สำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นเกมส์ หลายคนคงเคยเล่น Need For Speed เกมส์แข่งรถสุดมันส์ที่ทำออกมาให้เราได้ซิ่งผ่านหน้าจอทีวีมาแล้วมากมายหลายภาค กระทั่งมันถูกจับเอามาทำเป็นหนังและเข้าฉายโรง แน่นอนว่าไม่ง่ายเลยกับไอเดียการสร้างหนังจากเกมส์ที่มีความเสี่ยงล้มเหลวเหมือนหลายๆเรื่องก่อนหน้า ยังไม่นับการถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังเฟรนไชส์รถซิ่งสุดฮิตอย่างอย่าง fast and furious
หนังเล่าถึงเรื่องราวของ โทบี้ มาร์แชล นักแข่งรถบ้านนอกฝีมือดีที่เปิดอู่อยู่กับเพื่อนๆอีก4คนในชนบท ต่อมาพวกเขามีปัญหาเรื่องการเงินจึงจำใจต้องรับงานจาก ดิโน่ แฟนหนุ่มนักแข่งรถนิสัยแย่ของ อนิต้า อดีตแฟนสาวของ โทบี้ และพี่สาวของ พีท รุ่นน้องในอู่ งานซ่อมแซมรถหรูมีแนวโน้มในทางที่ดี จูเลีย สาวสวยตัวแทนเศรษฐีสนใจผลงานของพวกเขา ทว่า ดิโน่ ไม่พอใจที่รู้ว่า โทบี้ ขับรถได้เร็วกว่า เขาจึงท้า โทบี้ แข่ง โดยมี พีท ขอร่วมด้วย ในการแข่งเกิดอุบัติเหตุทำให้ พีท เสียชีวิต ซํ้าร้าย ดิโน่ ให้การปรักปรำจน โทบี้ ต้องติดคุก
ต่อมาพอ โทบี้ พ้นโทษเขาก็รวบรรวมทีมเพื่อนๆจากอู่ที่แยกย้ายกันไปกลับมารวมตัวใหม่เพื่อเข้าแข่งขันรถข้ามประเทศสุดโหดที่มีรางวัลคือรถของผู้แพ้ที่จัดโดย เดลิออน ชายผู้ชอบการแข่งรถมากแต่มีปัญหาด้านสุขภาพ โทบี้ ขอยืมรถจากเศรษฐีที่ซื้อไปพร้อมข้อเสนอจะนำรางวัลที่ได้มาให้ จูเลีย เอารถมาส่งแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องให้เธอตามไปดูแลรถด้วย
บทของหนังแม้จะไม่หนักแน่น แต่ใช้วิธีดำเนินเรื่องแบบรวดเร็ว จึงดูสนุก เป็นหนังขับรถแข่งแท้ๆที่คนดูโหยหามานานจึงได้ใจผู้ชมจำนวนมาก รถยนต์หลายคันในเรื่องก็สวยงามแถมแพงระยับ โดยเฉพาะเจ้า มัสแตง สุดเท่ สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดี หนังไม่พยายามทำเนื้อหาทับรอย fast and furious จึงสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาเองได้ (เน้นซิ่งแข่งกันนอกเมือง,รถที่ใช้แทบไม่มีแบรนด์จากเอเชีย,ไม่มีสาวเซ็กซี่โชว์อึ๋ม) จุดนี้ต้องชื่นชมฝีมือ สก็อต วอห์ ผู้กำกับ มุมกล้องของหนังโดดเด่น ถ่ายทอดภาพได้ถึงอารมณ์สเมือนในโรงหนังกลายเป็นสนามแข่งรถ บางฉากคล้ายกับในวิดีโอเกมส์ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มสะใจ
พล็อตของหนังพอใช้ได้ มีแอ็คชั่น ดราม่า ความรักผสมผสานกันดี รวมถึงมีช็อตให้คนดูได้ลุ้นไปกับตัวละคร แต่ข้อเสียของหนังก็คือความไม่สมจริงในหลายๆส่วน ทั้งการที่เพื่อนผิวสีในทีมโทบี้ลงทุนขับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์คอยดูต้นทางให้ตลอดเรื่อง แม้ตอนที่กำลังถังแตก คำถามคือเอาเงินที่ไหนมาเติมนํ้ามันซึ่งรวมๆอาจราคาแพงกว่ารางวัลจากการแข่งรถอีก ขณะที่ในทัวร์นาเมนท์การแข่งขันที่บอกว่าคนชนะได้รถไปปรากฏพอแข่งจริงนี่ชนกันยับ แล้วแบบนี้คนชนะจะได้อะไร ส่วนเศรษฐีลึกลับก็ใจดีเกิน ให้คนที่เพิ่งพ้นโทษหมาดๆยืมรถราคา7หลัก และสุดท้ายบทสรุปของหนังมีความจงใจฟีลกู้ดเกินไป ความดีเอาชนะความชั่วถูกพูดผ่านปากตัวละครมากจนทำเอาผู้ชมหลายคนเริ่มเอียน
เรื่องการแสดงก็เป็นจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่ง นักแสดงนำอย่าง อาร์รอน พอล ที่เล่นเป็น โทบี้ แม้เจ้าตัวจะโด่งดังมาจากซีรีย์ Breaking Bad แต่กับหนังใหญ่เรื่องแรกถือว่าน่าผิดหวัง ทั้งหน้าตาและบุคลิกที่ดูบ้านๆไปหน่อย ดูไม่เป็นผู้ชายที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวทั่วไปได้ จึงถูกนักแสดงชายหลายคนในเรื่องขโมยซีนไปทั้ง แฮริสัน กิลเบิร์ตสัน หนุ่มหล่อในบท พีท ผู้ล่วงลับ รามี มาเลค ที่แสดงเป็น ฟินน์ เพื่อนจอมกวนของโทบี้ หรือแม้แต่ โดมินิค คูเปอร์ กับการรับบทตัวร้ายอย่าง ดีโน่ ก็ดูดีกว่า พอล เยอะเลย
ผิดกับนักแสดงนำหญิง อิโมเกน พูทส์ ที่แสดงได้น่าประทับใจมาก ในบท จูเลีย ความสวยเตะตาและบุคลิกที่ดูห้าวแบบน่ารักๆของเธอช่วยทำให้หนังมีความสดชื่นขึ้น เช่นเดียวกับ สกอตต์ เมสคัดดี้ นักแสดงผิวสีที่เล่นเป็น เบนนี่ เพื่อนของ โทบี้ ที่อยู่บนอากาศคอยเล่นมุขสร้างเสียหัวเราะและสีสันพอให้เราลืมความโอเวอร์หลายๆอย่างในตัวเขาเอง
เมื่อเอาข้อดีข้อเสียมาหักลบกัน โดยเพิ่มคะแนนงานโปรดักชั่นระดับคุณภาพ Need For Speed เป็นหนังที่น่าดู และจะอินมากขึ้นหากคุณเคยเล่นเกมส์ชื่อนี้มาก่อน หรือคุณเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องของรถยนต์กับความเร็ว สำหรับคำถามที่ว่าภาคต่อจะมีไหม อันนี้ขึ้นอยู่กับรายได้จากการตีตั๋วเข้าชมภาคนี้ล้วนๆ
คะแนน : 7/10
โดยนกไซเบอร์
ที่มาจาก
http://movie.bugaboo.tv/watch/118454/?link=4
วิจารณ์หนัง : Need For Speed นักแข่งรถบ้านนอก
สำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นเกมส์ หลายคนคงเคยเล่น Need For Speed เกมส์แข่งรถสุดมันส์ที่ทำออกมาให้เราได้ซิ่งผ่านหน้าจอทีวีมาแล้วมากมายหลายภาค กระทั่งมันถูกจับเอามาทำเป็นหนังและเข้าฉายโรง แน่นอนว่าไม่ง่ายเลยกับไอเดียการสร้างหนังจากเกมส์ที่มีความเสี่ยงล้มเหลวเหมือนหลายๆเรื่องก่อนหน้า ยังไม่นับการถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังเฟรนไชส์รถซิ่งสุดฮิตอย่างอย่าง fast and furious
หนังเล่าถึงเรื่องราวของ โทบี้ มาร์แชล นักแข่งรถบ้านนอกฝีมือดีที่เปิดอู่อยู่กับเพื่อนๆอีก4คนในชนบท ต่อมาพวกเขามีปัญหาเรื่องการเงินจึงจำใจต้องรับงานจาก ดิโน่ แฟนหนุ่มนักแข่งรถนิสัยแย่ของ อนิต้า อดีตแฟนสาวของ โทบี้ และพี่สาวของ พีท รุ่นน้องในอู่ งานซ่อมแซมรถหรูมีแนวโน้มในทางที่ดี จูเลีย สาวสวยตัวแทนเศรษฐีสนใจผลงานของพวกเขา ทว่า ดิโน่ ไม่พอใจที่รู้ว่า โทบี้ ขับรถได้เร็วกว่า เขาจึงท้า โทบี้ แข่ง โดยมี พีท ขอร่วมด้วย ในการแข่งเกิดอุบัติเหตุทำให้ พีท เสียชีวิต ซํ้าร้าย ดิโน่ ให้การปรักปรำจน โทบี้ ต้องติดคุก
ต่อมาพอ โทบี้ พ้นโทษเขาก็รวบรรวมทีมเพื่อนๆจากอู่ที่แยกย้ายกันไปกลับมารวมตัวใหม่เพื่อเข้าแข่งขันรถข้ามประเทศสุดโหดที่มีรางวัลคือรถของผู้แพ้ที่จัดโดย เดลิออน ชายผู้ชอบการแข่งรถมากแต่มีปัญหาด้านสุขภาพ โทบี้ ขอยืมรถจากเศรษฐีที่ซื้อไปพร้อมข้อเสนอจะนำรางวัลที่ได้มาให้ จูเลีย เอารถมาส่งแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องให้เธอตามไปดูแลรถด้วย
บทของหนังแม้จะไม่หนักแน่น แต่ใช้วิธีดำเนินเรื่องแบบรวดเร็ว จึงดูสนุก เป็นหนังขับรถแข่งแท้ๆที่คนดูโหยหามานานจึงได้ใจผู้ชมจำนวนมาก รถยนต์หลายคันในเรื่องก็สวยงามแถมแพงระยับ โดยเฉพาะเจ้า มัสแตง สุดเท่ สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดี หนังไม่พยายามทำเนื้อหาทับรอย fast and furious จึงสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาเองได้ (เน้นซิ่งแข่งกันนอกเมือง,รถที่ใช้แทบไม่มีแบรนด์จากเอเชีย,ไม่มีสาวเซ็กซี่โชว์อึ๋ม) จุดนี้ต้องชื่นชมฝีมือ สก็อต วอห์ ผู้กำกับ มุมกล้องของหนังโดดเด่น ถ่ายทอดภาพได้ถึงอารมณ์สเมือนในโรงหนังกลายเป็นสนามแข่งรถ บางฉากคล้ายกับในวิดีโอเกมส์ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มสะใจ
พล็อตของหนังพอใช้ได้ มีแอ็คชั่น ดราม่า ความรักผสมผสานกันดี รวมถึงมีช็อตให้คนดูได้ลุ้นไปกับตัวละคร แต่ข้อเสียของหนังก็คือความไม่สมจริงในหลายๆส่วน ทั้งการที่เพื่อนผิวสีในทีมโทบี้ลงทุนขับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์คอยดูต้นทางให้ตลอดเรื่อง แม้ตอนที่กำลังถังแตก คำถามคือเอาเงินที่ไหนมาเติมนํ้ามันซึ่งรวมๆอาจราคาแพงกว่ารางวัลจากการแข่งรถอีก ขณะที่ในทัวร์นาเมนท์การแข่งขันที่บอกว่าคนชนะได้รถไปปรากฏพอแข่งจริงนี่ชนกันยับ แล้วแบบนี้คนชนะจะได้อะไร ส่วนเศรษฐีลึกลับก็ใจดีเกิน ให้คนที่เพิ่งพ้นโทษหมาดๆยืมรถราคา7หลัก และสุดท้ายบทสรุปของหนังมีความจงใจฟีลกู้ดเกินไป ความดีเอาชนะความชั่วถูกพูดผ่านปากตัวละครมากจนทำเอาผู้ชมหลายคนเริ่มเอียน
เรื่องการแสดงก็เป็นจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่ง นักแสดงนำอย่าง อาร์รอน พอล ที่เล่นเป็น โทบี้ แม้เจ้าตัวจะโด่งดังมาจากซีรีย์ Breaking Bad แต่กับหนังใหญ่เรื่องแรกถือว่าน่าผิดหวัง ทั้งหน้าตาและบุคลิกที่ดูบ้านๆไปหน่อย ดูไม่เป็นผู้ชายที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวทั่วไปได้ จึงถูกนักแสดงชายหลายคนในเรื่องขโมยซีนไปทั้ง แฮริสัน กิลเบิร์ตสัน หนุ่มหล่อในบท พีท ผู้ล่วงลับ รามี มาเลค ที่แสดงเป็น ฟินน์ เพื่อนจอมกวนของโทบี้ หรือแม้แต่ โดมินิค คูเปอร์ กับการรับบทตัวร้ายอย่าง ดีโน่ ก็ดูดีกว่า พอล เยอะเลย
ผิดกับนักแสดงนำหญิง อิโมเกน พูทส์ ที่แสดงได้น่าประทับใจมาก ในบท จูเลีย ความสวยเตะตาและบุคลิกที่ดูห้าวแบบน่ารักๆของเธอช่วยทำให้หนังมีความสดชื่นขึ้น เช่นเดียวกับ สกอตต์ เมสคัดดี้ นักแสดงผิวสีที่เล่นเป็น เบนนี่ เพื่อนของ โทบี้ ที่อยู่บนอากาศคอยเล่นมุขสร้างเสียหัวเราะและสีสันพอให้เราลืมความโอเวอร์หลายๆอย่างในตัวเขาเอง
เมื่อเอาข้อดีข้อเสียมาหักลบกัน โดยเพิ่มคะแนนงานโปรดักชั่นระดับคุณภาพ Need For Speed เป็นหนังที่น่าดู และจะอินมากขึ้นหากคุณเคยเล่นเกมส์ชื่อนี้มาก่อน หรือคุณเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องของรถยนต์กับความเร็ว สำหรับคำถามที่ว่าภาคต่อจะมีไหม อันนี้ขึ้นอยู่กับรายได้จากการตีตั๋วเข้าชมภาคนี้ล้วนๆ
คะแนน : 7/10
โดยนกไซเบอร์
ที่มาจาก http://movie.bugaboo.tv/watch/118454/?link=4