ถามโหราจารย์ เรื่องข้อห้ามในการดูดวง

กระทู้คำถาม
โดยส่วนตัวสนใจ โหราภารตะ เพราะ คิดว่าเป็นศาสตร์ที่แม่นยำ แต่เข้าใจว่ามีกฏเกณฑ์ ห้ามทำนายเรื่องคู่สมพงศ์ ดูดวงเด็ก และ ความตาย
เลยสงสัยว่าข้อห้ามนั้นรวมไปถึงดวงของตัวโหราจารย์ด้วยหรือเปล่า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เคยอ่านกระทู้ถามตอบใน www.horathai.com แล้วรู้สึกเห็นด้วย ขออนุญาตแบ่งปันนะครับ


"ในกระทู้หลังๆมานี้คุยแต่เรื่องยากๆ จึงอยากเปลี่ยนเรื่องเบาๆบ้าง ระยะนี้มีเรื่องที่พูดถกเถียงเรื่อง “จรรยาบรรณ” อยู่หลายแห่ง ทั้งในระดับประเทศ การเมือง ทีวี ลงมาถึงเว็บโหร 2 – 3 เว็บ ฟังอ่านแล้วก็สนุกดี เพราะคิดกันไปต่างต่างนานา เรื่องจรรยาบรรณ หรือ มารยาทโหรนั้น ที่จริง ไม่มีที่ไหนบัญญัติเอาไว้ แต่ที่เราไปยกเอาโคลงกลอนที่ท่านแต่งเอาไว้เตือนใจ เช่น “ ทายเมียผัว เรื่องชั่วดี ทายชีวีวิบัติตัดชันษา ทายคุณโทษทารกทาริกา เรียนโหราครู ห้ามการทำนาย ” แบบนี้ คนไม่ค่อยรู้เอาไปเถียงกันมันก็ฟังน่าแปลกอยู่

อันนั้นเขาเอาไว้สอนนักเรียนครับ เหมือนให้เด็กท่องอาขยานชั้น ป. 1 แต่เราเอามาอ้างระดับผู้ใหญ่ มันคนละเรื่อง คนที่เรียนใหม่ยังไม่รู้เรื่องก็สอนเอาไว้ก่อนสั้นๆ แต่คนที่รู้เรื่องแล้ว ต้องพิจารณาไปหมดทุกเรื่อง ผมเคยบอกเอาไว้แล้วว่า คำสอนเหล่านี้ถูก ที่ถูกนั้นเพราะตามหลักแล้ว คนที่ไม่รู้เรื่องโหราศาสตร์ดี ทายผิดมั่งถูกมั่งเหมือนคนหัดใหม่ หรือ หมอดูใหม่ ทายแล้วผัวเมียเขาตีกัน แยกกัน ทายเด็กแล้วพ่อแม่เกิดอคติทั้งทางดี และไม่ดี พาลเกลียดหรือหลงลูก ทายแล้วคนป่วยว่าจะตายเลยพาลลาตายไปจริงๆ แบบนี้เป็นบาปเป็นกรรม แม้เรารู้เรื่องดีแล้ว หากเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเสีย แต่การที่ยกเอาคำว่า “......ครูห้ามการทำนาย.....” มาอ้างมาเถียงกัน คนวงการอื่นเขารู้จึงดูถูกตายชักเลยว่ามัน กอดตัวหนังสือ กันแบบนี้นี่เอง ลองสมมุติดูเถอะว่า หากเราเป็นผู้ที่ไม่รู้โหราศาสตร์เลย แล้วต้องให้คนมาบอกไหมว่า เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากพูดอะไรออกไปแล้วอาจมีผลเสียได้เช่นนั้นเช่นนี้ เราควรจะพูดหรือไม่

จริงๆแล้ว การที่จะทำนายอะไร ไม่ว่าเฉพาะ 2 – 3 เรื่องนี้หรอก คนที่มีวุฒิภาวะ ก็ต้องพิจารณาทุกเรื่องไป ว่าที่เราทำนายไปเราก็ไม่แน่ใจว่ารู้จริงๆ ไปยุให้เพื่อนทะเลาะกัน หรือไปแนะให้เขาออกจากงานมาลงทุนจนเจ๊ง ไปแนะให้เขาใจเย็นไม่ทำงานจนถูกไล่ออก แบบนี้ก็เป็นเวรเป็นกรรมทั้งนั้น หมอดูนั้นผิดศีลข้อ 4 ตั้งแต่เริ่มเปิดปากพูดแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามตั้งใจให้บริสุทธิ์ ตัดอคติ โลภ โกรธ หลง ทิ้งไปบ้าง และพยายามตั้งใจช่วยผู้อื่นให้บริสุทธิ์ มีครู ไหว้ครู ไหว้พระให้คุ้มครอง เชื่อว่าผลบุญที่กระทำ กับการที่มาแบกรับกรรมจากการผิดศีลมุสา พูดผิด เพื่อยังประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ จะเป็นบารมีคุ้มครองเราต่อไป ที่จริงไม่มีครูไหน ห้ามทำนายอะไร แต่ว่าจะทำนายอะไรก็ตามก็ต้องพิจารณาผลจากคำพูดของเราทั้งนั้น ว่าจะทำให้บ้านเมืองแตกตื่นเสียหายไหม คนอื่นเขาจะทุกข์มากหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้มาขอให้ทายควรจะทายไหม

แม้แต่เรื่อง ฤกษ์ ก็เหมือนกันที่ว่าโบราณท่านแช่งว่า “.....ให้ฤกษ์ผิด (คนให้ฤกษ์) จะตาบอด ” ก็เอาไว้เตือนพวก มือมั่ว ให้ระวังเท่านั้น ยิ่งสมัยนี้คนไม่รู้เรื่องฤกษ์ แต่ซื้อหนังสือมาเปิดให้ฤกษ์กันเป็นทิวแถว เพราะรายได้ดี และก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือฤกษ์ คนที่เขารู้จริงๆว่าอะไรคือ ฤกษ์ ฤกษ์คืออะไร ไม่ต้องไปเตือน เขาก็ต้องระวังอยู่แล้ว พอเรียนเรื่องฤกษ์จบ ก็แทบไม่กล้าให้ฤกษ์ใครเลย เหมือนกับคนเรียนเรื่องระเบิดแสวงเครื่อง หากรู้เรื่องดี เมื่อประกอบระเบิดแล้วก็ไม่มีใครกล้าไปวางให้ลูกเล่น"

อ.วรกุล
6 พฤษภาคม 2548
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่