คือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ........
เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนที่กำลังตกอยู่ในวังวนที่หาหนทางออกไม่เจอ
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ"เพศที่สาม" หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องของเกย์ซะส่วนใหญ่
แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับ...ทอม...
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เข้ามาในตอนนี้ ไม่รู้ตัวเองว่าจะหันหน้าไปทางไหน
จะพึ่งใคร ทางบ้านก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ อยากให้ลูกเป็นผู้หญิงแต่งงาน มีลูก ฯลฯ
มีวันหนึ่งแม่บอกว่าได้ไปฟังเทศกับ ศจ. ท่านหนึ่ง ท่านได้เล่าถึง มนุษย์
"มนุษย์" ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาให้คู่กัน คือ เพศชาย และ เพศหญิง พระเจ้าสร้างมาเพียง
สองเพศเท่านั้น ถ้าเหนือจากนั้นคือคนที่เป็นคนบาป คนที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ได้
ฉันได้ยกตัวอย่างกับแม่ต่างๆนาๆว่า คนที่เป็นเกย์ เป็นกระเทย และทอม เขาจะเป็นคนดี รับใช้พระเจ้า
เขาก็คือคนบาปหรอ? "ใช่" แม่พูด
งั้นถ้าเป็นชายหญิงรักกัน ทำผิดอะไร แต่ถ้าอธิฐาน เขาก็คือคนที่ทำตามพระคำภีร์ เขาก็คือคนที่ไม่ผิด "ใช่" แม่พูด
..............เสียใจที่โดนตราหน้าว่าเป็นคนบาป................
หลังจากนั้นมาหนึ่งวัน ก็มีค่ายอนุชนที่ทางโบสถ์จัดขึ้น
เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมและถึงช่วงเวลานมัสการพระเจ้า มีการอธิฐานในใจคิดเพียงว่าคนบาปคนนี้คนที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์
ของพระเจ้าได้นั้นจะรับฟังคำอธิฐานของข้าพระองค์หรือไม่ คนบาปที่ไม่ได้ทำตามพระบัญญัติในพระคำภีร์ได้
จะสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้หรือไม่ ทั้งการอธิฐาน การร้องเพลง ยอมรับได้เลยว่าค่ายครั้งนี้คิดแต่คำพูดเองแม่ตัวเองว่า
.."เราเป็นคนบาป" ... ไม่มีความสุขเลย ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่กล้าที่จะพูด ไม่กล้าที่จะเล่าต่อหน้าใครตรงๆ
ในการนมัสการครั้งนั้นสอนว่าคนที่ไม่ทำตามในพระคำภีร์ ก็เป็นคนบาปที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าได้
แม้ว่าเราจะทำดีมาตลอดชีวิต แต่ถ้าเราไม่ทำตามข้อพระคำภีร์ตัวเราก็เหมือนมีมลทิน ไม่สามารถขึ้นสวรรค์ได้ จบจากค่ายนั้นตัวฉันเองก็คือคนบาป..
ออกค่ายมาช่วงบ่ายในวันที่สามของค่าย กลับมาถึงบ้าง ฉันได้มีโอกาสได้คุยกับแม่
ฉันได้พูดกับแม่ว่า.....
ฉัน : แม่รู้มั้ยที่แม่บอกว่าฉันคือคนบาป ฉันเสียใจมากแค่ไหน ฉันไม่กล้าที่จะอธิฐาน เพราะฉันคือคนบาป
แม่ : แม่ก็อยากให้ลูกเป็นลูกสาวของแม่
ฉัน : แต่ฉันขอเป็นแบบที่ฉันเป็นไม่ได้หรอ ? ฉันก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนหรืออะไร (คำพูดของฉันนั้นพูดด้วยความที่เก็บซ่อนความรู้สึก
หลังจากออกค่ายมา และมีน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจที่แม่ก็ยังไม่เข้าใจ)
เมื่อสายตาของแม่และฉันเจอกัน
ฉัน : ฉันของเป็นแบบนี้ไปก่อนได้มั้ย? (พร้อมกับเช็ดน้ำตานั้น)
แม่ : แล้วแต่ลูก...........
ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรออกจากปากแม่อีกเลยสำหรับเรื่องนี้ แม่เปลี่ยนเรื่องคุยเปลี่ยนบทที่สนทนากันมาเมื่อครู่นี้
ฉันรู้ว่าแม่ก็ยังรับไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ฉันคนที่เป็นลูกเสียใจ ก็เลยตัดบท และพูดแบบนั้นออกมา
.....................สุดท้ายนี้ยังไงตัวฉันเอง ก็คงหนีไม่พ้นจากคำพูดของแม่ตัวเอง "ฉันคือคนบาป".
คนบาปจริงหรือ?
เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนที่กำลังตกอยู่ในวังวนที่หาหนทางออกไม่เจอ
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ"เพศที่สาม" หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องของเกย์ซะส่วนใหญ่
แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับ...ทอม...
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เข้ามาในตอนนี้ ไม่รู้ตัวเองว่าจะหันหน้าไปทางไหน
จะพึ่งใคร ทางบ้านก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ อยากให้ลูกเป็นผู้หญิงแต่งงาน มีลูก ฯลฯ
มีวันหนึ่งแม่บอกว่าได้ไปฟังเทศกับ ศจ. ท่านหนึ่ง ท่านได้เล่าถึง มนุษย์
"มนุษย์" ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาให้คู่กัน คือ เพศชาย และ เพศหญิง พระเจ้าสร้างมาเพียง
สองเพศเท่านั้น ถ้าเหนือจากนั้นคือคนที่เป็นคนบาป คนที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ได้
ฉันได้ยกตัวอย่างกับแม่ต่างๆนาๆว่า คนที่เป็นเกย์ เป็นกระเทย และทอม เขาจะเป็นคนดี รับใช้พระเจ้า
เขาก็คือคนบาปหรอ? "ใช่" แม่พูด
งั้นถ้าเป็นชายหญิงรักกัน ทำผิดอะไร แต่ถ้าอธิฐาน เขาก็คือคนที่ทำตามพระคำภีร์ เขาก็คือคนที่ไม่ผิด "ใช่" แม่พูด
..............เสียใจที่โดนตราหน้าว่าเป็นคนบาป................
หลังจากนั้นมาหนึ่งวัน ก็มีค่ายอนุชนที่ทางโบสถ์จัดขึ้น
เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมและถึงช่วงเวลานมัสการพระเจ้า มีการอธิฐานในใจคิดเพียงว่าคนบาปคนนี้คนที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์
ของพระเจ้าได้นั้นจะรับฟังคำอธิฐานของข้าพระองค์หรือไม่ คนบาปที่ไม่ได้ทำตามพระบัญญัติในพระคำภีร์ได้
จะสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้หรือไม่ ทั้งการอธิฐาน การร้องเพลง ยอมรับได้เลยว่าค่ายครั้งนี้คิดแต่คำพูดเองแม่ตัวเองว่า
.."เราเป็นคนบาป" ... ไม่มีความสุขเลย ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่กล้าที่จะพูด ไม่กล้าที่จะเล่าต่อหน้าใครตรงๆ
ในการนมัสการครั้งนั้นสอนว่าคนที่ไม่ทำตามในพระคำภีร์ ก็เป็นคนบาปที่ไม่สามารถเข้าไปบนแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าได้
แม้ว่าเราจะทำดีมาตลอดชีวิต แต่ถ้าเราไม่ทำตามข้อพระคำภีร์ตัวเราก็เหมือนมีมลทิน ไม่สามารถขึ้นสวรรค์ได้ จบจากค่ายนั้นตัวฉันเองก็คือคนบาป..
ออกค่ายมาช่วงบ่ายในวันที่สามของค่าย กลับมาถึงบ้าง ฉันได้มีโอกาสได้คุยกับแม่
ฉันได้พูดกับแม่ว่า.....
ฉัน : แม่รู้มั้ยที่แม่บอกว่าฉันคือคนบาป ฉันเสียใจมากแค่ไหน ฉันไม่กล้าที่จะอธิฐาน เพราะฉันคือคนบาป
แม่ : แม่ก็อยากให้ลูกเป็นลูกสาวของแม่
ฉัน : แต่ฉันขอเป็นแบบที่ฉันเป็นไม่ได้หรอ ? ฉันก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนหรืออะไร (คำพูดของฉันนั้นพูดด้วยความที่เก็บซ่อนความรู้สึก
หลังจากออกค่ายมา และมีน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจที่แม่ก็ยังไม่เข้าใจ)
เมื่อสายตาของแม่และฉันเจอกัน
ฉัน : ฉันของเป็นแบบนี้ไปก่อนได้มั้ย? (พร้อมกับเช็ดน้ำตานั้น)
แม่ : แล้วแต่ลูก...........
ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรออกจากปากแม่อีกเลยสำหรับเรื่องนี้ แม่เปลี่ยนเรื่องคุยเปลี่ยนบทที่สนทนากันมาเมื่อครู่นี้
ฉันรู้ว่าแม่ก็ยังรับไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ฉันคนที่เป็นลูกเสียใจ ก็เลยตัดบท และพูดแบบนั้นออกมา
.....................สุดท้ายนี้ยังไงตัวฉันเอง ก็คงหนีไม่พ้นจากคำพูดของแม่ตัวเอง "ฉันคือคนบาป".