เกี่ยวกับทีวีดิจิตอลเมืองไทยที่แสนจะวุ่นวาย ผมอยากจะพูดอะไรหน่อย [กระทู้บ่นไปเรื่อย]

ผมอยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลเมืองไทยนี่แหละ ดูจากหลายๆกระทู้ เรื่องมันวุ่นวายมาก แล้วก็วุ่นวายขึ้นเรื่อย
ที่ผมจะพิมพ์ต่อไปนี้ เป็นความคิดของผมเอง ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ครับ แค่อยากบ่นแล้วให้ได้ลองคิด หรือจะมาอ่านเอามัน, อ่านแล้วรู้สึกหมั่นไส้ผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะในสังคมปัจจุบัน ผมก็โดนคนหมั่นไส้มาเยอะ (กระทู้นี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้มาเห็นใจ แค่อยากบ่น )
* เอียงกันมากเกิน ก็ไม่ดีนะ เอาซะเพลียปิดคอมนอนไว *
* เป็นกระทู้ที่ให้ลองคิดแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูครับ *

1.เรื่องคูปองทีวีดิจิตอล
= เรื่องนี้ผมดูแล้ว น่าจะเป็นปัญหาระดับต้นๆเลยก็ว่าได้
สำหรับ กสทช. ที่บอกว่าประมูล เพื่อนำเงินที่ประมูลช่องมาแจกคูปอง โดยเงินที่ทาง กสทช. ได้จากการประมูลงวดแรกของปีนี้ รวมทั้งหมดประมาณ 1.5หมื่นล้านบาท หารออกมาเป็นราคาประมาณ 680-700บาท ต่อบ้านประมาณนี้ ซึ่งดูแล้ว กสทช. เห็นว่าเงินประมาณนี้ คนที่จะซื้อกล่องทีวีดิจิตอลก็คงจ่ายเพิ่มเป็นแน่ และอยากให้ซื้อทีแบบกล่อง+เสาเป็นเซ็ต (น่าจะเพราะหลายบ้านล้มเสาก้างปลาไปแล้ว แต่ที่ผมสังเกต ถ้าเป็นอาคารพาณิชย์ จะไม่ค่อยล้มเสากัน [บ้านส่วนใหญ่ ผมยังเห็นว่าเสาก้างปลายังอยู่ และรองรับ UHF แบบไม่ถึงคลื่นสูงมาก [ไม่เกินUHF40] เลยวกกลับมาเหตุผลเรื่องกล่อง+เสาอีกครั้ง])

เรื่องคูปองเนี่ย มีการพิจารณาที่ช้าและไม่วางแผนตีกรอบไว้ก่อน ตัวผมมองว่าก่อนการประมูล ทาง กสทช. ควรคำนวณมูลค่าดักไว้เลยแบบหลายๆราคาว่า ถ้าเงินประมูลรวมได้เท่านี้ ก็จะได้คูปองราคาประมาณนี้ (คิดดักไว้เป็นร้อยStepไปเลย พอมันอยู่ในกรอบนี้ปั๊บ จะได้คิดไวขึ้น) พอประมูลเสร็จ ได้เงินงวดปีนี้มา จะได้แจกได้ทันที แต่นี่คิดหลายต่อ ปรับราคาไม่เสร็จซักที กำหนดก็เลื่อนจากเมษายนไปกรกฎาคม ไหนจะเรื่องเงินไม่พอกับคูปองราคา1พัน อาจต้องไปยืมงบหลวง (บานปลายอีก)

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักอยู่ที่ ถ้าจะให้ช้าแบบนี้ ไม่บอกดีกว่าไหม?
เพราะว่าพอบอกว่าจะแจกคูปอง คนก็รอซิครับ (คนไทยชอบของฟรีหรือจ่ายน้อย แต่ก็เป็นคนที่ใจร้อนรอนานไม่เก่งเช่นกัน) พอบอกเรื่องคูปอง คนที่เค้าจะใช้ทีวีดิจิตอล ต่างก็มีความหวัง จะได้ไปซื้อแบบออกเงินเองน้อยๆหรือไม่ต้องออกเงินเอง แต่นี่ลากมาหลายเดือนแล้ว กลายเป็นคนก็บ่น ทาง กสทช. ก็คิดหลายต่อ ไหนจะมีข่าวเรื่องผลประโยชน์ผูกพันอีก

ตรงนี้ผมแค่บ่น ขอไม่สรุป แต่ผมคิดว่าถ้าจะบอกเรื่องคูปอง ควรจะบอกเมื่อพร้อม
การบอกก่อนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อีกนัยน์คือทำให้ตลาดอืด (ขายไม่ค่อยออก ว่างั้นเหอะ) และทำให้คนที่รอเค้าปวดหัวและต้องมารอเก้อ (จนหลายคนทนไม่ไหว ไปซื้อกล่องมารอ แต่ส่วนมากจะเป็นแบบกล่อง+เสาชุดเดียว หลายคนคิดไว้ พอคูปองมา ก็ใช้คูปองสำหรับกล่องที่สอง หรือซื้อเสามาติด)

2.เรียงเลข
=ผมได้อ่าน Comment เมื่อเช้าในกระทู้เกี่ยวกับเลขช่อง ที่ได้บอกว่า กสทช. เห็นใจเรื่องเลข "มากเกินไป" ทำให้ผมคิดต่อ
มันก็จริงนะ เลขช่องมันมาเป็นหมวดจริง ถ้าประมูลเอาเลขแล้วเรียงได้จริงทุก Platform ก็น่ายินดีอยู่
แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นการที่ กสทช. เรียงเลขเอง ช่องก็อาจบ่นได้ว่าเลขไม่ตรงกับที่ต้องการหรือเล็งไว้ จะมีการบ่นกัน

หรือถ้าใช้แบบแยกหมวดจับฉลากล่ะ แยกหมวดเหมือนปัจจุบันตอนนี้ แต่จับฉลากเอา เพื่อไม่ให้เหลื่อมล้ำหรือใช้เงินแย่งเลขเกินไป ประมูลเอาแค่ให้ติดอันดับ ไม่ใช่แย่งเลข... อันนี้ให้คิดกันเองว่าเวิร์คไหม แต่ถ้าราคาประมูลติดๆกัน แบบไม่ทิ้งห่างและแพงเกิน ผมว่าวิธีนี้เวิร์ค เพราะเป็นธรรม ไม่ต้องมาล๊อกเลขกันเอง แล้วแต่ดวงที่จับได้ (แต่ กสทช. จะได้เงินน้อยหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบ เพราะว่าจะไม่ประมูลหนีกันเกิน ขอแค่ติดๆกันก็พอ เพราะเลขช่องต้องสุ่มอยู่ดี)

ผมขอลองดึงโมเดลอังกฤษแล้วกัน เพราะเราไปดึงโมเดลเค้ามาใช้ซะเยอะ โดยเฉพาะการเจาะจงประเภทของช่องและการเรียงเลขแบบแยกหมวด (ต่อไปนี้จะเข้าสู่โหมด "มโนเล่น")

ในอังกฤษฟรีทีวีเดิม จะได้เลขตามอนาล๊อก เช่น BBC One อนาล๊อกเจอก่อนช่องแรกก็ได้เลข 1, Channel 4 อนาล๊อกจะเจอเป็นช่องที่4 ก็ได้เลข 4
* แต่ว่าเป็น SD นะ เลข 1-5 ของฟรีทีวีเดิมใน UK ถ้า HD จะเรียงเป็นเลข 100-105 [106-109 เป็นช่อง HD หน้าใหม่หรือเสริมขึ้นมา] *

ซึ่งถ้าไทยเรียงตามนี้ ช่อง3 ก็จะเป็นเลข 1, ช่อง5 เลข 2, ช่อง7 เลข 3 ซึ่งมันจะตรงกับเลขเดิมที่เราจดจำกันมานาน จะไม่สับสนสำหรับฟรีทีวีเก่า (ที่ กสทช. ไม่เรียงแบบนี้ เดาว่าทาง กสทช. ไม่ได้คิดว่าช่องฟรีทีวีเดิมจะเอากันหมด ซึ่งตามหลัก ฟรีทีวีเดิมไม่ปล่อยแน่)

แต่เนื่องจากฟรีทีวีเดิมบ้านเรา ได้ HD กันหมด (บ้านเราไม่มีแยกแบบยุโรป ที่ HD ต้องคู่ขนาน SD ไปด้วย เนื่องจากบ้านเราใช้กล่องทีวีดิจิตอลกำหนดมาตรฐานคือต้องรับ HD ได้ ซึ่งถือว่าโชคดี เพราะในยุโรปหรือออสเตรเลีย กล่องทีวีดิจิตอลรุ่นล่างไม่รับ HD และเป็นการประหยัดบิทเรตอีกด้วย)
การที่ผู้ประมูลทีวีดิจิตอลเอกชนอีก 4ช่อง นอกเหนือจาก 3, 7, 9 (3ช่องสาธารณะนั้น ไม่ต้องประมูล) ก็คงต้องเรียงตามมา

ถ้าให้ผมคิดเล่นๆนะ
1=3 HD
2=5 HD
3=7 HD
4=MCOT HD
5=NBT HD
6=ThaiPBS HD
7-10=ผู้ประมูลHDหน้าใหม่อีก4ช่อง
11-19=สาธารณะ (4-12ของปัจจุบัน โดย ThaiPBS HD Kids อยู่เลข 11)
20-22=เด็กSD
23-29=ข่าวSD
30-36=วาไรตี้SD
37-48=ท้องถิ่นSD
อยากให้ลองคิดดูว่า เข้ากันไหม

การเรียงเลขที่ผมคิดเล่นๆ สังเกตได้ว่าคล้ายกับที่ใช้ปัจจุบันในโลกแห่งความเป็นจริงนี่แหละ แต่ว่าเอา HD ไว้ 1-10 เพื่อง่ายต่อการจำและการกด (ฟรีทีวีเดิม แทบไม่ต้องจำใหม่) แต่ว่ากล่องดาวเทียมจะไม่พอใจหนะสิ อาจต้องข้ามไปเลขหลัก 100-110 สำหรับช่องที่จองเลขไว้ แล้ว 111 เป็นต้นไป จะเป็นอะไรก็ว่ากัน (กดเลข3หลัก ยอมรับว่าจำยากในช่วงแรก แต่ว่าจะดีในระยะยาว) แล้วก็ช่อง 20-36 จะพอใจไหม ที่เหมือนเอาใจ HD มากกว่า SD

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ละ?

1-7 = วาไรตี้SD
8-10 = เด็กSD
11-17 = ข่าวSD
20-29 = สาธารณะ+วาไรตี้ HD โดยฟรีทีวีเดิมได้เลข 20-25 ตามเดิม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นฟรีทีวีที่ประมูลเข้ามาใหม่อีก 4ช่อง
30-38 = สาธารณะSD (ThaiPBS HD Kids ไว้เลข 30 จะได้เกาะกลุ่ม HD)
39-50 = ท้องถิ่นSD

ถ้าเป็นแบบนี้ แยกคล้ายๆกับ UK โดยให้ SD นำก่อน และ HD ตามหลัง จะแยกหมวดความละเอียดภาพได้ ฟรีทีวีเดิมไม่เสียเลขเดิม บอกว่าแค่เติม2 (ป้องกันการสับสน) ส่วนช่อง SD ก็จะไม่บ่นว่าให้ความสำคัญกับ SD น้อยไป ช่องสาธารณะก็ไม่หนีห่างจาก HD เกินไป ส่วนท้องถิ่นก็หลังสุดตามสูตรเดิม

ส่วนดาวเทียมจะตามนี้หรือ +10 หรือ +100 หรือจะ + อะไรก็ช่าง ก็แล้วแต่ กสทช.จะจัดการ


อันนี้แค่บ่นเฉยๆ ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ Comment แลกเปลี่ยนกันได้ครับ ผมลองคิดแบบรวมๆดู (แต่ถ้าใครคิดว่าผมคิดแคบไป ก็..แล้วแต่จะคิดครับ ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ส่วนเรื่องที่ผมพิมพ์ไป มันจะมีผลเปลี่ยนแปลงในอนาคตไหม ผมว่าเปลี่ยนไม่ทันแล้วล่ะ กระทู้นี้ผมแค่บ่นและอยากแสดงความคิดเห็นเฉยๆ
ถ้าผมคิดอะไรออก เดี๋ยวผมค่อยมาเติมนะครับ... หรือถ้าไม่อยากให้เติมพอแค่นี้ก็บอกได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่