สวัสดีคะ ตอนที่ 2 แล้วนะคะ สำหรับคนที่เพิ่งเหนและอยากอ่านตอนก่อนหน้าที่
ตอนที่ 0 : แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับคนที่สนใจเดือนสุดท้ายในการสมัคร Work&Study : http://ppantip.com/topic/31947809
ตอนที่ 1: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับการเลือกเอเจนซี่และการจัดกระเป๋าคะ : http://ppantip.com/topic/31949648
ตอนที่ 3: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับสถาบันที่เราเรียนและรถประจำทาง : http://ppantip.com/topic/31959865
ตอนที่ 4: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับช้อปปิ้งและซื้อของถูกคะ : http://ppantip.com/topic/31965000
ตอนที่ 5: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับชีวิตประจำวันในเดือนแรก : http://ppantip.com/topic/31969214
ตอนที่ 6: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับการคบเพื่อน กิจกรรมและสถานที่เที่ยว : http://ppantip.com/topic/31973231
ตอนที่ 7: แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Canada กับค่าใช่จ่าย การหาบ้าน และThe Rockies Mtn : http://ppantip.com/topic/32004307

ขึ้นหัวกระทู้มาก็งงแล้ว ที่ว่าอะไรหลายอย่างครั้งแรกนี่คือ
1. นั่งเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก
2. เจอโฮสครั้งแรก
3. อาหารมื้อแรกในแคนาดา
4.ไปเที่ยวที่แรก
5. กินกาแฟที่ Tim Horton ครั้งแรก
6. ไปโรงเรียนวันแรก
7. หลงทางครั้งแรก

ก่อนไปพี่เอเจ่น เค้านัดเจอก่อน จริงๆคือจะมีคนไปพร้อมเราอีก 2 คนคะ แต่วันที่เค้านัดรวม เรากลับตจว. เลยเจอพี่เค้าคนเดียวเลย คือ เค้านัดมาอธิบายเรื่องการใช้ชีวิต การขึ้นรถประจำทาง การไปซื้อของ โรงเรียนอยู่ตรงไหน เดินทางจากบ้านโฮสไปยังไง พร้อมกับเอาของแถมที่เราใช้บริการเค้าคือ กระเป๋าเดินทางใบเล็ก 1 ใบ บัตรโทรศัพท์โทรกลับไทย 600 บาท และ ตั๋วรถประจำทางที่โน้น 1 ใบคะ

เริ่มที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกนะคะ
เรื่องตั๋วเครื่องบิน เอเจ่น เราจัดการให้คะ สบายค่า บอกแล้วว่าให้ผ่านเอเจ่น! เราบินกับ EVA คะ ก็รู้สึกโอเคนะคะ ที่สำคัญเราโชคดีมากๆคะ ได้นั่งที่นั่งดีสุดๆ สายการบินนี้ ต้องไปต่อเครื่องที่ ไต้หวันคะ เครื่องออกประมาน 4โมงกว่าๆ แต่เราไปถึงสนามบินก่อนเที่ยง เพราะอยากนัดกินข้าวกับเพื่อนที่ไปส่งเราที่สนามบินก่อนคะ คือเราไปถึงเร็วไงคะ พี่เอเจ่นยังมาไม่ถึง พี่อีก 2 คนที่จะเดินทางพร้อมเราก็ไม่เคยเหนหน้าไม่รู้มารึยัง เราเลยเช็คอินเลยค่ะ กลัวไปนั่งกินแล้วโม้เพลิน เช็คอินไม่ทัน สรุป เราเลยต้องนั่งคนเดียวตลอดการเดินทางคะ
      ร่ำลากับครอบครัวและเพื่อนๆ เสร็จก็ตรงไปขึ้นเครื่องเลยคะ แทบจะวิ่งเข้าไป เพราะพี่อีก 2 คนเค้าไป Work&Study 1 ปี เลยลาครอบครัวนานหน่อย ตอนนั้นเรากะไป 3 เดือนเลยเฉยๆคะ ออกแนวดีใจด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ เพราะเหมือนเวลาเรามาเรียนที่ กทม. แล้วห่างกับแม่ที่ตจว. เริ่มที่ลำแรก นั่งจากไทยไปไทเป ถ้าจำไม่ผิด 3 ชั่วโมงกว่าๆ แต่รู้สึกนานคะ ไม่รู้ทำไม อาจเพราะคิดว่าเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากที่เรานั่งบนเครื่องมาเป็นเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ เกือบ 4  ก็ถึงไทเป รอต่อเครื่องไปแวนคูเวอร์ รอแค่ประมาน 2 ชั่วโมงกว่าๆคะ ใครไม่อยากรอเปลี่ยนเครื่องนานแนะนำสายการบินนี้นะคะ ที่ไทเปเวลาเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมงคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมปรับนาฬิกานะคะ เดี่ยวตกเครื่อง ทางที่ดีไปนั่งรอหน้าเกต รอจนกว่าเกตจะเปิดดีกว่าคะ 2 ชั่วโมงแปบเดียวเองคะ นั่งเอนหลัง เล่นมือถือแปบเดียวก็เกตเปิดแล้วคะ แต่เราแบบตื่นเต้นมากกว่า พอเค้าเรียกขึ้นเครื่อง เค้าเรียกเป็นโซนตามที่นั่งคะ เราได้คนละโซนกับพี่ที่มาด้วย 2 คน แต่เนียนๆไปขึ้นตามโซนพี่เค้า พอขึ้นไปบนเครื่อง เห็นว่าเครื่องค่อนข้างใหญ่ มีชั้น 2 ด้วยคะ พอเราโชว์ตั๋วเครื่องให้ดู เค้าบอกเลยว่า ขึ้นชั้น 2 คะ ส่วนพี่อีก 2คน อยู่ชั้น 1 เราแบบก็หงอยๆ แต่พอขึ้นถึงบนชั้น2 ถึงกับยิ้มไม่หุบเลยคะ ที่นั่งสบายมาก คือเรานั่งริมหน้าต่าง มีที่เก็บของส่วนตัวข้างๆที่นั่ง เพราะที่เก็บของด้านบนแคบคะ สะดวกสบายมาก จะหยิบของอะไรก็ สะดวก เวลานอนก็เอาขาไปวางบนชั้น ผู้โดยสารก็มีแค่ประมาน 10 แถว แถมเรานั่งริมหน้าต่าง ตรงกลางว่าง และมีผู้หญิงอีกคนนั่วริมทางเดิน สบายสุดๆคะ

สิ่งที่เราควรพกไปบนเครื่องบิน
- กางเกงสบายๆ เอาไว้เปลี่ยน เพราะนั่งบนเครื่องตั้งสิบกว่าชั่วโมงคะ เราเอาเกงวอร์มไปเปลี่ยนคะ
- เสื้อกันหนาว
- แปรงฟัน ยาสีฝันหลอดเล็กจิ๋ว คือหลอดเล็กมากๆคะ เพราะเวลาถึง เราคงไม่อยากคุยกับใคร ทั้งๆที่ไม่ได้แปรงฟันหรอกนะคะ
- คอนแทคเลนส์ น้ำยาล้างขวดเล็ก แว่นตา
- หมอนรองคอ
-สำคัญ เอกสารที่เอเจนเตรียมให้คะ เอาไว้ไปยื่นให้ ตม.
- สำคัญมากอีกอย่าง พาสพอร์ต