ผมคบกับแฟนมาได้ปีกว่าแล้วครับ
น้องอายุ 22 เรียนมหาลัยปีสุดท้าย ครอบครัวมีฐานะดีมากกกกก
ส่วนผมอายุ 33 เรียนจบปริญญาเอก มีกิจการส่วนตัวเล็ก ครอบครัวปานกลาง (ไม่รวยแต่ ไม่มีภาระอะไร พ่อรับราชการ เกษียรแล้ว)
ตัวผมเอง มั่นใจว่าเป็นคนเก่งและขยัน ผมมีธุรกิจตั้งแต่สมัยเรียน ลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย เพราะต้นทุนชีวิตน้อย
จนตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่กระนั้นเองทางบ้านแฟนก็ชอบจับผิด ไม่ให้เกียรติและดูถูกผมสารพัด หลักๆเลยหาว่าผมจะมาหลอกลูกสาว 555
ตอนนี้กลุ้มใจครับ อยากเลิกกับแฟน แต่ก็สงสาร เพราะน้องเองไม่ได้มีความผิดอะไรเลย เป็นแฟนที่ดีมาก น่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เพียงแต่จะเป็นคนเงียบๆ และชอบศิลปะ รักสวยรักงาม ครอบครัวเลยมองกลายๆว่าลูกคนนี้โง่ (แต่ผมเห็นตรงข้ามเลย แฟนผมนี่แหละ อัจฉริยะ)
พ่อแม่แฟนท่านพร่ำบอกเสมอว่า(ตอนที่ยังคุยกันได้ ตอนนี้มองหน้ากันไม่ติดแล้ว) ว่า "ไม่เคยมองว่ายากดีมีจนยังไง ไม่สนใจ" แต่ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้คิดเกี่ยวกับฐานะจริงๆก็จะไม่พูดออกมาหรือเปล่า? ประกอบกับพ่อแม่แฟนชอบถามแฟนผมว่าผมซื้ออะไรให้บ้าง ออกตังค์กันยังไง รวมถึงไประงับบัตรเครดิตแฟน เพราะกลัวผมแอบขโมยเอาไปทำอะไรไม่ดี ทำให้ผมคิดว่าพ่อกับแม่เธอซีเรียสเรื่องเงินทองเกินปกติเลยด้วยซ้ำ (ผมไม่เคยรบกวนเรื่องตังค์อะไรแฟนเลยนะครับ ส่วนมากผมจ่ายตามลักษณะชายไทยด้วย)
กิจการของผมกำลังเข้าจุดคืนทุนครับ ที่เหลือกำไร อีกไม่นานก็คงจะขยายสาขา มีความเป็นไปได้ที่จะใหญ่โต เพียงแต่ปัจจุบันเทียบเป็นตัวเงินกับครอบครัวเธอแล้วกิจการผมกลายเป็นเล็กกระจิ๋วหลิวเลยครับ (คิดว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านดูถูก)
ตัวผมเองจบตรีมหาลัยชั้นนำของไทย โท เอก มหาวิทยาลัยอันดับโลกที่ต่างประเทศ เคยมีโอกาสร่วมทำงานมาแล้วทั้งราชการไทย และเอกชน ทำให้เห็นความไม่จีรังและความอัปลักษณ์ของทุนนิยมและราชการ ไม่อยากจะอยู่ในระบบ เลยหาธุรกิจที่ตัวเองชอบทำ และในอนาคตอยากจะต่อยอดกลับไปงานเกษรตรกรรมที่ไทย (ทำไร่ ไถนา; คิดว่านี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พ่อแม่แฟนดูถูก)
ผมเองไม่แคร์เรื่องเงินทองเลย เพราะผมรู้ว่า ผมจะหาเท่าไหร่ก็หาได้ (ผมทำได้จริงครับ) และเชื่อว่าเงินทองไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต
ผมแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัว มีเงินทองพอใช้ เพราะผมเองอยู่ต่างประเทศมาสิบปี (หนึ่งในสามของชีวิตแล้ว) ถ้าใครสักคนหนึ่งผ่านประสบการณ์มาเหมือนผมจะเข้าใจได้ง่ายครับ
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำให้ผมอาจจะดูไม่ขนขวายในสายตาพ่อกับแม่แฟน(มั้ง)
พ่อกับแม่น้องท่านค่อนข้างจะโง่ในเรื่องนี้ในสายตาผม ไม่เข้าใจ และไม่สามารถเข้าใจ ความยากลำบากของสายวิชาการว่า ยากเย็นยังไง ต้องเก่งแค่ไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
อาชีพที่ดีที่สุดในสายตาท่านคือ เป็นหมอครับ นอกนั้นจะเป็นอะไรก็ยอมรับได้ลำบาก 555
ขออนุญาตตั้งถามอีกครั้งนะครับ เพราะผมมาวิเคราะห์ตัวเองว่า การที่ผมอยู่ต่างประเทศนานๆ ทำให้ผมเข้าใจคนไทยยากกว่าเดิม ทำให้ปัญหารุนแรงขึ้นเพราะอ่านเกมส์ผิด
พี่ๆน้องๆท่านใดมีประสบการณ์ช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ
ทำอย่างไร ให้พ่อตาแม่ยายยอมรับครับ
น้องอายุ 22 เรียนมหาลัยปีสุดท้าย ครอบครัวมีฐานะดีมากกกกก
ส่วนผมอายุ 33 เรียนจบปริญญาเอก มีกิจการส่วนตัวเล็ก ครอบครัวปานกลาง (ไม่รวยแต่ ไม่มีภาระอะไร พ่อรับราชการ เกษียรแล้ว)
ตัวผมเอง มั่นใจว่าเป็นคนเก่งและขยัน ผมมีธุรกิจตั้งแต่สมัยเรียน ลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย เพราะต้นทุนชีวิตน้อย
จนตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่กระนั้นเองทางบ้านแฟนก็ชอบจับผิด ไม่ให้เกียรติและดูถูกผมสารพัด หลักๆเลยหาว่าผมจะมาหลอกลูกสาว 555
ตอนนี้กลุ้มใจครับ อยากเลิกกับแฟน แต่ก็สงสาร เพราะน้องเองไม่ได้มีความผิดอะไรเลย เป็นแฟนที่ดีมาก น่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เพียงแต่จะเป็นคนเงียบๆ และชอบศิลปะ รักสวยรักงาม ครอบครัวเลยมองกลายๆว่าลูกคนนี้โง่ (แต่ผมเห็นตรงข้ามเลย แฟนผมนี่แหละ อัจฉริยะ)
พ่อแม่แฟนท่านพร่ำบอกเสมอว่า(ตอนที่ยังคุยกันได้ ตอนนี้มองหน้ากันไม่ติดแล้ว) ว่า "ไม่เคยมองว่ายากดีมีจนยังไง ไม่สนใจ" แต่ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้คิดเกี่ยวกับฐานะจริงๆก็จะไม่พูดออกมาหรือเปล่า? ประกอบกับพ่อแม่แฟนชอบถามแฟนผมว่าผมซื้ออะไรให้บ้าง ออกตังค์กันยังไง รวมถึงไประงับบัตรเครดิตแฟน เพราะกลัวผมแอบขโมยเอาไปทำอะไรไม่ดี ทำให้ผมคิดว่าพ่อกับแม่เธอซีเรียสเรื่องเงินทองเกินปกติเลยด้วยซ้ำ (ผมไม่เคยรบกวนเรื่องตังค์อะไรแฟนเลยนะครับ ส่วนมากผมจ่ายตามลักษณะชายไทยด้วย)
กิจการของผมกำลังเข้าจุดคืนทุนครับ ที่เหลือกำไร อีกไม่นานก็คงจะขยายสาขา มีความเป็นไปได้ที่จะใหญ่โต เพียงแต่ปัจจุบันเทียบเป็นตัวเงินกับครอบครัวเธอแล้วกิจการผมกลายเป็นเล็กกระจิ๋วหลิวเลยครับ (คิดว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านดูถูก)
ตัวผมเองจบตรีมหาลัยชั้นนำของไทย โท เอก มหาวิทยาลัยอันดับโลกที่ต่างประเทศ เคยมีโอกาสร่วมทำงานมาแล้วทั้งราชการไทย และเอกชน ทำให้เห็นความไม่จีรังและความอัปลักษณ์ของทุนนิยมและราชการ ไม่อยากจะอยู่ในระบบ เลยหาธุรกิจที่ตัวเองชอบทำ และในอนาคตอยากจะต่อยอดกลับไปงานเกษรตรกรรมที่ไทย (ทำไร่ ไถนา; คิดว่านี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พ่อแม่แฟนดูถูก)
ผมเองไม่แคร์เรื่องเงินทองเลย เพราะผมรู้ว่า ผมจะหาเท่าไหร่ก็หาได้ (ผมทำได้จริงครับ) และเชื่อว่าเงินทองไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต
ผมแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัว มีเงินทองพอใช้ เพราะผมเองอยู่ต่างประเทศมาสิบปี (หนึ่งในสามของชีวิตแล้ว) ถ้าใครสักคนหนึ่งผ่านประสบการณ์มาเหมือนผมจะเข้าใจได้ง่ายครับ
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำให้ผมอาจจะดูไม่ขนขวายในสายตาพ่อกับแม่แฟน(มั้ง)
พ่อกับแม่น้องท่านค่อนข้างจะโง่ในเรื่องนี้ในสายตาผม ไม่เข้าใจ และไม่สามารถเข้าใจ ความยากลำบากของสายวิชาการว่า ยากเย็นยังไง ต้องเก่งแค่ไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
อาชีพที่ดีที่สุดในสายตาท่านคือ เป็นหมอครับ นอกนั้นจะเป็นอะไรก็ยอมรับได้ลำบาก 555
ขออนุญาตตั้งถามอีกครั้งนะครับ เพราะผมมาวิเคราะห์ตัวเองว่า การที่ผมอยู่ต่างประเทศนานๆ ทำให้ผมเข้าใจคนไทยยากกว่าเดิม ทำให้ปัญหารุนแรงขึ้นเพราะอ่านเกมส์ผิด
พี่ๆน้องๆท่านใดมีประสบการณ์ช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ