นายดิเรกฤทธ์ชี้แจง6ข้อเหตุผลที่เลขาธิการศาลปกครองโดยข้อ 6 ระบุการนำข้อมูลผิดๆไปใส่ร้ายอาจถูกดำเนินคดีและอย่าบิดเบือน

กระทู้สนทนา
จากกรณีเว็บไซต์บางแห่งนำเสนอภาพถ่ายของเอกสารที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ทำบันทึกข้อความไม่เป็นทางการ ไปถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.  และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.  เพื่อขอให้สนับสนุน  พ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ขณะดำรงตำแหน่ง รองผกก.ป. สน.หัวหมาก  ขึ้นไปเป็นผู้กำกับการ (ผกก.)  โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพื่อนสนิทกับหลายชายของนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด  และได้ช่วยดูแลการปฏิบัติภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดในหลายโอกาส  จนทำให้ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี 2556 นั้น

ล่าสุดวันที่ 28 เมษายน นายดิเรกฤทธิ์  ได้ทำบันทึกข้อความเพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุผลที่เลขาธิการสำนักงานศาลปกครองทำหนังสือส่วนตัวถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.  และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อสนับสนุนข้าราชการตำรวจ

1.เรื่องนี้สอดคล้องกับความเห็นท่านประธานศาลปกครองสูงสุด ที่เห็นควรให้มีตำรวจศาล เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้

2.การเดินทางนอกเวลาราชการของท่านประธานฯ จำเป็นต้องประสานตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของเลขาธิการฯ

3.การพิจารณาขอให้ตำรวจบางนายที่ไว้วางใจได้ เช่น เคยร่วมงาน หรือ เป็นญาติ หรือเป็นเพื่อนกับญาติที่รู้ประวัติภูมิหลัง มาช่วยเรื่องการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องมีเหตุผล

4.การส่งข้อมูลบุคคลที่ได้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เป็นเรื่องปกติที่ผู้ได้รับการช่วยเหลือจะส่งข้อมูลให้ทราบและพิจารณาสนับสนุนซึ่งก็เป็นอำนาจโดยแท้ของผู้บังคับบัญชา ที่ไม่อาจแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจได้โดยหน่วยงานหรือบุคคลอื่น  

5.การเขียนและส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนตัวในกรณีนี้ ไม่ผิดกฎหมาย หรือต้องห้ามตามกฎหมายใดๆ  

6.การนำข้อมูลภายในส่วนราชการไปเผยแพร่และกล่าวหา ใส่ร้าย ให้บุคคลอื่น หรือสาธารณะเชื่อไปในทางที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และทำให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานหรือบุคคล อาจถูกพิจารณาดำเนินคดีได้ จึงขอความร่วมมือผู้รับข่าวสารประกอบความเห็นบิดเบือนดังกล่าว อย่าได้ร่วมกระทำผิดในการเผยแพร่ต่อ โดยขาดการใช้วิจารณญาณ


นายดิเรกฤทธิ์  เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  สำหรับกรณีดังกล่าวท่านประธานศาลปกครองสูงสุดก็มีความรู้สึกกังวลใจ เนื่องจากหนังสือดังกล่าวหลุดออกไปสู่สาธารณะ และอาจทำให้กลุ่มบุคคลซึ่งไม่ทราบข้อเท็จจริง นำข้อมูลดังกล่าวไปบิดเบียนจนทำให้เกิดความเสียหายได้  โดยปกติแล้วหน้าที่ในการประสานตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยของท่านประธานเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเลือกคนที่ไว้วางใจได้ ซึ่งพ.ต.อ.ชูธเรศ ก็เป็นเพื่อนสนิทกับหลานชายของท่านประธาน

จึงเชื่อว่าจะสามารถไว้วางใจได้เป็นอย่างดีในการปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัย  ซึ่ง พ.ต.อ.ชูธเรศ ก็ได้มีความเสียสละช่วยเหลืองานภารกิจของศาลปกครองได้เป็นอย่างดีและมีผลงานความดีความชอบ  จึงขอสนับสนุนโดยให้ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.ชูธเรศ  เป็นผู้ตัดสินใจพิจารณา   ไม่ใช่เอาตำรวจที่เราไม่รู้ประวัติมาคอยคุ้มกันความปลอดภัยซึ่งนั่นอาจจะเป็นผลร้ายมากกว่า  

สำหรับ พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล นั้นเพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.-สว. ในสังกัด บช.น. ประจำปี 2556 ครั้งล่าสุดที่คำสั่งออกเมื่อช่วงเดือน ม.ค. 57 ว่าได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายจาก รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก ไปเป็น ผู้กำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผกก. ศูนย์รวมข่าวฯ บก.สปพ.)
ที่มา:http://www.matichon.co.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่