ฝากถึงคนที่ชอบโวยวายเวลาใช้รถไฟ Airport Rail Link ในช่วงเวลาเร่งด่วนโดยเฉพาะตาแว่นขึ้นรอบ 8.20 บ้านทับช้าง 24/04/2014

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเจอปัญหานี้มาซักระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ก็ไม่สุดจะทนเท่าวันนี้

เนื่องจากการเข้างานในแต่ละวันของผมสามารถยืดหยุ่นได้
ผมจึงสามารถออกจากบ้านไปทำงานได้หลายเวลาครับ 6.00, 6.30, 7.00, 7.30, 8.00, 8.30, (8.45 เป็นเวลาช้าสุดที่ผมจะออกจากบ้าน)
ปัญหาที่เจอจะอยู่ในช่วง 7.45-8.15
ปกติจะไปช่วง 7.30 ครับ คนไม่เยอะมาก อ่อลืมบอกไป บ้านผมอยู่กิ่งแก้ว(สนามบินสุวรรณภูมิ) ไปทำงานที่ สีลม จะ ขึ้นอยู่ 3 สถานีหลักๆ คือ สนามบิน, ลาดกระบัง, พญาไท
เริ่มขึ้นครั้งแรก Airport Rail Link ตั้งแต่ ช่วงเปิดทดลองใช้ 20 บาท ใช้มา 3 ปี ตั้งแต่มีคนนั่งต้นสายปถึงปลายสายไม่ถึง 30 คนทั้งขบวน จะตอนนี้แค่ต้นสายสนามบินบางวันก็ไม่มีที่นั่งแล้วหลายคนนั่งจากลาดกระบังย้อนมาเพื่อให้ตัวเองได้นั่ง (ตอนทดลองใช้งาน เคยไปขึ้นวันเสาร์ในสนามบิน แต่มันปิด เงิบครับ และAirport Rail Link ยังดีเลย์บ่อยมาก ในช่วงปีแรกที่เปิดใช้งาน)

เริ่มกันเลยดีกว่า

ปกติแล้วรถไฟ Airport Rail Link (AS APL || ARL) ในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน จะไม่ค่อยมีผู้ใช้บริการมากนักส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว
นั่งจากต้นสาย ปลายสาย (พยาไท - สนามบิน, มักกะสัน - สนามบิน)
ผู้ใช้บริการจะบางจึงมีช่วงระยะเวลาในการรอรถค่อนข้างนาน (15 นาทีสำหรับ city line, 1 ชม. สำหรับ express line)
คือถ้าคุณขึ้นไปบนชานชาลาแล้วเห็นรถไฟกำลังออกไป เรียกว่าเงิบครับ

ประเด็นคือ
ในช่วงเวลาเร่งด่วนทางสถาณีบอก จะปรับเวลาคันละ 8 นาที (ลองคิดภาพ BTS หรือ MRT เกิดเหตุขัดข้องเป็นเวลา 8 นาทีดูนะครับ)
ช่วงเวลาเร่งด่วนก็เป็นช่วงเวลาคล้ายๆกับ ขนส่งมวลชน BTS MRT แหละครับ คนเยอะ แน่นมาก APL || ARL ก็เช่นเดียวกัน(แถมระบบยังตัดแอร์ตอนถึง สถานีรามคำแหง อีกหายใจไม่ออกบอกเลย)

แต่ๆๆ ช่วงเวลาเร่งดาวนของ APL || ARL ที่มีคนเบียดเสียดยังอย่างเมามัน ก็จะมีนักท่องเที่ยวที่มากับขบวนด้วย (ส่วนใหญ่จะเป็น แบคแพคเกอร์ ข้าวของพรุงพรัง)และนี่เองเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหา

ปัญหาคือ คนที่เข้ามาในรถไฟไม่ได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนจะอยู่ที่ หางแถวของ สถานีบ้านทับช้าง(ต้นสายสนามบิน) ซึ่งสมัยแรกๆจะเป็นสถานีหัวหมาก
สิ่งที่เกิดขึ้น

คนที่เข้าไม่ได้(มีมารยาทที่ดีและมีความเกรงใจ) : "ขยับ เข้าไปหน่อยครับ/ค่ะ ข้างในมีที่ว่างเต็มเลย ขยับเข้าไปหน่อยครับบบบ/ค่ะะะะ" เต็มที่ก็พูด 2 ครั้ง
คนที่เข้าไม่ได้(ไม่มีมารยาทและไม่มีความเกรงใจ) : "จะพูดประมาณ 2 ครั้งแบบเหวียงๆพร้อมกับดันเข้ามา ทั้งๆที่เข้าไม่ได้"

ตาแว่นโบกี้สุดท้ายประตูแรกขึ้นบ้านทับข้าง ~8.20 น. ที่ผมเจอวันนี้ (ไม่มีมารยาท ไม่มีความเกรงใจ และ สันดานเสีย): "โวยวาย ขยับเข้าไปข้างในหน่อย ขยับเข้าไปข้างในหน่อย ข้างในว่างอะ ขยับเข้าไป ขยับเข้าไปข้างในหน่อย ขยับเข้าไปข้างในหน่อย ข้างในที่ว่างเต็มเลย ทำไมไม่ขยับเข้าไป แบบรัวๆ พอเข้าได้แล้ว จบคำพูดด้วย เห็นแก่ตัวหวะ(ไม่รู้มันด่าตัวเองหรือปล่าว)" ผมหันไปมองตาแว่น("ในใจถามตัวเองไอ...นี่อาการมันเป็นยังไง ป่วย?")เพราะถัดจากผมไปจะเป็นผู้หญิงหนึ่งคน ถ้ามองมาจากด้านนอก จะมีที่ว่างให้เดินไปประมาณ 3-4 คน สับหว่างกันคนหลวมๆ แต่ที่มันเดินไม่ได้เพราะ มีกระเป๋าของนักท่องเที่ยววางอยู่ครับ วางกันเยอะแยะไปหมด กระเป๋าแบคแพคใบใหญ่ 4 ใบ สะพายหน้าอีก 2-3 ใบ คนไกลๆมองเข้ามาจึงดูว่างและคิดว่าคนข้างในไม่ขยับและคนข้างในเป็นคนเห็นแก่ตัว

เป็นแบบนี้บ่อยครับแต่ทนไม่ไหวกับไอตาแว่นวันนี้จริงๆ เนื่องจากโบกี้สุดท้าย จะเป็นโบกี้แรกที่ผู้โดยสารจากสนามบินจะลงมาเจอ(นักท่องเที่ยวที่มีประเป๋า จะนั่งโบกี้นี้เป็นส่วนมาก เพราะไม่ค่อยมีใครรอ express ครับมันนานตะก่อนครึ่งชั่วโมงออกคัน เดี๋ยวนี้ ชั่วโมงออกคัน ตะก่อนผมยังได้นั่งบ้างเวลาไปเจอรอบพอดี)

แต่บางคนไม่ขยับจริงๆก็มีนะครับ มัวแต่เล่นโทรศัพท์ ก็มี แต่พอเค้าได้ยินแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะขยับให้ หรือบางที มันก็ขยับไม่ได้แล้วจริงๆ
ถ้าเห็นว่าเป็นแถวซ้อนแล้วจะขยับได้อยากมากๆเลยก็ 2-3 คนครับ เพราะให้ชิดกันแบบแนบเนื้อก็คงจะดูไม่เหมาะสม
บางทีคนข้างนอกที่ยังเข้าไม่ได้ มองเข้ามาจะเห็นแต่หัว มันก็ดูว่ามีที่ว่างครับ แต่บางที คนอ้วนผมความห่างมันหลอกตา
และบางทีคนที่ยืนช่องกลาง จะยืนแบบ ไหล่ชนไหล่ ทำให้ดูหลอกตาว่ามีที่ว่างครับ

ฝากถึง ตาแว่น ถ้ารีบมาก วันหลัง ตื่นให้ไวกว่านี้นะครับ อย่ามองว่าคนอื่นเห็นแก่ตัว เพราะเพียงแค่คุณเป็นคนเห็นแก่ตัว
และก็ การโวยวายโวยวายช่วงอากาศร้อนๆแบบนี้ มีความเสี่ยงที่จะโดนสตั้นสูงมาก

แก้ไข *ARL => APL
แก้ไข *APL => APL || ARL
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่