรถไฟก็จอด... สถานีลำพูนแล้วจ้า...
ห๊ะ อีกครึ่งชั่วโมงถึง เชียงใหม่
ห๊ะ รถไฟฟรี Late 30 นาที เห้ยยยยย เป็นไปได้ไง ทุกที นั่งมาถึงเชียงใหม่ Late 2-3 ชั่วโมงหนิ
และแล้วก็ถึงเชียงใหม่ครับ เราก็รีบไปตู้สัมภาระเอาจักรยานลง
ถ่ายรูปสักนิด ก่อนแปลงฟันล้างหน้าที่ สถานีรถไฟเชียงใหม่ เนื่องจากเจอฝุ่นรถไฟมาตลอดทาง หน้าดำหัวเหนียวกันทุกคน
เนื่องจากแผนที่วางไว้ คือน่าจะมาถึงนี่ประมาน 7 โมง แล้วจะไปหาอะไรกินก่อนเข้าโรงแรม
แต่รถไฟดันแทบจะไม่เลท เราจึงปั่นไปพักผ่อนที่โรงแรมกันเลย! (ตอน 04.30 หลังจากฝนตกหมาดๆ พื้นเปียกๆเนี้ยนะ!)
จากสถานีรถไฟไปโรงแรม B2Premier ก็ประมาน เกือบ 10กม.ครับ
พอถึงโรงแรมก็เช็คอิน และขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อน
ก่อนออกจากโรงแรมก็ถ่ายรูปหน้าโรงแรมสักนิ๊ด
09.30 ออกจากโรงแรมไปหาของกินและเตรียมปั่นขึ้น ดอยสุเทพกัน!!
แวะถ่ายรูปหน้า มช. สักนิดก่อนกินข้าววว
หลังจางท้องตึกหนัง หอนังตาก็เริ่มหย่น... เอ้ยไม่ใช่ ตุนอาหารมาพร้อม ร่างกายก็ฟิตพร้อมขึ้นดอยตะหาก...
มาแล้วววครับ ป้ายเตือน
ห๊ะ 11 กม. เองเหรอ ปั่นใน กทม. 11 กม. ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วนะ...
หลังจากถ่ายรูปเมื้อกี้เสร็จ ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนจาก เเค่นี้เองเหรอ เป็น ---> “จะถึงกี่โมงฟร่ะเนี่ย” หลังจากที่เห็นทาง
เจอแบบนี้เงิบขอแปปครับ 555+
ปั่นมาสักพัก ก็เหลือ 9 กิโลแล้ววว
เริ่มเปลี่ยนจากนั่งปั่น มากลายเป็นยืนปั่นแล้วนะฮะ
ปกติทางราบ พวกผมปั่นกัน AV ประมาณ 20-30 เจอชันแบบนี้บางจุดความเร็วเหลือแค่นี้ก็มีครับ
เราปั่นมาเรื่อยๆ แบบไม่รีบ เหนื่อยก็พัก เจอศาลาก็พัก เจอร่มไม้ก็พัก เหลือ อีก7กม.
โชคดีครับที่มาวันเสาร์ มีน้ำ&ผลไม้ขาย ตรงที่พักนี้ พวกเราจึงแวะถ่ายรูป&เติมน้ำ และก็ซัดแตงโมเพิ่มพลังสักนิด ก่อนที่จะลุยต่อ
แตงโมเพิ่มพลัง ทำให้ปั่นมาเหลือ 3 กม. แล้ววว
แวะถ่ายวิวตรงนี้ก็สวยนะครับ หาข้ออ้างถ่ายรูปไปอย่างงั้นเเหละครับ จริงๆแล้วคนอ่อนซ้อมอย่างพวกผมเหนื่อย 555+
สุดท้ายเราก็มาถึงจุดหมายครับ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
หลังจากเสียเหงื่อ เสียแรงไปกับการปั่นขึ้นดอย พวกเราก็เริ่มหิวอีกแล้วครับ
เลยจัด ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ก่อนขึ้นไปสักการะ พระธาตุดอยสุเทพ และถ่ายรูป(อีกแล้ว)
พักผ่อนชมวิวบนดอยจนถึงประมาน 16.30 ก็ ลงจากดอยกัน
ตอนลง มันมาก น่ากลัวมาก อันตรายถ้าเบรคไม่ดี
ขาลงพวกเราจัดกัน ยาว 11 กม. โดยไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ
อันนี้ไมล์ พี่ผมนะฮะ Max67.9 (หมอบเขียว) ขาลงใช้เวลาประมาน 20 นาที
จากนั้นก็ไปปั่นเล่นใน มช. ก่อนไปจัดมื้อเย็นที่เหมาะกับคนรักสุขภาพอย่างพวกเรา
ร้านนี้เป็นร้านของรุ่นน้องผมเองครับ “นิว สุกี้สนามกีฬา” เด็ดมากครับ ถือโอกาสโฆษณา
หลังจากอิ่มท้องแล้วพวกเราก็ปั่นไป เดินเล่นที่ถนนคนเดินวัวลาย ที่นี่จะมีเฉพาะวันเสาร์นะครับ
น่ารักมั้ยครับ อิอิ
เพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงไปกินนมก่อนนอนกันครับ ที่มนต์นมสด ก่อนที่จะกลับกลับโรงแรม
ที่โรงแรมนี้ อนุญาตให้เอาจักรยานขึ้นไปที่ห้องด้วย สุดยอดดดด
เป็นอันจบวันที่2 ของทริปครับ
ทริปคนเถื่อนปั่นจักรยาน เชียงใหม่ ดอยสุเทพ ดอยม่อนแจ่ม 4 เม.ย. 57 – 7 เม.ย. 57
ที่ตั้งชื่อว่า "ทริปคนเถื่อน" เพราะสำหรับพวกผมแล้วทริปนี้ถือเป็นทริปที่ ดิบ เถื่อน เนื่องจากปกติพวกผมปั่นกันแต่ทางราบ
ประกอบกับการนั่งรถไฟฟรี 10กว่าชั่วโมงไปเชียงใหม่ และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย...
ทริปนี้เกิดจากความเสี้ยนส่วนบุคคลของ จขกท. ที่อยากจะปั่นจักรยานที่เชียงใหม่
จึงทำการชวนเพื่อนๆ&พี่ชาย ตั้งแต่ประมาณเดือน ก.พ. (ก่อนสอบอีก!) ตอนแรกคิดว่า จะปั่นจาก กทม. ไป หรือยังไงดี
ด้วยกำลังขาที่มีอันน้อยนิด ของนักปั่นมือใหม่อย่างพวกเรา 4คน(หมอบ2 เสือภูเขา2) จึงตัดสินใจที่จะไปด้วยรถไฟฟรี ขบวน109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
หลังจากสอบเสร็จ ผมก็หาข้อมูลในเน็ต ไม่ว่าจะเป็น การนำจักรยานขึ้นรถไฟ ที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
และแผนการก็ถูกจัดทำขึ้นมาอย่างเรียบร้อย...
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
วันแรก 4 เม.ย. 57
เริ่มจากการที่ผมตื่นตั้งแต่ 06.00 และปั่นจักรยานไปสถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อรับตั๋วรถไฟฟรีขบวน 109 กทม.-ชม
(ในขณะที่พี่ผมยังคงนอนอยู่ = = แต่ให้อภัยครับ มันทำงานหนัก 55+)
หลังจากนั้นก็จัดของอย่างเรียบร้อย นำน้ำที่แช่Freezeไว้2คืนใส่กระเป๋า ไว้ดับกระหายบนรถไฟที่แสนทรมาน!
ประมาน 09.15 ก็ปั่นไปหัวลำโพงกัน 2 คนกับพี่ชาย
และแล้วสมาชิกทริปทุกคนก็มาพร้อมกันประมาณ 10.30
ก็ไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ของการรถไฟ เรื่องจักรยานเลยครับ ง่าย&สะดวกมาก
ตอนแรกนึกว่าจะยุ่งยาก แต่ไม่เลยครับ แค่นำตั๋วรถไฟไปยื่นเค้าแล้วก็บอกว่า “เอาจักรยานไปลงเชียงใหม่ครับ”
เจ้าหน้าที่ก็จัดการเขียนใบระวางสินค้า ตกคันละ 90 บาทครับ 4คัน ก็ 360 บาท
เรียบร้อยแล้วก็มาถ่ายรูปกันสักหน่อยยย
อันนี้เบื้องหลังการถ่ายทำ 55+
เนื่องจากรถไฟขบวน 109 จอดเทียบชานชาลาแล้ว เราจึงปลด Accessories ของจักรยานออกเพื่อป้องกันความเสียหาย
และนำจักรยานขึ้นไปผูก&ล็อคที่ตู้สัมภาระให้เรียบร้อย
จากนั้นก็ไปเติมพลังที่ KFC ที่สถานีหัวลำโพง เข้า 7-11 เพื่อตุนเสบียงและรีบกลับไปที่รถไฟ
12.47 รถไฟก็ออกจากสถานีหัวลำโพงครับ (Late ไป 2 นาที ตามสไตล์รถไฟไทย)
อากาศค่อนข้างร้อนครับ รถไฟเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ เพราะยังอยู่ในเขตเมือง
และก็เร่งความเร็วขึ้นเมื่อผ่านสถานีรังสิต สักพักฟ้าก็เริ่มครึ้ม....
จากนั้นไม่นานฝนก็เริ่มตกปรอยๆ แต่ดีที่ฝนไม่สาดเข้ามา...
พวกเราก็คิดกันว่า ถ้าไปถึง ฝนตกจะทำไง??..... “ไม่รู้ว่ะ.... ลุยฝนมั้ย!!!”
ได้แต่ภาวนาให้ฝนไม่ตก
นั่งคุยกันไปคุยกันมา หลับไปหลับมา ลืมตามาอีกทีก็ลพบุรีแล้วคนก็เริ่มขึ้นมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวันศุกร์ คนกลับบ้านกันเยอะ
ฟ้าค่อยๆมืดลง ตอนนี้รถไฟ Late ไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง
ยิ่งดึกยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นเรื่อยๆ พลาดครับ ไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมา ใครจะไปรู้ เดือนเมษา กลางคืนมันจะหนาว
อ่ออ ลืมบอกครับ มีข่าวว่าพายุจะเข้าไทย วันที่ 4-7 พอดีเป๊ะ กับทริปผม = =
วันที่สอง 5 เม.ย. 57
หลังจากทนหนาวมาทั้งคืน มองนาฬิกา ก็ประมานเกือบตี4แล้ว คิดในใจคงเพิ่งเลยขุนตานมั้ง (คิดว่า Late 2 ชั่วโมง)
มองข้างทางก็มื๊ดดดมืด สักพักรถไฟก็จอด... สถานีลำพูนแล้วจ้า...
ห๊ะ อีกครึ่งชั่วโมงถึง เชียงใหม่
ห๊ะ รถไฟฟรี Late 30 นาที เห้ยยยยย เป็นไปได้ไง ทุกที นั่งมาถึงเชียงใหม่ Late 2-3 ชั่วโมงหนิ
และแล้วก็ถึงเชียงใหม่ครับ เราก็รีบไปตู้สัมภาระเอาจักรยานลง
ถ่ายรูปสักนิด ก่อนแปลงฟันล้างหน้าที่ สถานีรถไฟเชียงใหม่ เนื่องจากเจอฝุ่นรถไฟมาตลอดทาง หน้าดำหัวเหนียวกันทุกคน
เนื่องจากแผนที่วางไว้ คือน่าจะมาถึงนี่ประมาน 7 โมง แล้วจะไปหาอะไรกินก่อนเข้าโรงแรม
แต่รถไฟดันแทบจะไม่เลท เราจึงปั่นไปพักผ่อนที่โรงแรมกันเลย! (ตอน 04.30 หลังจากฝนตกหมาดๆ พื้นเปียกๆเนี้ยนะ!)
จากสถานีรถไฟไปโรงแรม B2Premier ก็ประมาน เกือบ 10กม.ครับ
พอถึงโรงแรมก็เช็คอิน และขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อน
ก่อนออกจากโรงแรมก็ถ่ายรูปหน้าโรงแรมสักนิ๊ด
09.30 ออกจากโรงแรมไปหาของกินและเตรียมปั่นขึ้น ดอยสุเทพกัน!!
แวะถ่ายรูปหน้า มช. สักนิดก่อนกินข้าววว
หลังจางท้องตึกหนัง หอนังตาก็เริ่มหย่น... เอ้ยไม่ใช่ ตุนอาหารมาพร้อม ร่างกายก็ฟิตพร้อมขึ้นดอยตะหาก...
มาแล้วววครับ ป้ายเตือน
ห๊ะ 11 กม. เองเหรอ ปั่นใน กทม. 11 กม. ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วนะ...
หลังจากถ่ายรูปเมื้อกี้เสร็จ ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนจาก เเค่นี้เองเหรอ เป็น ---> “จะถึงกี่โมงฟร่ะเนี่ย” หลังจากที่เห็นทาง
เจอแบบนี้เงิบขอแปปครับ 555+
ปั่นมาสักพัก ก็เหลือ 9 กิโลแล้ววว
เริ่มเปลี่ยนจากนั่งปั่น มากลายเป็นยืนปั่นแล้วนะฮะ
ปกติทางราบ พวกผมปั่นกัน AV ประมาณ 20-30 เจอชันแบบนี้บางจุดความเร็วเหลือแค่นี้ก็มีครับ
เราปั่นมาเรื่อยๆ แบบไม่รีบ เหนื่อยก็พัก เจอศาลาก็พัก เจอร่มไม้ก็พัก เหลือ อีก7กม.
โชคดีครับที่มาวันเสาร์ มีน้ำ&ผลไม้ขาย ตรงที่พักนี้ พวกเราจึงแวะถ่ายรูป&เติมน้ำ และก็ซัดแตงโมเพิ่มพลังสักนิด ก่อนที่จะลุยต่อ
แตงโมเพิ่มพลัง ทำให้ปั่นมาเหลือ 3 กม. แล้ววว
แวะถ่ายวิวตรงนี้ก็สวยนะครับ หาข้ออ้างถ่ายรูปไปอย่างงั้นเเหละครับ จริงๆแล้วคนอ่อนซ้อมอย่างพวกผมเหนื่อย 555+
สุดท้ายเราก็มาถึงจุดหมายครับ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
หลังจากเสียเหงื่อ เสียแรงไปกับการปั่นขึ้นดอย พวกเราก็เริ่มหิวอีกแล้วครับ
เลยจัด ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ก่อนขึ้นไปสักการะ พระธาตุดอยสุเทพ และถ่ายรูป(อีกแล้ว)
พักผ่อนชมวิวบนดอยจนถึงประมาน 16.30 ก็ ลงจากดอยกัน
ตอนลง มันมาก น่ากลัวมาก อันตรายถ้าเบรคไม่ดี
ขาลงพวกเราจัดกัน ยาว 11 กม. โดยไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ
อันนี้ไมล์ พี่ผมนะฮะ Max67.9 (หมอบเขียว) ขาลงใช้เวลาประมาน 20 นาที
จากนั้นก็ไปปั่นเล่นใน มช. ก่อนไปจัดมื้อเย็นที่เหมาะกับคนรักสุขภาพอย่างพวกเรา
ร้านนี้เป็นร้านของรุ่นน้องผมเองครับ “นิว สุกี้สนามกีฬา” เด็ดมากครับ ถือโอกาสโฆษณา
หลังจากอิ่มท้องแล้วพวกเราก็ปั่นไป เดินเล่นที่ถนนคนเดินวัวลาย ที่นี่จะมีเฉพาะวันเสาร์นะครับ
น่ารักมั้ยครับ อิอิ
เพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงไปกินนมก่อนนอนกันครับ ที่มนต์นมสด ก่อนที่จะกลับกลับโรงแรม
ที่โรงแรมนี้ อนุญาตให้เอาจักรยานขึ้นไปที่ห้องด้วย สุดยอดดดด
เป็นอันจบวันที่2 ของทริปครับ