“องคมนตรี” ชี้ 10 ปีไทยตกอยู่ในทศวรรษแห่งความมืดมน จากนโยบายประชานิยมมอมเมาประชาชน ขอนักวิชาการที่เป็นกลางช่วยกันแก้ปัญหา พร้อมแนะสื่อทบทวนตัวเองเสนอสาระแก่นสาร หยุดค่านิยมเกรงใจคนโกงที่มีอำนาจ ค่านิยมอุปถัมภ์คนผิดที่ร่ำรวย ขณะที่ “ศรีราชา” ระบุคนไทยต้องยึดคุณธรรม 5 ประการ ปรับปรุงจิตใจเพื่อให้ประเทศหายป่วย
วันนี้ (25 เม.ย.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดสัมมนา เรื่อง “ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรเพื่อมุ่งสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย” โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สังคมไทย สังคมแห่งความซื่อตรง” ตอนหนึ่งระบุว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นยุคทศวรรษแห่งความมืดมน มีผลพวงมาจากการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมส่งผลให้ประชาชนหลงไหลในวัตถุนิยม บริโภคนิยม ประเทศไม่เคยเกิดวิกฤตเช่นนี้ เป็นความรู้สึกที่คนไทยสงสารประเทศของตัวเอง อยากให้นักวิชาการที่เป็นกลางช่วยกันวิเคราะห์เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนก็เป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องทบทวนบทบาทตัวเองในการนำเสนอข้อมูลให้มีแก่นสารมากกว่าความบันเทิง เพราะวันนี้คนไทยเลือกนำส่วนไม่ดีมาใช้ในสังคม คือ ค่านิยมเกรงใจคนโกงที่มีอำนาจ หรือค่านิยมอุปถัมภ์คนผิดที่ร่ำรวย เห็นได้จากผลการวิจัยของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์เกี่ยวกับวิกฤตคอร์รัปชัน ที่พบว่าตัวเลขของประชาชนเคยมีส่วนร่วมในการทุจริตในเรื่องต่างๆ ถึงร้อยละ 80 ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญและจริงจังกับการแก้ไขปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นขอให้คนไทย ข้าราชการทุกคนร่วมกันออกมาจุดเทียนขับไล่และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน หากเราไม่ช่วยกัน ถ้าเราไม่ทำแล้วจะเกิดอะไรต่อประเทศ
จากนั้นนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้บรรยายในหัวข้อ “ประมวลจริยธรรม การปฏิบัติและการบังคับใช้” ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สังคมไทยป่วยอาการหนัก ต้องมีการผ่าตัดเกือบทั้งหมดทุกด้าน คนไทยต้องกลับมาทบทวนและปรับปรุงจิตใจให้มี คุณธรรม จริยธรรม เพื่อกลับสู่สภาพเคยมีเคยเป็นอย่างเร่งด่วน หากเราจะเป็นประเทศที่เจริญต้องสร้างวินัยในชาติให้เข้มแข็ง อย่างประเทศที่เจริญแล้ว เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น
ทั้งนี้ แต่ละองค์กรต้องมีความซื่อตรงเป็นคุณสมบัติองค์กร ถ้าองค์กรไหนปล่อยให้มีการคดโกง องค์กรนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการรักษากฎหมาย เคารพกฎหมาย ถ้าคนที่บอกว่ารักษาประชาธิปไตยแต่ไม่เคารพกฎหมายก็เป็นพวกรักษาประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีผู้นำที่จะนำพาประเทศ มีแต่คนที่มาแสวงหาร่ำรวยมากขึ้น มีการซื้อเสียงที่เป็นสิ่งน่าห่วง ปัจจุบันคุณธรรมจริยธรรมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีคุณธรรมพื้นฐาน 5 ประการ คือ ซื่อตรง มีวินัย เสียสละเพื่อส่วนรวม พอเพียง และรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องมีการปลูกฝังให้แก่เยาวชน ถ้าคนในสังคมยึดถือหลักนี้จะก่อให้เกิดความเจริญ
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000046162
“องคมนตรี” ชี้ไทยตกอยู่ในทศวรรษแห่งความมืดมน จากนโยบายประชานิยมมอมเมาประชาชน
“องคมนตรี” ชี้ 10 ปีไทยตกอยู่ในทศวรรษแห่งความมืดมน จากนโยบายประชานิยมมอมเมาประชาชน ขอนักวิชาการที่เป็นกลางช่วยกันแก้ปัญหา พร้อมแนะสื่อทบทวนตัวเองเสนอสาระแก่นสาร หยุดค่านิยมเกรงใจคนโกงที่มีอำนาจ ค่านิยมอุปถัมภ์คนผิดที่ร่ำรวย ขณะที่ “ศรีราชา” ระบุคนไทยต้องยึดคุณธรรม 5 ประการ ปรับปรุงจิตใจเพื่อให้ประเทศหายป่วย
วันนี้ (25 เม.ย.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดสัมมนา เรื่อง “ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรเพื่อมุ่งสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย” โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สังคมไทย สังคมแห่งความซื่อตรง” ตอนหนึ่งระบุว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นยุคทศวรรษแห่งความมืดมน มีผลพวงมาจากการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมส่งผลให้ประชาชนหลงไหลในวัตถุนิยม บริโภคนิยม ประเทศไม่เคยเกิดวิกฤตเช่นนี้ เป็นความรู้สึกที่คนไทยสงสารประเทศของตัวเอง อยากให้นักวิชาการที่เป็นกลางช่วยกันวิเคราะห์เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนก็เป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องทบทวนบทบาทตัวเองในการนำเสนอข้อมูลให้มีแก่นสารมากกว่าความบันเทิง เพราะวันนี้คนไทยเลือกนำส่วนไม่ดีมาใช้ในสังคม คือ ค่านิยมเกรงใจคนโกงที่มีอำนาจ หรือค่านิยมอุปถัมภ์คนผิดที่ร่ำรวย เห็นได้จากผลการวิจัยของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์เกี่ยวกับวิกฤตคอร์รัปชัน ที่พบว่าตัวเลขของประชาชนเคยมีส่วนร่วมในการทุจริตในเรื่องต่างๆ ถึงร้อยละ 80 ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญและจริงจังกับการแก้ไขปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นขอให้คนไทย ข้าราชการทุกคนร่วมกันออกมาจุดเทียนขับไล่และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน หากเราไม่ช่วยกัน ถ้าเราไม่ทำแล้วจะเกิดอะไรต่อประเทศ
จากนั้นนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้บรรยายในหัวข้อ “ประมวลจริยธรรม การปฏิบัติและการบังคับใช้” ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สังคมไทยป่วยอาการหนัก ต้องมีการผ่าตัดเกือบทั้งหมดทุกด้าน คนไทยต้องกลับมาทบทวนและปรับปรุงจิตใจให้มี คุณธรรม จริยธรรม เพื่อกลับสู่สภาพเคยมีเคยเป็นอย่างเร่งด่วน หากเราจะเป็นประเทศที่เจริญต้องสร้างวินัยในชาติให้เข้มแข็ง อย่างประเทศที่เจริญแล้ว เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น
ทั้งนี้ แต่ละองค์กรต้องมีความซื่อตรงเป็นคุณสมบัติองค์กร ถ้าองค์กรไหนปล่อยให้มีการคดโกง องค์กรนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการรักษากฎหมาย เคารพกฎหมาย ถ้าคนที่บอกว่ารักษาประชาธิปไตยแต่ไม่เคารพกฎหมายก็เป็นพวกรักษาประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีผู้นำที่จะนำพาประเทศ มีแต่คนที่มาแสวงหาร่ำรวยมากขึ้น มีการซื้อเสียงที่เป็นสิ่งน่าห่วง ปัจจุบันคุณธรรมจริยธรรมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีคุณธรรมพื้นฐาน 5 ประการ คือ ซื่อตรง มีวินัย เสียสละเพื่อส่วนรวม พอเพียง และรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องมีการปลูกฝังให้แก่เยาวชน ถ้าคนในสังคมยึดถือหลักนี้จะก่อให้เกิดความเจริญ
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000046162