"ข้าพเจ้า มังมหานรธา ผู้ซึ่งกำลังจะตายอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว ด้วยความหิวและความเจ็บไข้ ในถ้ำเล็กๆ ทางด้านเหนือของเต้านมด้านใต้สุดของภูเขาสองลูก ข้าพเจ้าขอให้ชื่อมันว่า "ถันพระอุมา" ข้าพเจ้าได้เขียนข้อความนี้ขึ้น ณ ปี พุทธศักราช 2120 ด้วยเศษกระดูกของจะงอยปากนก สิ่งที่ข้าพเจ้าใช้เขียน ส่วนหนึ่งของย่ามติดตัวที่ทำด้วยหนัง โดยใช้เลือดของข้าพเจ้าเองแทนหมึก หากทาสของข้าพเจ้ามาพบมัน ขณะที่เขามาตามหาข้าพเจ้า เขาจะได้นำมันกลับไปยังเมาะลำเลิง ขอให้สหายของข้าพเจ้า...(ชื่ออ่านไม่ออก) จงนำเอาเรื่องราวนี้ ขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระเจ้ากรุงหงสาวดีผู้ทรงพระปัญญา เพื่อพระองค์จะได้เสร็จยาตราทัพมาตามลายแทงนี้ หากว่ากองทัพของพระองค์ไม่แหลกลาญเสียก่อนในป่าดงขุนเขาอันกว้างใหญ่ กันดาร และลี้ลับไปด้วยสรรพอันตราย และสามารถบุเข้าไปจนถึงดินแดนแห่งความโหดเหี้ยมทารุณ อันเต็มไปด้วยภูตผี และอาคมแห่งมรกตนคร พระองค์ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ข้าพเจ้าได้เห็นมหาสมบัติขุมเพชร อันเหลือคณาภายในขุมทรัพย์พระอุมานี่แล้ว ด้วยตาของข้าพเจ้าเองปรากฏอยู่เบื้องหน้า ก่อนกาลมรณะของข้าพเจ้า แต่โดยการทรยศหักหลังของวาชิกา นางแม่มดมหาอุบาทว์ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถนำออกมาได้ แม้แต่ชีวิตของข้าพเจ้าเอง ขอให้ท่านผู้ที่มาตามทางในลายแทงนี้จงพยายามฝ่าความกันดารของถันพระอุมาทางเบื้องซ้ายจนบรรลุถึงยอดของเต้านมแห่งขุนเขาลูกนี้ ทางด้านเหนือของมันจะเป็นถนนราบเรียบ กว้างใหญ่ ที่พระศิวะได้สร้างไว้ จากนั้นเป็นเวลาสามวันในการเดินทาง ตามถนนสายนั้นก็จะบรรลุถึงมหาปราสาทของพระอุมาเทวี ขอให้เขาจงสังหารแม่มดวาชิกาเสียด้วย เป็นการแก้แค้นให้แก่วิญญาณของข้าพเจ้า...ลาก่อน"
จากข้อความในลายแทงที่บ่งบอกว่าแม่มดวาชิกาได้เคยพบกับมหามังรธาเมื่อ 400 ปีก่อน (ตอนแรกผมคิดว่ามังมหารธาเป็นแม่ทัพคนเดียวกับที่มาล้อมอยุธยาแต่พอดูปีแล้วมันไม่ใช่ ช่วงล้อมอยุธยามันปี พ.ศ. 2308 แต่ในข้อความบอกว่ามังมหารธาเขียนลายแทงเมื่อปี พ.ศ. 2120) เป็นช่วงเวลาที่กรุงหงสาวดีเริ่มตั้งเมือง (พ.ศ. 2082) โดยอาจจะหลงเข้าไปโดยไม่ตั้งใจหรือรู้ตำนานเพชรพระอุมาก่อน ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อว่าเป็นอย่างหลังมากกว่าเพราะมีแรงผลักดันในความต้องการทรัพย์สมบัติเพื่อไปสร้างและพัฒนากรุงหงสาวดีทีอยู่ในช่วงเริ่มต้น
การเข้าไปในจนถึงมรกตนครน่าจะไปด้วยกองทัพจำนวนหนึ่งและน่าจะประกอบไปด้วยทหารที่มีฝีมือและซื่อสัตย์ (ไม่อย่างนั้นก็ไม่น่าจะสามารถผ่านเส้นทางที่โหดร้ายได้) อาจจะใช้เวลาหลงอยู่ระหว่างเส้นทางพอสมควรจนไปพบทางเข้ากับมรกตนคร
มรกตนครตามมุมมองของมังมหารธาคือ "ดินแดนแห่งความโหดเหี้ยมทารุณ อันเต็มไปด้วยภูตผี และอาคม" ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ากล่าวถึงมรกตนครก็เพราะข้อความก่อนหน้านี้ที่ว่า "และสามารถบุกเข้าไปถึง..." ก็แสดงกษัตริย์ของมรกตนครสมัยนั้นก็น่าจะเป็นคนที่โหดร้ายมีแม่มดวาชิกาเป็นที่ปรึกษา ทีนี่ก็เป็นจินตนาการของผมล้วนๆ (พยายามหาข้อมูลตรงนี้แต่ยังไม่เจอ) ก็คิดว่าแม่มดวาชิกาก็มีคาถาอาคมมีฐานะเป็นผู้วิเศษ ผู้คนก็นับถืออยู่แล้ว แล้วทำไมต้องมาเป็นแค่ที่ปรึกษาให้กับกษัตริย์ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะกษัตริย์มีกองทัพที่มีขนาดใหญ่และเข้มแข็งมากๆ
ดังนั้นเมื่อมังมหารธาเข้ามาพร้อมกองทัพ แม่มดวาชิกาก็คงรู้ถึงความโลภของมังมหารธาก็เลยแอบมาพบ (เพราะมีตาทิพย์) และได้พาไปดูขุมทรัพย์เพชรพระอุมา (ในขณะนั้นน่าจะยังไม่มีทหารเฝ้าเพราะเพชรไม่ได้เป็นที่สนใจของชาวมรกตนคร) หลังจากนั้นก็น่าทำข้อตกลงกับมังมหารธาว่าถ้าโค่นล้มกษัตริย์ได้ ก็จะให้หรือแบ่งสมบัติตามที่เห็นนี้ ซึ่งมังมหารธาก็ต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน และก็ได้วางแผนการบางอย่างออกมา
ระยะเวลาที่อยู่ในมรกตนครของมังมหารธาน่าจะอยู่หลายปี โดยการช่วยเหลือของแม่มดวาชิกาที่บอกกษัตริย์ให้ต้อนรับซึ่งอาจจะบอกว่า มังมหารธาเป็นคนภายนอกที่เดินทางเข้ามาถึงมรกตนครได้แสดงว่าจะต้องรู้เส้นทางออกไปยังภายนอกเช่นกัน เนื่องจากมรกตนครมีกองทัพที่เข้มแข็ง คาดว่ากษัตริย์ก็น่าจะมีความคิดที่จะขยายดินแดนออกไปยังนอกมรกตนคร (เข้าใจว่าชาวมรกตนครไม่กล้าออกไปยังโลกภายนอกเนื่องจากกลัวอันตรายที่เกิดจากเส้นทาง) ก็เลยให้การต้อนรับโดยหวังจะให้มังมหารธาเขียนแผนที่เส้นทางออกจากมรกตนครไปยังโลกภายนอก
จนถึงเวลาที่กำหนดทางมังมหารธาก็ได้ระดมทหารของตัวเองทำการลอบโจมตีมรกตนครโดยไม่ทันให้ตั้งตัว แต่ด้วยอาวุธและความเข้มแข็งของทหารของมรกตนครเหนือว่าทำให้สามารถสกัดการโจมตีของมังมหารธาได้ แม่มดวาชิกาสามารถเห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นด้วยตาทิพย์และรู้ว่ามังมหารธาไม่อาจจะสามารถชนะทหารของมรกตนครได้ จึงเปลี่ยนใจกลับไปทรยศมังมหารธา ใช้ตาทิพย์ของตัวเองดูการจัดกำลังของมังมหารธาแล้วไปบอกกับกษัตริย์ของมรกตนครเพื่อให้ได้เปรียบในการรบ พร้อมทั้งกล่าวหาที่ว่ามังมหารธาบุกโจมตีในครั้งนี้ ก็เพราะเกิดความโลภที่อยากจะครอบครองขุมทรัพย์เพชรพระอุมา
หลังจากที่เริ่มต่อสู้กันมังมหารธาก็รู้ว่าแม่มดวาชิกาทรยศบวกกับที่ทัพแตกและตัวเองก็บาดเจ็บ จึงจำใจต้องถอยหนีออกไปจากมรกตนครโดยผลัดหลงกับทหารของตัวเองและสุดท้ายก็ไปเจอถ้ำแห่งหนึ่งและรู้ว่าตัวเองไม่รอดจึงได้เขียนแผนที่และข้อความเพื่อให้ทหารหรือทาสที่ผลัดหลงมาเจอภายหลัง กลับไปบอกเจ้ากรุงหงสวดี
หลังจากที่มังมหารธาหนีออกไปจากมรกตนครแล้ว กษัตริย์ก็น่าจะตั้งกฎว่าถ้ามีคนภายนอกเข้ามายังมรกตนครอีกก็ให้ฆ่าทิ้งซะ รวมถึงการตั้งทหารเฝ้าขุมทรัพย์เพชรพระอุมา และแม่มดวาชิกาก็ไม่ได้คิดที่จะโค่นล้มกษัตริย์อีกเลย จนถึง 400 ปีต่อมา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก็ตามนี้ละครับเท่าที่จะจินตนาการได้ ไม่ทราบเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมีจินตนาการที่ต่างไปจากนี้บ้างหรือเปล่า หรือว่าใครมีข้อมูลรายละเอียดที่กล่าวถึงในตอนนี้ ก็เอามาแชร์ให้อ่านกันหน่อยสิครับ
แม่มดวาชิกาทรยศมังมหารธาเรื่องอะไร???
"ข้าพเจ้า มังมหานรธา ผู้ซึ่งกำลังจะตายอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว ด้วยความหิวและความเจ็บไข้ ในถ้ำเล็กๆ ทางด้านเหนือของเต้านมด้านใต้สุดของภูเขาสองลูก ข้าพเจ้าขอให้ชื่อมันว่า "ถันพระอุมา" ข้าพเจ้าได้เขียนข้อความนี้ขึ้น ณ ปี พุทธศักราช 2120 ด้วยเศษกระดูกของจะงอยปากนก สิ่งที่ข้าพเจ้าใช้เขียน ส่วนหนึ่งของย่ามติดตัวที่ทำด้วยหนัง โดยใช้เลือดของข้าพเจ้าเองแทนหมึก หากทาสของข้าพเจ้ามาพบมัน ขณะที่เขามาตามหาข้าพเจ้า เขาจะได้นำมันกลับไปยังเมาะลำเลิง ขอให้สหายของข้าพเจ้า...(ชื่ออ่านไม่ออก) จงนำเอาเรื่องราวนี้ ขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระเจ้ากรุงหงสาวดีผู้ทรงพระปัญญา เพื่อพระองค์จะได้เสร็จยาตราทัพมาตามลายแทงนี้ หากว่ากองทัพของพระองค์ไม่แหลกลาญเสียก่อนในป่าดงขุนเขาอันกว้างใหญ่ กันดาร และลี้ลับไปด้วยสรรพอันตราย และสามารถบุเข้าไปจนถึงดินแดนแห่งความโหดเหี้ยมทารุณ อันเต็มไปด้วยภูตผี และอาคมแห่งมรกตนคร พระองค์ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ข้าพเจ้าได้เห็นมหาสมบัติขุมเพชร อันเหลือคณาภายในขุมทรัพย์พระอุมานี่แล้ว ด้วยตาของข้าพเจ้าเองปรากฏอยู่เบื้องหน้า ก่อนกาลมรณะของข้าพเจ้า แต่โดยการทรยศหักหลังของวาชิกา นางแม่มดมหาอุบาทว์ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถนำออกมาได้ แม้แต่ชีวิตของข้าพเจ้าเอง ขอให้ท่านผู้ที่มาตามทางในลายแทงนี้จงพยายามฝ่าความกันดารของถันพระอุมาทางเบื้องซ้ายจนบรรลุถึงยอดของเต้านมแห่งขุนเขาลูกนี้ ทางด้านเหนือของมันจะเป็นถนนราบเรียบ กว้างใหญ่ ที่พระศิวะได้สร้างไว้ จากนั้นเป็นเวลาสามวันในการเดินทาง ตามถนนสายนั้นก็จะบรรลุถึงมหาปราสาทของพระอุมาเทวี ขอให้เขาจงสังหารแม่มดวาชิกาเสียด้วย เป็นการแก้แค้นให้แก่วิญญาณของข้าพเจ้า...ลาก่อน"
จากข้อความในลายแทงที่บ่งบอกว่าแม่มดวาชิกาได้เคยพบกับมหามังรธาเมื่อ 400 ปีก่อน (ตอนแรกผมคิดว่ามังมหารธาเป็นแม่ทัพคนเดียวกับที่มาล้อมอยุธยาแต่พอดูปีแล้วมันไม่ใช่ ช่วงล้อมอยุธยามันปี พ.ศ. 2308 แต่ในข้อความบอกว่ามังมหารธาเขียนลายแทงเมื่อปี พ.ศ. 2120) เป็นช่วงเวลาที่กรุงหงสาวดีเริ่มตั้งเมือง (พ.ศ. 2082) โดยอาจจะหลงเข้าไปโดยไม่ตั้งใจหรือรู้ตำนานเพชรพระอุมาก่อน ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อว่าเป็นอย่างหลังมากกว่าเพราะมีแรงผลักดันในความต้องการทรัพย์สมบัติเพื่อไปสร้างและพัฒนากรุงหงสาวดีทีอยู่ในช่วงเริ่มต้น
การเข้าไปในจนถึงมรกตนครน่าจะไปด้วยกองทัพจำนวนหนึ่งและน่าจะประกอบไปด้วยทหารที่มีฝีมือและซื่อสัตย์ (ไม่อย่างนั้นก็ไม่น่าจะสามารถผ่านเส้นทางที่โหดร้ายได้) อาจจะใช้เวลาหลงอยู่ระหว่างเส้นทางพอสมควรจนไปพบทางเข้ากับมรกตนคร
มรกตนครตามมุมมองของมังมหารธาคือ "ดินแดนแห่งความโหดเหี้ยมทารุณ อันเต็มไปด้วยภูตผี และอาคม" ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ากล่าวถึงมรกตนครก็เพราะข้อความก่อนหน้านี้ที่ว่า "และสามารถบุกเข้าไปถึง..." ก็แสดงกษัตริย์ของมรกตนครสมัยนั้นก็น่าจะเป็นคนที่โหดร้ายมีแม่มดวาชิกาเป็นที่ปรึกษา ทีนี่ก็เป็นจินตนาการของผมล้วนๆ (พยายามหาข้อมูลตรงนี้แต่ยังไม่เจอ) ก็คิดว่าแม่มดวาชิกาก็มีคาถาอาคมมีฐานะเป็นผู้วิเศษ ผู้คนก็นับถืออยู่แล้ว แล้วทำไมต้องมาเป็นแค่ที่ปรึกษาให้กับกษัตริย์ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะกษัตริย์มีกองทัพที่มีขนาดใหญ่และเข้มแข็งมากๆ
ดังนั้นเมื่อมังมหารธาเข้ามาพร้อมกองทัพ แม่มดวาชิกาก็คงรู้ถึงความโลภของมังมหารธาก็เลยแอบมาพบ (เพราะมีตาทิพย์) และได้พาไปดูขุมทรัพย์เพชรพระอุมา (ในขณะนั้นน่าจะยังไม่มีทหารเฝ้าเพราะเพชรไม่ได้เป็นที่สนใจของชาวมรกตนคร) หลังจากนั้นก็น่าทำข้อตกลงกับมังมหารธาว่าถ้าโค่นล้มกษัตริย์ได้ ก็จะให้หรือแบ่งสมบัติตามที่เห็นนี้ ซึ่งมังมหารธาก็ต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน และก็ได้วางแผนการบางอย่างออกมา
ระยะเวลาที่อยู่ในมรกตนครของมังมหารธาน่าจะอยู่หลายปี โดยการช่วยเหลือของแม่มดวาชิกาที่บอกกษัตริย์ให้ต้อนรับซึ่งอาจจะบอกว่า มังมหารธาเป็นคนภายนอกที่เดินทางเข้ามาถึงมรกตนครได้แสดงว่าจะต้องรู้เส้นทางออกไปยังภายนอกเช่นกัน เนื่องจากมรกตนครมีกองทัพที่เข้มแข็ง คาดว่ากษัตริย์ก็น่าจะมีความคิดที่จะขยายดินแดนออกไปยังนอกมรกตนคร (เข้าใจว่าชาวมรกตนครไม่กล้าออกไปยังโลกภายนอกเนื่องจากกลัวอันตรายที่เกิดจากเส้นทาง) ก็เลยให้การต้อนรับโดยหวังจะให้มังมหารธาเขียนแผนที่เส้นทางออกจากมรกตนครไปยังโลกภายนอก
จนถึงเวลาที่กำหนดทางมังมหารธาก็ได้ระดมทหารของตัวเองทำการลอบโจมตีมรกตนครโดยไม่ทันให้ตั้งตัว แต่ด้วยอาวุธและความเข้มแข็งของทหารของมรกตนครเหนือว่าทำให้สามารถสกัดการโจมตีของมังมหารธาได้ แม่มดวาชิกาสามารถเห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นด้วยตาทิพย์และรู้ว่ามังมหารธาไม่อาจจะสามารถชนะทหารของมรกตนครได้ จึงเปลี่ยนใจกลับไปทรยศมังมหารธา ใช้ตาทิพย์ของตัวเองดูการจัดกำลังของมังมหารธาแล้วไปบอกกับกษัตริย์ของมรกตนครเพื่อให้ได้เปรียบในการรบ พร้อมทั้งกล่าวหาที่ว่ามังมหารธาบุกโจมตีในครั้งนี้ ก็เพราะเกิดความโลภที่อยากจะครอบครองขุมทรัพย์เพชรพระอุมา
หลังจากที่เริ่มต่อสู้กันมังมหารธาก็รู้ว่าแม่มดวาชิกาทรยศบวกกับที่ทัพแตกและตัวเองก็บาดเจ็บ จึงจำใจต้องถอยหนีออกไปจากมรกตนครโดยผลัดหลงกับทหารของตัวเองและสุดท้ายก็ไปเจอถ้ำแห่งหนึ่งและรู้ว่าตัวเองไม่รอดจึงได้เขียนแผนที่และข้อความเพื่อให้ทหารหรือทาสที่ผลัดหลงมาเจอภายหลัง กลับไปบอกเจ้ากรุงหงสวดี
หลังจากที่มังมหารธาหนีออกไปจากมรกตนครแล้ว กษัตริย์ก็น่าจะตั้งกฎว่าถ้ามีคนภายนอกเข้ามายังมรกตนครอีกก็ให้ฆ่าทิ้งซะ รวมถึงการตั้งทหารเฝ้าขุมทรัพย์เพชรพระอุมา และแม่มดวาชิกาก็ไม่ได้คิดที่จะโค่นล้มกษัตริย์อีกเลย จนถึง 400 ปีต่อมา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก็ตามนี้ละครับเท่าที่จะจินตนาการได้ ไม่ทราบเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมีจินตนาการที่ต่างไปจากนี้บ้างหรือเปล่า หรือว่าใครมีข้อมูลรายละเอียดที่กล่าวถึงในตอนนี้ ก็เอามาแชร์ให้อ่านกันหน่อยสิครับ