สำหรับคราวนี้ทาง Samsung ก็ได้ส่งเครื่องทดสอบมาเป็น Samsung Galaxy S5 สีขาวสุดแหล่มซะด้วยนะครับ แต่ผมว่าดูไปดูมาผมชอบสีดำมากกว่าแหะ แต่สีขาวก็เป็นสียอดนิยมครับ สาวๆน่าจะชอบกันนอกจากนี้ยังมีสีฟ้าที่จะวางจำหน่ายปลายเดือนนี้ และเดือนหน้าสีทองก็จะวางจำหน่ายครับ เจอกันได้ในงาน TME โลด
สำหรับ Samsung Galaxy S5 เป็นโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่มาพร้อมความสามารถใหม่ๆอัดแน่นมาค่อนข้างเยอะมากครับทั้ง
Fingerprint sensor ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้ง Fingerprint sensor รุ่นแรกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก PayPal
IP67 certified ทนต่อฝุ่นละอองและน้ำ สามารถจมลงในน้ำระดับ 1 เมตรได้นาน 30 นาที
ติดตั้งเซนเซอร์ Heart Rate ในตัว (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED)
หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียดเท่ารุ่นก่อนคือ Full HD 1080P แต่ปรับปรุงหน้าจอให้มีคุณภาพดีขึ้น มุมมองกว้างกว่าเดิม สว่าง และประหยัดพลังมากมากขึ้น
และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือกล้องความละเอียด 16MP ที่คุณภาพดีที่สุดที่ Samsung เคยมีมา
รวมถึงโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด ซึ่งจะทำให้หน้าจอกลายเป็นขาวดำ ช่วยให้ประหยัดพลังงานใช้งานได้หลายวันแม้แบตเตอรี่จะเหลืออยู่ไม่มาก
และ UI ตัวใหม่ Vibrant UX สวยงามน่าใช้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเฉพาะใน Samsung Galaxy S5 เท่านั้นเหล่านี้คือจุดขายที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy S5 ครับ
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy S5
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 24769 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 34532 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60.0fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
Samsung Galaxy S5 มาพร้อม Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย TouchWiz UI ตัวใหม่ซึ่งมีชื่อใหม่เท่ๆว่า Vibrant UX ซึ่งมีหน้าตาที่แตกต่างจากเดิมพอสมควร สวยขึ้นมากๆสีสันสดใสสุดๆ และเปลี่ยนจากแนวเหลี่ยมๆมาเป้นลักษณะวงกลม และสามารถเลือกปรับ Transition ได้อีกด้วย ความลื่นไหลรวดเร็วปรับปรุงมาดีมาก และมีความเสถียรสูงใช้งานมาหลายวันก็นิ่งดีมาก ยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ ในส่วนการปลดล็อคหน้าจอก็จะเพิ่ม Fingerprint sensor เข้ามา
และผมชอบฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาใหม่อย่าง Geo News มันคือการแจ้งเตือนภัยพิบัติในบริเวณที่เราอยู่อาศัยครับ เหมาะมากๆกับประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยๆ สำหรับบ้านเราก็แน่นอนครับมันขึ้นว่า “ภูมิภาคของคุณปกติ” ยังคิดเล่นๆถ้าผมอยู่ในประเทศที่เสี่ยงภัยมีหวังเปิดขึ้นมาดูแทบทั้งวันเลยละครับ เหอ เหอ น่าเห็นใจแหะ
Notification หน้าตาสวยขึ้นเปลี่ยนมาใช้ลักษณะวงกลมสามารถใช้สองนิ้วลากลงมาเพื่อดู Quick Toggle ทั้งหมดได้เหมือนเดิม ที่น่าสนใจคือเพิ่มคำสั่ง S Finder และ Quick Connect ให้เราเรียกใช้ได้อย่างสะดวกๆ ผมว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากๆเลย และที่ดูตื่นตาตื่นใจไม่เบาก็ตรงในส่วน Setting ที่ปรับโฉมใหม่หมดเลย เปิดมาครั้งแรกมีงงเล็กๆ แต่ใช้ง่ายครับ ปรับตัวนิดหน่อยก็ใช้ได้สะดวกแล้ว ผมว่าใช้สะดวกกว่าแบบเดิมอีกนะเนี่ย ที่สำคัญสวยดีครับและถ้าไม่ชอบก็สามารถเลือกให้แสดงเป็นลิสต์ยาวๆแบบปกติได้ด้วย หรือจะเลือกให้เป็นลิสต์ยาวๆแต่แยกเป้นหมวดหมู่แบบที่ Samsung ใช้ในระยะหลังก็มีให้เลือกด้วยนะครับ และพวก Motion & Gestures และ Air View ที่ตระกูลเคยใส่มาเพียบแน่นอนครับว่ายังมีครบถ้วนเลย นอกจากนี้ยังมีโหมดใช้งานมือเดียวที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยนะครับ
My Magazine ใน Samsung Galaxy S5 ดูน่าใช้กว่าเดิมเพราะเปิดใช้ง่ายครับมันจะอยู่ด้านซ้ายสุดของหน้า Home ทำให้ผมอดนึกถึง Blinkfeed ไม่ได้ซึ่งผมว่ารอบนี้ Samsung ได้พัฒนามีดีครับ My Magazine ซึ่งก็คือ Flipboard นั่นเองมันเปิดใช้งานได้สะดวกขึ้นและเราสามารถเลือกปิดได้ด้วยนะครับ โดยเมื่อเราเปิดใช้ My Magazine เราจะไม่สามารถเวียนหน้า Home ได้ต้องปิดฟังก์ชั่นนี้ครับเราถึงจะเวียนหน้า Home ได้เหมือนเดิม
S Health หน้าตาสวยขึ้นมากๆครับการใช้งานยังคล้ายๆเดิมคือวัดการนับก้าว วัดการออกกำลังกายและอาหาร (ใส่ข้อมูลเอง) และที่เพิ่มขึ้นมาคือวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะใช้งานคู่กับ Heart Rate (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED) ซึ่งผลที่ได้ออกมามีความแม่นยำสูงมาก ใช้งานในชีวิตจริงได้ครับเหมาะกับคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หรือมีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจหรือความดันเป็นต้น วิธีใช้งาน Heart Rate ผมมีอธิบายใว้ในรีวิวตอนแรกนะครับ^^
อันนี้ทีเด็ดครับโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด (Ultra Power Saving Mode) ซึ่งจะแตกต่างจากโหมดประหยัดพลังงานแบบปกติ โดยจะเป็นการปรับหน้าจอเป็นโหมดขาว-ดำ และจะเปลี่ยนโหมดใช้งานเป็นแบบเฉพาะโดยสามารถตั้งเมนูลัดใช้งานได้ 6 อย่างโดยสามารถเลือกได้ตามในรูปเลยครับ สามารถเล่น Facebook, Twitter, Google+, ChatOn และ Line ได้แบบขาวดำเท่ดีนะเนี่ย และสามารถเชื่อมต่อ WIFI และสัญญาณ 3G รวมทั้ง GPS ได้ตามปกติ โดยในโหมดนี้แบตเตอรี่ผมเหลือ 80% มันจะคำนวนว่าผมใช้งานได้ตั้ง 10 วันแนะดดยทาง Samsung เครมว่าแบตเตอรี่เหลือ 10% สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยละครับ เราสามารถเปิดใช้งาน Ultra Power Saving Mode เมื่อไหร่ก็ได้นะครับ ไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่เหลือน้อย สำหรับ Samsung Galaxy S5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2800 mAh ซึ่งจากการใช้งานแบตก็อึดพอสมควรยิ่งมีโหมด Ultra Power Saving Mode แบบนี้ก็ยิ่งใช้งานได้ยาวนานมากๆ แถมยังสามารถเล่น Social ได้เกือบครบทุกอย่างแบบนี้ผมว่ามันคือทีเด็ดจริงๆครับ
Samsung Galaxy S5 พัฒนาเรื่องกล้องชัดเจนครับ จะมาพร้อมความละเอียด 16MP, 1/2.6” sensor size, Dual Shot, Simultaneous HD video and image recording, geo-tagging, touch focus, face and smile detection, image stabilization, HDR ซึ่งคุณภาพรูปถ่ายดีกว่ารุ่นก่อนๆที่ผ่านมาครับ พัฒนาได้ดีขึ้นมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่าง Selective Focus โดยถ่ายภาพก่อน แล้วเลือกจุด Focus ได้ภายหลังโดยสาวมาถเลือกได้ว่าจะชัดหน้า หรือหลัง หรือว่าชัดเสมอกันทั้งภาพซึ่งแน่นอนครับว่าไม่ใช่ของใหม่ แต่ว่า Galaxy S5 ทำมาได้ดีมากเลยทำงานได้รวดเร็วดีด้วย และโหมด HDR แบบใหม่ที่ไม่ต้องรอครับสามารถบันทึกภาพในโหมด HDR ได้อย่างรวดเร็ว เรามาชมคุณภาพรูปถ่ายจาก Samsung Galaxy S5 กันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy S5
ตัวอย่างภาพหน้าชัดหลังเบลอ และหน้าเบลอหลังชัดแบบง่ายๆด้วย Selective Focus
ตัวอย่างโหมด HDR แบบใหม่ที่ได้ผลน่าพอใจแบบไม่ต้องรอ
และปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพจากกล้องหน้าของ Samsung Galaxy S5 โดดเด่นตรงมีมุมมองกล้องหน้ากว้างมากๆครับ เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นหมู่คณะ^^ (แต่ว่าสมัยนี้แล้วกล้อง 2MP อาจจะไม่พอซะแล้วครับ)
ข้อดีของ Samsung Galaxy S5
1. ตัวเครื่องยังคงสวยแบบ Samsung มาพร้อมฝาหลังลายใหม่เป็นรอยขีดข่วนยาก และไม่ติดฝุ่น
2. Fingerprint sensor ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่ PayPal ให้การยอมรับเรื่องความปลอดภัยบนอุปกรณ์มือถือ
3. IP67 certified ทนต่อฝุ่นละอองและน้ำ ตามสเปคสามารถจมลงในน้ำระดับ 1 เมตรได้นาน 30 นาที
4. Heart Rate ในตัว (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED) ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น S Health เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาสุขภาพ
5. พกพาความแรงมากับชิปตัวใหม่ล่าสุด Snapdragon 801
6. สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ถึง 128GB
7. กล้องความละเอียด 16MP ดีที่สุดของ Samsung ในตอนนี้และรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K และกล้องหน้าความละเอียด 2MP มีมุมมองที่กว้างเป็นพิเศษเหมาะสำหรับถ่ายรูป Selfie หมู่
8. ฟังก์ชั่นกล้องทั้ง Selective Focus และ HDR แบบใหม่ล้วนน่าประทับใจ
9. Vibrant UX สวยงามน่าใช้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเฉพาะใน Samsung Galaxy S5 เท่านั้น
10. โหมดประหยัดพลังงานสูงสุด Ultra Power Saving Mode ซึ่งจะทำให้หน้าจอกลายเป็นขาวดำ ช่วยให้ประหยัดพลังงานใช้งานได้หลายวันแม้แบตเตอรี่จะเหลืออยู่ไม่มาก
ข้อด้อยของ Samsung Galaxy S5
1. Design น่าเบื่อและเริ่มซ้ำๆจนเกินไป ทำให้ไม่น่าตื่นเต้น
2. รายละเอียดของตัวเครื่องไม่ค่อยเรียบร้อย
3. สเปคยังไม่จัดเต็มสมชื่อตระกูล S ทั้ง RAM ที่น่าจะจัดมา 3GB และหน่วยความจำภายในน่าจะจัดมา 32GB รวมทั้งหน้าจอยังไม่ใช่ 2K QHD อย่างที่หลายๆคนคาดหวัง
Samsung Galaxy S5 ผมให้คะแนน 79%
[SR] รีวิว Samsung Galaxy S5 โดยทีม AppDisqus (พร้อมคลิปวีดีโอรีวิว)
สำหรับ Samsung Galaxy S5 เป็นโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่มาพร้อมความสามารถใหม่ๆอัดแน่นมาค่อนข้างเยอะมากครับทั้ง
Fingerprint sensor ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้ง Fingerprint sensor รุ่นแรกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก PayPal
IP67 certified ทนต่อฝุ่นละอองและน้ำ สามารถจมลงในน้ำระดับ 1 เมตรได้นาน 30 นาที
ติดตั้งเซนเซอร์ Heart Rate ในตัว (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED)
หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียดเท่ารุ่นก่อนคือ Full HD 1080P แต่ปรับปรุงหน้าจอให้มีคุณภาพดีขึ้น มุมมองกว้างกว่าเดิม สว่าง และประหยัดพลังมากมากขึ้น
และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือกล้องความละเอียด 16MP ที่คุณภาพดีที่สุดที่ Samsung เคยมีมา
รวมถึงโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด ซึ่งจะทำให้หน้าจอกลายเป็นขาวดำ ช่วยให้ประหยัดพลังงานใช้งานได้หลายวันแม้แบตเตอรี่จะเหลืออยู่ไม่มาก
และ UI ตัวใหม่ Vibrant UX สวยงามน่าใช้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเฉพาะใน Samsung Galaxy S5 เท่านั้นเหล่านี้คือจุดขายที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy S5 ครับ
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy S5
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 24769 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 34532 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60.0fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
Samsung Galaxy S5 มาพร้อม Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย TouchWiz UI ตัวใหม่ซึ่งมีชื่อใหม่เท่ๆว่า Vibrant UX ซึ่งมีหน้าตาที่แตกต่างจากเดิมพอสมควร สวยขึ้นมากๆสีสันสดใสสุดๆ และเปลี่ยนจากแนวเหลี่ยมๆมาเป้นลักษณะวงกลม และสามารถเลือกปรับ Transition ได้อีกด้วย ความลื่นไหลรวดเร็วปรับปรุงมาดีมาก และมีความเสถียรสูงใช้งานมาหลายวันก็นิ่งดีมาก ยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ ในส่วนการปลดล็อคหน้าจอก็จะเพิ่ม Fingerprint sensor เข้ามา
และผมชอบฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาใหม่อย่าง Geo News มันคือการแจ้งเตือนภัยพิบัติในบริเวณที่เราอยู่อาศัยครับ เหมาะมากๆกับประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยๆ สำหรับบ้านเราก็แน่นอนครับมันขึ้นว่า “ภูมิภาคของคุณปกติ” ยังคิดเล่นๆถ้าผมอยู่ในประเทศที่เสี่ยงภัยมีหวังเปิดขึ้นมาดูแทบทั้งวันเลยละครับ เหอ เหอ น่าเห็นใจแหะ
Notification หน้าตาสวยขึ้นเปลี่ยนมาใช้ลักษณะวงกลมสามารถใช้สองนิ้วลากลงมาเพื่อดู Quick Toggle ทั้งหมดได้เหมือนเดิม ที่น่าสนใจคือเพิ่มคำสั่ง S Finder และ Quick Connect ให้เราเรียกใช้ได้อย่างสะดวกๆ ผมว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากๆเลย และที่ดูตื่นตาตื่นใจไม่เบาก็ตรงในส่วน Setting ที่ปรับโฉมใหม่หมดเลย เปิดมาครั้งแรกมีงงเล็กๆ แต่ใช้ง่ายครับ ปรับตัวนิดหน่อยก็ใช้ได้สะดวกแล้ว ผมว่าใช้สะดวกกว่าแบบเดิมอีกนะเนี่ย ที่สำคัญสวยดีครับและถ้าไม่ชอบก็สามารถเลือกให้แสดงเป็นลิสต์ยาวๆแบบปกติได้ด้วย หรือจะเลือกให้เป็นลิสต์ยาวๆแต่แยกเป้นหมวดหมู่แบบที่ Samsung ใช้ในระยะหลังก็มีให้เลือกด้วยนะครับ และพวก Motion & Gestures และ Air View ที่ตระกูลเคยใส่มาเพียบแน่นอนครับว่ายังมีครบถ้วนเลย นอกจากนี้ยังมีโหมดใช้งานมือเดียวที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยนะครับ
My Magazine ใน Samsung Galaxy S5 ดูน่าใช้กว่าเดิมเพราะเปิดใช้ง่ายครับมันจะอยู่ด้านซ้ายสุดของหน้า Home ทำให้ผมอดนึกถึง Blinkfeed ไม่ได้ซึ่งผมว่ารอบนี้ Samsung ได้พัฒนามีดีครับ My Magazine ซึ่งก็คือ Flipboard นั่นเองมันเปิดใช้งานได้สะดวกขึ้นและเราสามารถเลือกปิดได้ด้วยนะครับ โดยเมื่อเราเปิดใช้ My Magazine เราจะไม่สามารถเวียนหน้า Home ได้ต้องปิดฟังก์ชั่นนี้ครับเราถึงจะเวียนหน้า Home ได้เหมือนเดิม
S Health หน้าตาสวยขึ้นมากๆครับการใช้งานยังคล้ายๆเดิมคือวัดการนับก้าว วัดการออกกำลังกายและอาหาร (ใส่ข้อมูลเอง) และที่เพิ่มขึ้นมาคือวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะใช้งานคู่กับ Heart Rate (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED) ซึ่งผลที่ได้ออกมามีความแม่นยำสูงมาก ใช้งานในชีวิตจริงได้ครับเหมาะกับคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หรือมีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจหรือความดันเป็นต้น วิธีใช้งาน Heart Rate ผมมีอธิบายใว้ในรีวิวตอนแรกนะครับ^^
อันนี้ทีเด็ดครับโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด (Ultra Power Saving Mode) ซึ่งจะแตกต่างจากโหมดประหยัดพลังงานแบบปกติ โดยจะเป็นการปรับหน้าจอเป็นโหมดขาว-ดำ และจะเปลี่ยนโหมดใช้งานเป็นแบบเฉพาะโดยสามารถตั้งเมนูลัดใช้งานได้ 6 อย่างโดยสามารถเลือกได้ตามในรูปเลยครับ สามารถเล่น Facebook, Twitter, Google+, ChatOn และ Line ได้แบบขาวดำเท่ดีนะเนี่ย และสามารถเชื่อมต่อ WIFI และสัญญาณ 3G รวมทั้ง GPS ได้ตามปกติ โดยในโหมดนี้แบตเตอรี่ผมเหลือ 80% มันจะคำนวนว่าผมใช้งานได้ตั้ง 10 วันแนะดดยทาง Samsung เครมว่าแบตเตอรี่เหลือ 10% สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยละครับ เราสามารถเปิดใช้งาน Ultra Power Saving Mode เมื่อไหร่ก็ได้นะครับ ไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่เหลือน้อย สำหรับ Samsung Galaxy S5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2800 mAh ซึ่งจากการใช้งานแบตก็อึดพอสมควรยิ่งมีโหมด Ultra Power Saving Mode แบบนี้ก็ยิ่งใช้งานได้ยาวนานมากๆ แถมยังสามารถเล่น Social ได้เกือบครบทุกอย่างแบบนี้ผมว่ามันคือทีเด็ดจริงๆครับ
Samsung Galaxy S5 พัฒนาเรื่องกล้องชัดเจนครับ จะมาพร้อมความละเอียด 16MP, 1/2.6” sensor size, Dual Shot, Simultaneous HD video and image recording, geo-tagging, touch focus, face and smile detection, image stabilization, HDR ซึ่งคุณภาพรูปถ่ายดีกว่ารุ่นก่อนๆที่ผ่านมาครับ พัฒนาได้ดีขึ้นมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่าง Selective Focus โดยถ่ายภาพก่อน แล้วเลือกจุด Focus ได้ภายหลังโดยสาวมาถเลือกได้ว่าจะชัดหน้า หรือหลัง หรือว่าชัดเสมอกันทั้งภาพซึ่งแน่นอนครับว่าไม่ใช่ของใหม่ แต่ว่า Galaxy S5 ทำมาได้ดีมากเลยทำงานได้รวดเร็วดีด้วย และโหมด HDR แบบใหม่ที่ไม่ต้องรอครับสามารถบันทึกภาพในโหมด HDR ได้อย่างรวดเร็ว เรามาชมคุณภาพรูปถ่ายจาก Samsung Galaxy S5 กันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy S5
ตัวอย่างภาพหน้าชัดหลังเบลอ และหน้าเบลอหลังชัดแบบง่ายๆด้วย Selective Focus
ตัวอย่างโหมด HDR แบบใหม่ที่ได้ผลน่าพอใจแบบไม่ต้องรอ
และปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพจากกล้องหน้าของ Samsung Galaxy S5 โดดเด่นตรงมีมุมมองกล้องหน้ากว้างมากๆครับ เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นหมู่คณะ^^ (แต่ว่าสมัยนี้แล้วกล้อง 2MP อาจจะไม่พอซะแล้วครับ)
ข้อดีของ Samsung Galaxy S5
1. ตัวเครื่องยังคงสวยแบบ Samsung มาพร้อมฝาหลังลายใหม่เป็นรอยขีดข่วนยาก และไม่ติดฝุ่น
2. Fingerprint sensor ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่ PayPal ให้การยอมรับเรื่องความปลอดภัยบนอุปกรณ์มือถือ
3. IP67 certified ทนต่อฝุ่นละอองและน้ำ ตามสเปคสามารถจมลงในน้ำระดับ 1 เมตรได้นาน 30 นาที
4. Heart Rate ในตัว (อยู่ด้านหลังข้างๆไฟแฟลช LED) ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น S Health เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาสุขภาพ
5. พกพาความแรงมากับชิปตัวใหม่ล่าสุด Snapdragon 801
6. สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ถึง 128GB
7. กล้องความละเอียด 16MP ดีที่สุดของ Samsung ในตอนนี้และรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K และกล้องหน้าความละเอียด 2MP มีมุมมองที่กว้างเป็นพิเศษเหมาะสำหรับถ่ายรูป Selfie หมู่
8. ฟังก์ชั่นกล้องทั้ง Selective Focus และ HDR แบบใหม่ล้วนน่าประทับใจ
9. Vibrant UX สวยงามน่าใช้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเฉพาะใน Samsung Galaxy S5 เท่านั้น
10. โหมดประหยัดพลังงานสูงสุด Ultra Power Saving Mode ซึ่งจะทำให้หน้าจอกลายเป็นขาวดำ ช่วยให้ประหยัดพลังงานใช้งานได้หลายวันแม้แบตเตอรี่จะเหลืออยู่ไม่มาก
ข้อด้อยของ Samsung Galaxy S5
1. Design น่าเบื่อและเริ่มซ้ำๆจนเกินไป ทำให้ไม่น่าตื่นเต้น
2. รายละเอียดของตัวเครื่องไม่ค่อยเรียบร้อย
3. สเปคยังไม่จัดเต็มสมชื่อตระกูล S ทั้ง RAM ที่น่าจะจัดมา 3GB และหน่วยความจำภายในน่าจะจัดมา 32GB รวมทั้งหน้าจอยังไม่ใช่ 2K QHD อย่างที่หลายๆคนคาดหวัง
Samsung Galaxy S5 ผมให้คะแนน 79%