เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นครับ มีอะไรหลายๆอย่างที่ประทับใจเกี่ยวกับประเทศนี้มาก คนไทยก็เยอะมากด้วย สงสัยเพราะไม่ต้องใช้ Visa แล้ว
ในทริปวันหนึ่ง มีแผนไปเที่ยว Tokyo ที่เมือง Shibuya ครับ เป็นเมืองที่เป็นแหล่งคนเดินซ้อป ร้านค้ามากมาย คนเดินกันเยอะมากๆ
ไปครั้งแรกกับเพื่อนๆ ออกจากสถานีเห็นคนเดินเยอะขนาดนี้ก็อึ้งเหมือนกัน คนญี่ปุ่นนิยมเดินกันเยอะมากๆ ก็หาร้านดูกินเล่นไปเรื่อยจนไปเจอโรงภาพยนตร์ครับชื่อว่า Toho Cinemas เป็นโรงหนังที่เปิดตัวเดี่ยวๆ ไม่ได้อยู่ในห้างครับ คล้ายๆกับ Major Hollywood บ้านเรา
เลยลองเดินเข้าไปแวะดู ปรากฏว่าเห็นมีหนังเรื่อง Frozen เข้าฉาย ด้วยความที่ชอบหนังเรื่องนี้ เลยลองถามเพื่อนครับ ว่าเห้ย ดูเมืองไทยมาแล้ว ลองมาดูที่ญี่ปุ่นอีกรอบไหม เอาแบบภาษาญี่ปุ่นด้วยนะ เพราะดูรู้เรื่องแล้ว อยากลองฟังภาษาญี่ปุ่นดูว่าจะพูดจะร้องออกมาเป็นยังไง (โปสเตอร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นผมแอบคิดว่ามันไม่สวยเอาซะเลย เหมือนโปสเตอร์ตุ๊กตาร์บาบี้ รู้สึกจะใช้เป็นตัวหลักด้วย)
เพื่อนก็โอเคครับ เอาไงเอากัน รอบฉายที่ดูจะเป็นพากย์ญี่ปุ่น 4 รอบครับและก็ Soundtrack 3 รอบ แต่ปรากฎว่าเต็มทุกรอบครับ ที่นี่รอบหนังจะโชว์คล้ายสกาล่าบ้านเรา คือพิมพ์ใส่กระดาษแปะไว้ที่เคาน์เตอร์ รอบไหนเต็มก็เอาป้าย Sold Out มาแปะทับ ซึ่ง Frozen เป็นเรื่องเดียวที่โดนแปะทุกรอบ เรื่องอื่นๆ ไม่มีนะครับ เลยถามเพื่อน โห ที่ญี่ปุ่นเค้าฮิตกันขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย
การซื้อตั๋วหนังของที่นี่ จะไฮเทคตามประสาญี่ปุ่นครับคือต้องซื้อผ่านตู้ (บ้านเราก็มีนี่หว่า 555) โดยไม่มีพนักงานขายตั๋วเลย จะมีแต่พนักงานบริการกดตู้ครับ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษกันน้อยมาก ส่วนใหญ่เวลาสื่อสารถ้าไม่เข้าใจ ก็ใช้ภาษามือครับ 555 พนักงานก็ชี้ให้ดูว่าตู้มีให้กดเมนูภาษาอังกฤษด้วย ก็โล่งใจ พอกดๆไปเห็นว่ามีรอบฉายของพรุ่งนี้ด้วย ด้วยความที่อยากดูมาก (ผมนะ เพื่อนผมไม่รู้ 555) เลยจองตั๋วของวันพรุ่งนี้ เวลา 12.50 น. ไป ค่าตั๋วจะตกที่คนละ 1800 เยนครับ (แอบแพง - -) เป็นระบบดิจิตอล 2 มิติ พากย์ญี่ปุ่น ตอนจองก็เกือบเต็มโรงแล้วครับ ผมต้องแยกนั่งกับเพื่อนๆ เพราะไม่มีที่ติดๆกันแถมมีแต่ที่นั่งริมสุดด้วย (ตอนนั้นนึกเลยว่ารอบน้อยไปหรือคนดูเยอะไปฟะ) วันนั้นก็เลยไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาอีกทีวันรุ่งขึ้นครับ
ตั๋วหนังแบบญี่ปุ่นของโรงหนัง Toho Cinemas เห็น ค ห ที่ 7 อยากเห็นครับ เลยถ่ายผ่านกล้อง Notebook ให้เลย ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ - -
วันรุ่งขึ้น ก็ไปรอหนังฉายครับ ที่นี่แต่ละโรงจะอยู่คนละชั้นกัน ที่นี่มีทั้งหมด 7 โรงครับ ก็จะมี 7 ชั้นโดยใช้ลิฟต์ขึ้นไป ผมได้โรงที่ 3 แต่อยู่ชั้น 5 ครับงงเหมือนกัน เปิดลิฟต์ออกมาชั้น 5 คนยืนออกันเต็มชั้นมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัว เด็กๆเยอะมาก มีเคาน์เตอร์ขายของกินกับน้ำเหมือนบ้านเรา คนส่วนใหญ่จะซื้อกันครับ จะเป็นป๊อปคอร์นกับน้ำ เค้าจะให้เป็นถาดลองมาเลย มีช่องให้ด้วยว่าช่องไหนป๊อปคอร์นช่องไหนแก้วน้ำ (ผมไม่ได้ซื้อแพง 555) ก่อนเข้าโรงหนัง ก็จะมีพนักงานประกาศตามปกติ ถ้าเป็นเด็กเล็กพนักงานจะให้หมอนรองนั่งเพิ่มด้วย เพื่อให้เด็กได้ดูกันชัดๆ ไม่โดนบัง
เข้าไปในโรงหนัง แน่นอนครับคนนั่งเต็มโรงหนัง ที่แปลกใจคือคนที่เอาถาดเข้าไปจะกินกันยังไง ปรากฎว่าที่นั่งมีที่ให้วางถาดให้ด้วยครับ ไตเติ้ลก่อนหนังฉายจะไม่ค่อยมีโฆษณาเหมือนบ้านเรา จะเป็นตัวอย่างหนังและก็โปรโมตโรงหนังที่นั่น ดู Frozen ฉากเพลง Let it Go เป็นฉากที่น่าประทับใจเหมือนเคย ภาษาญี่ปุ่นเพราะไปอีกแบบ มีหลายฉากที่น่าจะหัวเราะ ผมดูก่อนแล้ว ดูอีกทีฉากไหนขำก็ยังขำอยู่ครับ แต่โรงหนังเงียบฉี่ - - จนผมไม่กล้าขำดังเลย แม้เด็กจะเข้ามาดูกันเยอะมากแต่โรงตอนนั้นค่อนข้างเงียบมากครับ จะมีขำก็หึๆ เลยสงสัยว่าคนญี่ปุ่นต่อมฮาไม่ค่อยทำงานกันหรืออย่างไร จะมีดังสุดตอนที่โอลาฟโผล่มาแค่นั้นครับ
ตอนหนังจบ ปกติบ้านเราก็จะลุกขึ้นทยอยกันออกจากโรงกันแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นไม่เป็นอย่างนั้นครับ ตอนแรกผมกะจะลุกละ สังเกตว่าทำไมไฟโรงหนังไม่เปิดสักที คนก็ยังไม่ลุกครับ ก็ถึงบางอ้อ ที่นี่ตามมารยาทต้องดูให้จบเครดิตครับ ระหว่างเครดิตขึ้นผมเห็นคนลุกออกไปจากโรงหนังบ้าง ก็คิดว่าคงมีคนขี้เกียจรอละมั้ง ผมก็นั่งดูเครดิตไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าคนที่เพิ่งเดินออกไป เค้าเดินกลับมานั่งที่เดิมครับ โอ้ว พ่อเจ้า เมืองไทยไม่เคยเห็นจริงๆนะ ทุกคนยังนั่งกันอยู่ทั้งโรงจริงๆครับ นั่งอยู่จนจบเครดิตจริงๆ มีฉากมาช เมลโล่ตอนท้าย (สงสัยว่าคนทั้งโรงรอดูฉากนี้หรือเปล่า 555) ฉากนี้จบ ก็ยังไม่ลุกกันครับ รอขึ้นอีกว่าเครดิตใครพากย์บ้าง ผมรู้สึกว่าคนที่นี่เค้าให้เกียรติเรื่องเครดิตคนทำหนังทุกคนจริงๆ ต้องดูจนจบ พอไฟขึ้น ก็จะมีพนักงานมายืนขอบคุณหน้าทางออกเหมือนบ้านเรา
รูปข้างล่างนี้ ให้สังเกต เด็กผู้หญิง 2-3 คนนะครับ ผมออกมาจากโรงหนัง กำลังจะถ่ายรูปข้างหน้า ซึ่งเป็นโปสเตอร์ดิจิตอลโชว์โปรแกรมหนังที่ฉายวันนี้ จะขึ้นแบบขยับไปเรื่อยๆ แน่นอนมีโปสเตอร์ Frozen ด้วยครับ พอเด็กๆเห็นก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ วิ่งเข้าไปรุมที่โปสเตอร์ Frozen แล้วให้ผู้ใหญ่ถ่ายรูป พอโปสเตอร์ขยับ เด็กๆก็วิ่งตามครับ เป็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักดี เด็กๆคงชอบ Frozen จริงๆครับ
ถือเป็นประสบการณ์การดูหนังแบบใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนครับ วัฒนธรรมการดูหนัง มีอะไรหลายอย่างที่ต่างจากบ้านเรา ขนาดผมจะลงลิฟต์ยังต่อแถวเข้ากันเลยครับ
ป.ล. โปสเตอร์อันนี้ ผมว่าสวยกว่าเยอะ
อัพเดทรายได้ที่ญี่ปุ่นกันหน่อยครับ ดูจากรายได้ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมายังแรงดีไม่มีตก (สัปดาห์ที่ 6 ยังมากกว่าตอนเปิดตัวอีก แปลกจริงๆ อีกอย่างกลุ่มผมเป็นหนึ่งในรายได้สัปดาห์ที่ 4 ด้วยนะ อยากบอกแค่นี้แหละ 555 ^ ^) สัปดาห์ที่ 7 ดูท่าจะครองที่ 1 อีกแล้วด้วยครับ แม้ The Amazing Spider-Man 2 จะเพิ่งเปิดตัวก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก Boxofficemojo.com ครับ
ประสบการณ์ดู Frozen ที่ญี่ปุ่น
ในทริปวันหนึ่ง มีแผนไปเที่ยว Tokyo ที่เมือง Shibuya ครับ เป็นเมืองที่เป็นแหล่งคนเดินซ้อป ร้านค้ามากมาย คนเดินกันเยอะมากๆ
ไปครั้งแรกกับเพื่อนๆ ออกจากสถานีเห็นคนเดินเยอะขนาดนี้ก็อึ้งเหมือนกัน คนญี่ปุ่นนิยมเดินกันเยอะมากๆ ก็หาร้านดูกินเล่นไปเรื่อยจนไปเจอโรงภาพยนตร์ครับชื่อว่า Toho Cinemas เป็นโรงหนังที่เปิดตัวเดี่ยวๆ ไม่ได้อยู่ในห้างครับ คล้ายๆกับ Major Hollywood บ้านเรา
เลยลองเดินเข้าไปแวะดู ปรากฏว่าเห็นมีหนังเรื่อง Frozen เข้าฉาย ด้วยความที่ชอบหนังเรื่องนี้ เลยลองถามเพื่อนครับ ว่าเห้ย ดูเมืองไทยมาแล้ว ลองมาดูที่ญี่ปุ่นอีกรอบไหม เอาแบบภาษาญี่ปุ่นด้วยนะ เพราะดูรู้เรื่องแล้ว อยากลองฟังภาษาญี่ปุ่นดูว่าจะพูดจะร้องออกมาเป็นยังไง (โปสเตอร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นผมแอบคิดว่ามันไม่สวยเอาซะเลย เหมือนโปสเตอร์ตุ๊กตาร์บาบี้ รู้สึกจะใช้เป็นตัวหลักด้วย)
เพื่อนก็โอเคครับ เอาไงเอากัน รอบฉายที่ดูจะเป็นพากย์ญี่ปุ่น 4 รอบครับและก็ Soundtrack 3 รอบ แต่ปรากฎว่าเต็มทุกรอบครับ ที่นี่รอบหนังจะโชว์คล้ายสกาล่าบ้านเรา คือพิมพ์ใส่กระดาษแปะไว้ที่เคาน์เตอร์ รอบไหนเต็มก็เอาป้าย Sold Out มาแปะทับ ซึ่ง Frozen เป็นเรื่องเดียวที่โดนแปะทุกรอบ เรื่องอื่นๆ ไม่มีนะครับ เลยถามเพื่อน โห ที่ญี่ปุ่นเค้าฮิตกันขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย
การซื้อตั๋วหนังของที่นี่ จะไฮเทคตามประสาญี่ปุ่นครับคือต้องซื้อผ่านตู้ (บ้านเราก็มีนี่หว่า 555) โดยไม่มีพนักงานขายตั๋วเลย จะมีแต่พนักงานบริการกดตู้ครับ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษกันน้อยมาก ส่วนใหญ่เวลาสื่อสารถ้าไม่เข้าใจ ก็ใช้ภาษามือครับ 555 พนักงานก็ชี้ให้ดูว่าตู้มีให้กดเมนูภาษาอังกฤษด้วย ก็โล่งใจ พอกดๆไปเห็นว่ามีรอบฉายของพรุ่งนี้ด้วย ด้วยความที่อยากดูมาก (ผมนะ เพื่อนผมไม่รู้ 555) เลยจองตั๋วของวันพรุ่งนี้ เวลา 12.50 น. ไป ค่าตั๋วจะตกที่คนละ 1800 เยนครับ (แอบแพง - -) เป็นระบบดิจิตอล 2 มิติ พากย์ญี่ปุ่น ตอนจองก็เกือบเต็มโรงแล้วครับ ผมต้องแยกนั่งกับเพื่อนๆ เพราะไม่มีที่ติดๆกันแถมมีแต่ที่นั่งริมสุดด้วย (ตอนนั้นนึกเลยว่ารอบน้อยไปหรือคนดูเยอะไปฟะ) วันนั้นก็เลยไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาอีกทีวันรุ่งขึ้นครับ
ตั๋วหนังแบบญี่ปุ่นของโรงหนัง Toho Cinemas เห็น ค ห ที่ 7 อยากเห็นครับ เลยถ่ายผ่านกล้อง Notebook ให้เลย ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ - -
วันรุ่งขึ้น ก็ไปรอหนังฉายครับ ที่นี่แต่ละโรงจะอยู่คนละชั้นกัน ที่นี่มีทั้งหมด 7 โรงครับ ก็จะมี 7 ชั้นโดยใช้ลิฟต์ขึ้นไป ผมได้โรงที่ 3 แต่อยู่ชั้น 5 ครับงงเหมือนกัน เปิดลิฟต์ออกมาชั้น 5 คนยืนออกันเต็มชั้นมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัว เด็กๆเยอะมาก มีเคาน์เตอร์ขายของกินกับน้ำเหมือนบ้านเรา คนส่วนใหญ่จะซื้อกันครับ จะเป็นป๊อปคอร์นกับน้ำ เค้าจะให้เป็นถาดลองมาเลย มีช่องให้ด้วยว่าช่องไหนป๊อปคอร์นช่องไหนแก้วน้ำ (ผมไม่ได้ซื้อแพง 555) ก่อนเข้าโรงหนัง ก็จะมีพนักงานประกาศตามปกติ ถ้าเป็นเด็กเล็กพนักงานจะให้หมอนรองนั่งเพิ่มด้วย เพื่อให้เด็กได้ดูกันชัดๆ ไม่โดนบัง
เข้าไปในโรงหนัง แน่นอนครับคนนั่งเต็มโรงหนัง ที่แปลกใจคือคนที่เอาถาดเข้าไปจะกินกันยังไง ปรากฎว่าที่นั่งมีที่ให้วางถาดให้ด้วยครับ ไตเติ้ลก่อนหนังฉายจะไม่ค่อยมีโฆษณาเหมือนบ้านเรา จะเป็นตัวอย่างหนังและก็โปรโมตโรงหนังที่นั่น ดู Frozen ฉากเพลง Let it Go เป็นฉากที่น่าประทับใจเหมือนเคย ภาษาญี่ปุ่นเพราะไปอีกแบบ มีหลายฉากที่น่าจะหัวเราะ ผมดูก่อนแล้ว ดูอีกทีฉากไหนขำก็ยังขำอยู่ครับ แต่โรงหนังเงียบฉี่ - - จนผมไม่กล้าขำดังเลย แม้เด็กจะเข้ามาดูกันเยอะมากแต่โรงตอนนั้นค่อนข้างเงียบมากครับ จะมีขำก็หึๆ เลยสงสัยว่าคนญี่ปุ่นต่อมฮาไม่ค่อยทำงานกันหรืออย่างไร จะมีดังสุดตอนที่โอลาฟโผล่มาแค่นั้นครับ
ตอนหนังจบ ปกติบ้านเราก็จะลุกขึ้นทยอยกันออกจากโรงกันแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นไม่เป็นอย่างนั้นครับ ตอนแรกผมกะจะลุกละ สังเกตว่าทำไมไฟโรงหนังไม่เปิดสักที คนก็ยังไม่ลุกครับ ก็ถึงบางอ้อ ที่นี่ตามมารยาทต้องดูให้จบเครดิตครับ ระหว่างเครดิตขึ้นผมเห็นคนลุกออกไปจากโรงหนังบ้าง ก็คิดว่าคงมีคนขี้เกียจรอละมั้ง ผมก็นั่งดูเครดิตไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าคนที่เพิ่งเดินออกไป เค้าเดินกลับมานั่งที่เดิมครับ โอ้ว พ่อเจ้า เมืองไทยไม่เคยเห็นจริงๆนะ ทุกคนยังนั่งกันอยู่ทั้งโรงจริงๆครับ นั่งอยู่จนจบเครดิตจริงๆ มีฉากมาช เมลโล่ตอนท้าย (สงสัยว่าคนทั้งโรงรอดูฉากนี้หรือเปล่า 555) ฉากนี้จบ ก็ยังไม่ลุกกันครับ รอขึ้นอีกว่าเครดิตใครพากย์บ้าง ผมรู้สึกว่าคนที่นี่เค้าให้เกียรติเรื่องเครดิตคนทำหนังทุกคนจริงๆ ต้องดูจนจบ พอไฟขึ้น ก็จะมีพนักงานมายืนขอบคุณหน้าทางออกเหมือนบ้านเรา
รูปข้างล่างนี้ ให้สังเกต เด็กผู้หญิง 2-3 คนนะครับ ผมออกมาจากโรงหนัง กำลังจะถ่ายรูปข้างหน้า ซึ่งเป็นโปสเตอร์ดิจิตอลโชว์โปรแกรมหนังที่ฉายวันนี้ จะขึ้นแบบขยับไปเรื่อยๆ แน่นอนมีโปสเตอร์ Frozen ด้วยครับ พอเด็กๆเห็นก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ วิ่งเข้าไปรุมที่โปสเตอร์ Frozen แล้วให้ผู้ใหญ่ถ่ายรูป พอโปสเตอร์ขยับ เด็กๆก็วิ่งตามครับ เป็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักดี เด็กๆคงชอบ Frozen จริงๆครับ
ถือเป็นประสบการณ์การดูหนังแบบใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนครับ วัฒนธรรมการดูหนัง มีอะไรหลายอย่างที่ต่างจากบ้านเรา ขนาดผมจะลงลิฟต์ยังต่อแถวเข้ากันเลยครับ
ป.ล. โปสเตอร์อันนี้ ผมว่าสวยกว่าเยอะ
อัพเดทรายได้ที่ญี่ปุ่นกันหน่อยครับ ดูจากรายได้ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมายังแรงดีไม่มีตก (สัปดาห์ที่ 6 ยังมากกว่าตอนเปิดตัวอีก แปลกจริงๆ อีกอย่างกลุ่มผมเป็นหนึ่งในรายได้สัปดาห์ที่ 4 ด้วยนะ อยากบอกแค่นี้แหละ 555 ^ ^) สัปดาห์ที่ 7 ดูท่าจะครองที่ 1 อีกแล้วด้วยครับ แม้ The Amazing Spider-Man 2 จะเพิ่งเปิดตัวก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก Boxofficemojo.com ครับ