เป็นแฟนรายการประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ดูมาตั้งแต่ KPN สยามกลการสมัยโน้นจนมาถึงยุครายการ reality ปัจจุบัน ดูทั้งของไทยและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น The Star, The Voice Thailand/US, AF, KPN, American Idol ส่วนตัวเป็นคนชอบฟังเพลงช้าซึ้งแบบร้องมีอินเนอร์ตรงคีย์โน๊ตเป๊ะๆจึงตามเชียร์ผู้เข้าประกวดแนวนี้ทุกเวทีและเมื่อถึงยุคใหม่ที่ใช้คะแนนโหวตคนทั่วไปที่ไม่ใช่กรรมการทรงคุณวุฒิแน่นอนว่าความนิยมชมชอบต่อผู้ประกวดจึงไม่ใช่แค่ เสียงดี อย่างเดียวเหมือนที่ได้เห็นผลกันในทุกเวทีประกวดเกือบทุกปีที่ผ่านมาที่ตัดสินโดยการโหวต แม้แต่เวทีที่วัดกันด้วย เสียง มากที่สุดอย่าง The Voice พอถึงรอบที่ผู้ชมโหวตก็เห็นได้ชัดว่าผู้ชนะไม่ใช่ผู้ที่เสียงร้องดีที่สุดเสมอไปแต่ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างที่โดนใจคนดู และที่สังเกตได้คือจะมีกระแสวิจารณ์ออกมาหลังผลตัดสินเช่นกันว่า ทำไมคนนี้ได้คนโน้นร้องดีกว่าเยอะ ทำไมคนร้องดีๆถึงตกรอบเร็วไป ต่างๆนาๆ ตัวเองก็ยอมรับว่ามีอารมณ์แบบนี้เกือบจะทุกเวทีประกวดที่ติดตามดูโดยเฉพาะในประเทศไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้ข้อคิดหลายอย่างว่าควรจะต้องทำใจยอมรับได้แล้วว่าคำว่า ศิลปิน นักร้อง สำหรับคนยุคปัจจุบันคงไม่ใช่แค่คนที่เสียงดีที่สุดที่ประกวดบนเวทีนั้นๆแต่น่าจะต้องเน้นที่ เสน่ห์ การ entertain การพูดคุย ความติดดิน มีอารมณ์ขันและอีกหลายๆอย่างที่โดนใจ ชาวบ้านทั่วไปไม่ใช่เฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงเพลงหรือคนกลุ่มเล็กๆที่ชอบฟังเพลงแนวเดียวกับเรา
เมื่อคืนตามดูรายการ The Star 10 รอบชิง เช่นเคยปีนี้ตามเชียร์คนที่มีเสียงร้องที่จับใจตามแนวที่ชอบ แต่เมื่อน้องๆเหล่าทยอยนี้ตกรอบไป จึงเรื่มมองเห็นเทรนอย่างชัดเจนแล้วว่ารายการประเภทนี้โดยเฉพาะเวที The Star ที่ทางบริษัทผู้ผลิตมีสายป่านทางธุรกิจค่อนข้างยาวในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นละครทีวี ร้องเพลง พิธีกร ละครเวที ทางทีมผู้บริหารจึงต้องหาดาวที่ ครบเครื่อง ใช้งานได้หลากหลาย อาจจะไม่สุดทุกทางแต่มีองค์รวมที่สามาถนำไปพัฒนาได้ในอนาคตผลที่ออกมาจึงไม่น่าแปลกใจแม้จะไม่ถูกใจอีกหลายคนก็ตามที่ยัง expect จะได้คนร้องดีเสียงดีที่สุดเป็นผู้ชนะเลิศตราปใดที่ยังใช้การจับไมค์ร้องเพลงทุกสัปดาห์ในการแข่งขันอยุ่เช่นนี้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือยอมรับ ทำใจ เปิดใจ และเสพความบันเทิงอย่างสบายใจ
การประกวดร้องเพลงในเมืองไทยที่ไม่ใช่แค่ เสียง อีกต่อไป
เมื่อคืนตามดูรายการ The Star 10 รอบชิง เช่นเคยปีนี้ตามเชียร์คนที่มีเสียงร้องที่จับใจตามแนวที่ชอบ แต่เมื่อน้องๆเหล่าทยอยนี้ตกรอบไป จึงเรื่มมองเห็นเทรนอย่างชัดเจนแล้วว่ารายการประเภทนี้โดยเฉพาะเวที The Star ที่ทางบริษัทผู้ผลิตมีสายป่านทางธุรกิจค่อนข้างยาวในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นละครทีวี ร้องเพลง พิธีกร ละครเวที ทางทีมผู้บริหารจึงต้องหาดาวที่ ครบเครื่อง ใช้งานได้หลากหลาย อาจจะไม่สุดทุกทางแต่มีองค์รวมที่สามาถนำไปพัฒนาได้ในอนาคตผลที่ออกมาจึงไม่น่าแปลกใจแม้จะไม่ถูกใจอีกหลายคนก็ตามที่ยัง expect จะได้คนร้องดีเสียงดีที่สุดเป็นผู้ชนะเลิศตราปใดที่ยังใช้การจับไมค์ร้องเพลงทุกสัปดาห์ในการแข่งขันอยุ่เช่นนี้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือยอมรับ ทำใจ เปิดใจ และเสพความบันเทิงอย่างสบายใจ