ภาพที่เห็นอยู่ข้างบนนี้คือ โลโก้ใหม่ของ
Legendary Pictures หลังหมดสัญญากับ
Warner Bros. และ ย้ายมาอยู่กับ
Universal Pictures แทน โดยโลโก้ใหม่นี้รูปร่างยังคงเดิม แต่ที่เปลี่ยนคือภาพลักษณ์ จากเหล็กกล้าในเปลวเพลิง สู้เหล็กขัดมันอย่างดีบนท้องฟ้ายามตรี ไม่รู้ว่านี้คือแอบบอกว่า ค่ายใหม่เลี้ยงดูดีกว่ารึปล่าว?! อันนี้ก็มีความเป็นไปได้ เพราะ พอย้ายมาปึ๊บทาง
Universal Pictures ก็ยกโปรเจคใหญ่ยักษ์อย่าง
Jurassic World ให้ทันทีทันใด
Legendary Pictures และ
Warner Bros. มีประสบการณ์กันดีมาไม่น้อยจากทั้ง ไตรภาค
The Dark Knight, T
he Hangover และหนังทำเงินหลายเรื่องอาทิ
300,
Pacific Rim และ
Man of Steel โดยในปี
2014 นี้ ทั้งคู่ยังคงเหลือหนังใหญ่ส่งท้ายอีก หนึ่งเรื่องครึ่ง ก็คือ
GODZILLA และ
INTERSTELLAR (ซึ่งมี
Paramount Pictures ร่วมหุ้นอยู่อีกครึ่งด้วย) ก่อนที่ทาง
Legendary Pictures จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวกับ
Universal Pictures ซึ่งมีผลทำหนังในปีนี้และปีหน้าของค่ายลูกโลกน่าดูขึ้นเป็นพิเศษ
โดยในปีนี้
2014 เริ่มจากหนังทุนไม่หนาอย่าง
As Above So Below หนังสยอง
Found-Footage จากผู้กำกับ
DEVIL และ
Unbroken หนังชีวประวัติฟอร์มดีที่กำกับโดย
Angelina Jolie ก่อนจะจัดเต็มกับหนังฟอร์มยักษ์ในปี
2015 นำทีมโดยหนังปลุกชีพใหม่ไดโนเสาร์
Jurassic World,
Seventh Son แฟนตาซีฟอร์มยักษ์,
Cyber แอ็คขั่นระทึกขวัญของ ผกก.
Michael Mann,
Crimson Peak หนังสยองที่อยากทำมานานของ
Guillermo del Toro และการหยิบเกมส์สุดฮิตอย่าง
Warcraft มาทำหนังภายใต้การกำกับของ
Duncan Jones จาก
Moon จะเห็นได้ชัดว่าหลายโปรเจคที่ว่ามักเป็นผลงานเอาใจ
Fanboy กี๊คๆเป็นพิเศษ เพราะนี้คือ วิสัยทัศน์การทำหนังใหม่ของทาง
Legendary Pictures ภายใต้การจัดจำหน่ายของ
Universal Pictures
สำหรับใครที่สงสัยว่า ค่ายไหนจะมารับช่วงต่อทำหนังให้
Warner Bros. ผลคือ
Dune Entertainment ค่ายคู่บุญของ 2
0th Century Fox ซึ่งอยู่เบื้องหลังผลงานๆอย่าง
Gravity,
Prometheus และ
Rise of the Planet of the Apes (และก็มีหนังแย่ๆอยู่ไม่น้อยนำทีมโดย
A Good Day to DIE HARD และอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากจะเอ่ยถึง) โดยงวดนี้ไม่มีการย้ายค่ายเกิดขึ้นแต่เป็นการตกลงเจรจาของทั้งสองค่ายใหญ่ให้ใช้
Dune Entertainment ร่วมกัน โดยเรื่องแรกของ
Warner Bros. ก็คือหนังที่ใครหลายคนกำลังจับตามองอย่าง
BATMAN vs. SUPERMAN นั้นเอง
งานนี้ต้องรอดูต่อไปว่า
Legendary Pictures จะช่วยพลิกสถานการณ์ให้
Universal Pictures กลับมารุ่งกับแฟรนไชน์ใหม่ได้หรือไม่ หลังหนังใหม่เจ๊งเรียบ ต้องเกาะกินอยู่แค่
FAST & FURIOUS และ
The BOURNE เช่นเดียวกับ
Warner Bros. จะเป๋รึปล่าวเมื่อค่ายหลักที่เคยผลิตหนังทำเงินให้ย้ายออกไป...และขอบอกลาโลโก้เก่าของ
Legendary Pictures ไว้ ณ จุดนี้
โลโก้ใหม่ของ Legendary Pictures กับ อนาคตอันสดใส(?)ในอ้อมอก Universal Pictures
ภาพที่เห็นอยู่ข้างบนนี้คือ โลโก้ใหม่ของ Legendary Pictures หลังหมดสัญญากับ Warner Bros. และ ย้ายมาอยู่กับ Universal Pictures แทน โดยโลโก้ใหม่นี้รูปร่างยังคงเดิม แต่ที่เปลี่ยนคือภาพลักษณ์ จากเหล็กกล้าในเปลวเพลิง สู้เหล็กขัดมันอย่างดีบนท้องฟ้ายามตรี ไม่รู้ว่านี้คือแอบบอกว่า ค่ายใหม่เลี้ยงดูดีกว่ารึปล่าว?! อันนี้ก็มีความเป็นไปได้ เพราะ พอย้ายมาปึ๊บทาง Universal Pictures ก็ยกโปรเจคใหญ่ยักษ์อย่าง Jurassic World ให้ทันทีทันใด
Legendary Pictures และ Warner Bros. มีประสบการณ์กันดีมาไม่น้อยจากทั้ง ไตรภาค The Dark Knight, The Hangover และหนังทำเงินหลายเรื่องอาทิ 300, Pacific Rim และ Man of Steel โดยในปี 2014 นี้ ทั้งคู่ยังคงเหลือหนังใหญ่ส่งท้ายอีก หนึ่งเรื่องครึ่ง ก็คือ GODZILLA และ INTERSTELLAR (ซึ่งมี Paramount Pictures ร่วมหุ้นอยู่อีกครึ่งด้วย) ก่อนที่ทาง Legendary Pictures จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวกับ Universal Pictures ซึ่งมีผลทำหนังในปีนี้และปีหน้าของค่ายลูกโลกน่าดูขึ้นเป็นพิเศษ
โดยในปีนี้ 2014 เริ่มจากหนังทุนไม่หนาอย่าง As Above So Below หนังสยอง Found-Footage จากผู้กำกับ DEVIL และ Unbroken หนังชีวประวัติฟอร์มดีที่กำกับโดย Angelina Jolie ก่อนจะจัดเต็มกับหนังฟอร์มยักษ์ในปี 2015 นำทีมโดยหนังปลุกชีพใหม่ไดโนเสาร์ Jurassic World, Seventh Son แฟนตาซีฟอร์มยักษ์, Cyber แอ็คขั่นระทึกขวัญของ ผกก. Michael Mann, Crimson Peak หนังสยองที่อยากทำมานานของ Guillermo del Toro และการหยิบเกมส์สุดฮิตอย่าง Warcraft มาทำหนังภายใต้การกำกับของ Duncan Jones จาก Moon จะเห็นได้ชัดว่าหลายโปรเจคที่ว่ามักเป็นผลงานเอาใจ Fanboy กี๊คๆเป็นพิเศษ เพราะนี้คือ วิสัยทัศน์การทำหนังใหม่ของทาง Legendary Pictures ภายใต้การจัดจำหน่ายของ Universal Pictures
สำหรับใครที่สงสัยว่า ค่ายไหนจะมารับช่วงต่อทำหนังให้ Warner Bros. ผลคือ Dune Entertainment ค่ายคู่บุญของ 20th Century Fox ซึ่งอยู่เบื้องหลังผลงานๆอย่าง Gravity, Prometheus และ Rise of the Planet of the Apes (และก็มีหนังแย่ๆอยู่ไม่น้อยนำทีมโดย A Good Day to DIE HARD และอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากจะเอ่ยถึง) โดยงวดนี้ไม่มีการย้ายค่ายเกิดขึ้นแต่เป็นการตกลงเจรจาของทั้งสองค่ายใหญ่ให้ใช้ Dune Entertainment ร่วมกัน โดยเรื่องแรกของ Warner Bros. ก็คือหนังที่ใครหลายคนกำลังจับตามองอย่าง BATMAN vs. SUPERMAN นั้นเอง
งานนี้ต้องรอดูต่อไปว่า Legendary Pictures จะช่วยพลิกสถานการณ์ให้ Universal Pictures กลับมารุ่งกับแฟรนไชน์ใหม่ได้หรือไม่ หลังหนังใหม่เจ๊งเรียบ ต้องเกาะกินอยู่แค่ FAST & FURIOUS และ The BOURNE เช่นเดียวกับ Warner Bros. จะเป๋รึปล่าวเมื่อค่ายหลักที่เคยผลิตหนังทำเงินให้ย้ายออกไป...และขอบอกลาโลโก้เก่าของ Legendary Pictures ไว้ ณ จุดนี้