เมื่อวานมีเวลาไปดูหนังThe End มา จริง ๆ ก็ประหม่าพอสมควรกับการเสียเงินไปดูหนังของผู้กำกับโลงจำนำที่ทำผมช็อคไปแล้วและกลัวที่จะดูหนังเค้าอีก
แต่โอกาสของหนังไทย ผมให้ทุกเรื่องอยู่แล้วนะ แม้กระทั่ง ม6/5 ท้าเเม่นาคบ้าบอ ยังจำยอมเข้าไปดูว่ามันมีอะไรเปลี่ยนเเปลงไหม ขอผ่านเลยนะ

The End  เล่าเรื่องของผู้หญิงถูกผู้ชายหลอกลวงเรื่องหัวใจ ซึ่งเกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบันที่สามารถทำได้ทั้งชายและหญิงแต่หนังเรื่องนี้เลือกที่จะเล่า
ในมุมของผู้หญิงที่ถูกผู้ชายนอกใจ ในความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ คงต้องให้ไปทางงานด้านภาพ และ การแสดงของนางเอก นอกนั้นโดยรวมยังเฉยๆ

งานกำกับพลิกมือจากโลงจำนำไปพอสมควร เพราะหนังดูเข้าใจง่ายขึ้น เหมือนผู้กำกับกำลังโตขึ้นและเข้าใจการทำงานของภาพยนตร์ที่มีต่อผู้ชม
แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายเซ็นของตัวเองไว้ในหนังเรื่องนี้

นักแสดงในเรื่องแต่ละคนถอว่าใหม่หมดแต่โดยรวมก็ดูเล่นเข้าขากันดี ถ้าจะเกิดจริง ๆ คงเป็นตัวนางเอกที่สวยน่าจับต้องที่สุด ในตัวรายล้อมผมว่า
นักแสดงแต่ละคนดูธรรมดาไปหน่อย การเเสดงยังเเข็งบ้างแต่คงเป็นการกำกับของผู้กำกับมากกว่าที่อยากให้ออกมาเป็นทิศทางนั้น

บทภาพยนตร์คงเป็นส่วนที่อ่อนที่สุดของเรื่องนี้ แต่ในทิศทางของการดำเนินเรื่องจากเรื่องก่อน(โลงจำนำ)ถือว่าพัฒนาขึ้น เส้นเรื่องบาง เหมือนหนัง
ของคุณยอค์ช ที่จะหยิบประเด็นเดียวแต่ไม่ลงลึกถึงองค์ประกอบ ทำให้หนังเห็นเเค่มุมเดียวของในเส้นเรื่องที่วาง ซึ่งก็เป็นเรื่องพื้น ๆ ธรรมดาไป หนัง
ยัดเยียดคำหยาบคายเยอะเกินไปทำให้เหมือนดูพยายามที่จะทำให้หนังเเรง

งานภาพ ถือเป็นงานที่มีมาตรฐานดีพอๆกับเรื่องก่อนที่บทงงแต่ภาพช่วยประคองหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง

ดนตรีประกอบฟังดูเสนาะหู บันทึกเสียงเข้าขั้นดีมาก

โดยรวมเเล้วผมถือว่าโอเคเลยนะแต่ถามว่าสุดไหม ผมยังไม่สุดเพราะถ้าหนังเรื่องนี้มีบทที่เเข็งขึ้นงานที่ออกมาน่าจะสมบูรณ์กว่านี้

พรุ่งนี้วันพุธใครว่างและเลือกหนังที่จะชมก็ไปชมได้เลยนะสำหรับเรื่องนี้ อย่าเพิ่งบ้าตามไอ้เเมงมุมที่มาเกาะรอบฉายในวันพรุ่งนี้เหมือนกัน

ปล.สู้ต่อไปผู้กำกับ แก้มือปรับตัวให้ดีในเรื่องต่อ ๆ ไป