คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
มันเป็นความคิดแบบหัวโบราณค่ะ แบบว่าผู้ชายต้องปกป้องดูแลผู้หญิง
ถ้าบ้านไหน สังคมไหนค่อนข้างจะหัวโบราณนิดนึง (ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะคะ) ก็จะคิดแบบนี้เลยค่ะ
ถ้าบ้านไหน สังคมไหนหัวสมัยใหม่หน่อยก็จะไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้ค่ะ
เพื่อนเราคนนึง พ่อเขาเก่งมาก หาเลี้ยงครอบครัวคนเดียวส่งลูก 7-8คนเรียนจบดีๆหมด แม่เขาเป็นแม่บ้านอย่างเดียวแล้วบ้านเขาก็หัวโบราณหน่อยๆ ถ้าผู้ชายมาจีบแล้วไม่เลี้ยงข้าวมื้อแรกคือจบเลยนะคะ ไม่มีคุยต่อ เราคิดว่าก็คงเพราะมองหาผู้ชายแบบพ่อ คือชอบผู้ชายที่ดูเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแล (ค่าใช้จ่าย)ผู้หญิงได้ แล้วผู้หญิงแบบนี้ก็มีแนวโน้มว่าแต่งงานไปจะมอบอนาคตให้ผู้ชายวางแผน
แต่อย่างเราที่พ่อกับแม่ทำงานทั้งคู่ และก็สนิทกันเหมือนเพื่อน จะทำอะไรก็ปรึกษากัน เราก็จะมองผู้ชายเป็นอีกแบบ ไปเดทก็แชร์กัน พอจะมีคู่ก็หาคนที่เป็น "คู่คิด" ผู้หญิงอย่างเราไม่เลิกคุยกับผู้ชายเพราะไม่เลี้ยงข้าว ไม่ซื้อของให้แน่นอนค่ะ แต่ถ้าผู้ชายคนไหนดูบ้าอำนาจ อยากมาชี้นำชีวิตนี่เราไม่คุยต่อเลยค่ะ ไม่ชอบ และอนาคตครอบครัวต้องวางแผนร่วมกันค่ะ
ผู้ชายหัวเก่า (ชอบเลี้ยง ชอบเป็นผู้นำ) + ผู้หญิงหัวเก่า (ชอบผู้ชายสปอร์ต ชอบถูกดูแล) = แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ ผู้ชายรับบทหัวหน้าครอบครัว
ผู้ชายหัวใหม่ (แฟร์ๆ ชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน) + ผู้หญิงหัวเก่า = ทะเลาะกันไม่จบ ผู้หญิงคิดว่าผู้ชายงกและไม่เป็นผู้นำ ผู้ชายคิดว่าผู้หญิงเอาเปรียบและไม่มีหัวคิด
ผู้ชายหัวเก่า + ผู้หญิงหัวใหม่ (แฟร์ๆ ชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน) = ทะเลาะกันไม่จบ ผู้หญิงคิดว่าผู้ชายบ้าอำนาจ ผู้ชายคิดว่าผู้หญิงไม่ให้เกียรติ ดื้อ
ผู้ชายหัวใหม่ + ผู้หญิงหัวใหม่ = แฮปปี้เอนดิ้ง คู่รักคู่คิด
เราว่าคนเราต้องหาคู่ที่เหมาะสมกับแนวคิดของตัวเองค่ะ แล้วจะมีความสุขค่ะ
ปล. สามีเราไม่เคยเลี้ยงข้าวเลยค่ะ ตั้งแต่จีบเลยค่ะ 5555+
ถ้าบ้านไหน สังคมไหนค่อนข้างจะหัวโบราณนิดนึง (ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะคะ) ก็จะคิดแบบนี้เลยค่ะ
ถ้าบ้านไหน สังคมไหนหัวสมัยใหม่หน่อยก็จะไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้ค่ะ
เพื่อนเราคนนึง พ่อเขาเก่งมาก หาเลี้ยงครอบครัวคนเดียวส่งลูก 7-8คนเรียนจบดีๆหมด แม่เขาเป็นแม่บ้านอย่างเดียวแล้วบ้านเขาก็หัวโบราณหน่อยๆ ถ้าผู้ชายมาจีบแล้วไม่เลี้ยงข้าวมื้อแรกคือจบเลยนะคะ ไม่มีคุยต่อ เราคิดว่าก็คงเพราะมองหาผู้ชายแบบพ่อ คือชอบผู้ชายที่ดูเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแล (ค่าใช้จ่าย)ผู้หญิงได้ แล้วผู้หญิงแบบนี้ก็มีแนวโน้มว่าแต่งงานไปจะมอบอนาคตให้ผู้ชายวางแผน
แต่อย่างเราที่พ่อกับแม่ทำงานทั้งคู่ และก็สนิทกันเหมือนเพื่อน จะทำอะไรก็ปรึกษากัน เราก็จะมองผู้ชายเป็นอีกแบบ ไปเดทก็แชร์กัน พอจะมีคู่ก็หาคนที่เป็น "คู่คิด" ผู้หญิงอย่างเราไม่เลิกคุยกับผู้ชายเพราะไม่เลี้ยงข้าว ไม่ซื้อของให้แน่นอนค่ะ แต่ถ้าผู้ชายคนไหนดูบ้าอำนาจ อยากมาชี้นำชีวิตนี่เราไม่คุยต่อเลยค่ะ ไม่ชอบ และอนาคตครอบครัวต้องวางแผนร่วมกันค่ะ
ผู้ชายหัวเก่า (ชอบเลี้ยง ชอบเป็นผู้นำ) + ผู้หญิงหัวเก่า (ชอบผู้ชายสปอร์ต ชอบถูกดูแล) = แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ ผู้ชายรับบทหัวหน้าครอบครัว
ผู้ชายหัวใหม่ (แฟร์ๆ ชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน) + ผู้หญิงหัวเก่า = ทะเลาะกันไม่จบ ผู้หญิงคิดว่าผู้ชายงกและไม่เป็นผู้นำ ผู้ชายคิดว่าผู้หญิงเอาเปรียบและไม่มีหัวคิด
ผู้ชายหัวเก่า + ผู้หญิงหัวใหม่ (แฟร์ๆ ชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน) = ทะเลาะกันไม่จบ ผู้หญิงคิดว่าผู้ชายบ้าอำนาจ ผู้ชายคิดว่าผู้หญิงไม่ให้เกียรติ ดื้อ
ผู้ชายหัวใหม่ + ผู้หญิงหัวใหม่ = แฮปปี้เอนดิ้ง คู่รักคู่คิด
เราว่าคนเราต้องหาคู่ที่เหมาะสมกับแนวคิดของตัวเองค่ะ แล้วจะมีความสุขค่ะ
ปล. สามีเราไม่เคยเลี้ยงข้าวเลยค่ะ ตั้งแต่จีบเลยค่ะ 5555+
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
"เพราะถ้าต้องจ่ายๆๆๆ อยู่ฝ่ายเดียว เพื่อให้ได้คบกัน
ไปผูกปิ่นโต หรือซื้อข้าวนอกบ้านกิน จะคุ้มค่าเงินกว่าหรือเปล่าครับ?"
"คืออยากหาคู่ชีวิตน่ะครับ ไม่ได้อยากเพิ่มภาระ"
ผมไม่แปลกใจคับถ้า จขกท จะยังไม่มีแฟนหรือจะจีบใครไม่ติด แหม จีบใครสักคนต้องคุ้มค่าเงิน? อยู่เป็นโสดไปนะดีแล้วครับ
ซื้อกินเอาเถอะ คุ้มสุดแล้ว วันละคนไม่ซ้ำหน้า
อาเสี่ยคนนึงที่ผมรู้จัก คิดแบบ จขกท เอะอะก็เงินๆทองๆ คุ้มค่าเงินไหม เมียต้องช่วยหาเงิน อย่าทำตัวเป็นภาระ
พอตัวเองพิการขึ้นมา เมียไม่ดูแล ไม่อยากลำบากอะ ฉันอยู่ของฉันคนเดียวสบาย ไม่ต้องมี"ภาระ"
ไปผูกปิ่นโต หรือซื้อข้าวนอกบ้านกิน จะคุ้มค่าเงินกว่าหรือเปล่าครับ?"
"คืออยากหาคู่ชีวิตน่ะครับ ไม่ได้อยากเพิ่มภาระ"
ผมไม่แปลกใจคับถ้า จขกท จะยังไม่มีแฟนหรือจะจีบใครไม่ติด แหม จีบใครสักคนต้องคุ้มค่าเงิน? อยู่เป็นโสดไปนะดีแล้วครับ
ซื้อกินเอาเถอะ คุ้มสุดแล้ว วันละคนไม่ซ้ำหน้า
อาเสี่ยคนนึงที่ผมรู้จัก คิดแบบ จขกท เอะอะก็เงินๆทองๆ คุ้มค่าเงินไหม เมียต้องช่วยหาเงิน อย่าทำตัวเป็นภาระ
พอตัวเองพิการขึ้นมา เมียไม่ดูแล ไม่อยากลำบากอะ ฉันอยู่ของฉันคนเดียวสบาย ไม่ต้องมี"ภาระ"
แสดงความคิดเห็น
ทำไมแนวคิดที่ว่า "ผู้หญิง คบหาแต่งงาน ต้องให้ผู้ชายเลี้ยงเค้าได้" ถึงเป็นที่ยอมรับกว้างขวางครับ?
เผื่อเข้าใจว่าผมจะเอาเมียมาเป็นแม่บ้านแล้วยังบังคับให้ไปทำงานอีก
เรื่องที่ผู้หญิงต้องอุ้มท้อง ต้องคลอดลูก ผู้ชายจึงต้องเลี้ยงผู้หญิงใด้ในช่วงที่เค้าอ่อนแอ - ได้ครับ เป็นความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อ ในช่วงที่เค้าอ่อนแอ ผมจะคอยดูแลเอาใจใส่ไม่ห่างเลย
แต่เรื่องเงิน ถ้าผู้หญิงมีงานประจำ มีสวัสดิการลาท้อง ลาคลอด ลาเลี้ยงลูก ผมว่าไม่มีปัญหานะ ถึงหยุดอยู่บ้านเฉยๆก็มีเงินเดือนนี่ครับ
แต่สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระ อันนี้ ผมก็ต้องเข้าใจ และต้องสามารถเลี้ยงเค้าได้ ถ้าคนที่ผมรักเป็นอย่างหลัง ผมพร้อมเลี้ยงเค้าครับ ผมก็ต้องวางแผน หาเงินเก็บสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วง 1 ปีที่ลูกอยู่ในท้องผู้หญิงและหลังคลอดใหม่ๆ ซึ่งออกไปหาเงินไม่ได้ อันนี้ผมก็จะทำให้นะครับ
ผู้หญิงต้องทำงานบ้าน - เดี๋ยวผมช่วยอย่างเต็มที่ครับ ทุกวันนี้ก็ดูแลตัวเองได้ เราก็ผลัดกันทำ คุณได้ไม่เหนื่อย
ผู้หญิงต้องเลี้ยงลูก ไปรับไปส่งไปเรียน ดูแลพาเที่ยว - เดี๋ยวผมช่วยอย่างเต็มที่ครับ ผู้ชายก็เลี้ยงลูกได้เท่าผู้หญิงครับ แค่ไม่มีนม
ผมช่วยเลี้ยงลูกให้พี่สาวมา โตมา 3 ชีวิตแล้ว
แล้วถ้าเราช่วยกันหาเงิน การจ้างแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาด ดูแลบ้านมันก็ไม่ได้ยากนี่ครับ ทำง่ายลงเท่าตัวเลยด้วย
-----------------------------------
ออกตัวก่อนผมไม่ไดู้ถูกผู้หญิงนะครับ
ผมมองว่าทั้งสองเพศเท่าเทียมกัน ไม่เชื่อไปขุดๆกระทู้ที่ผมตอบดูก็ได้
แต่เพราะมองว่าเท่าเทียมแหละ เลยไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ครับ
คือตอนนี้มีความคิดว่า ชีวิตนี้ไม่กะจะเลี้ยงดูผู้หญิงที่ใหนที่ไม่ใช่แม่ พี่น้อง ลูกหลาน
คบกัน ก็มาแบ่งปันความสุข แชร์ความทุกข์ ช่วยเหลือกันไป
คืออยากหาคู่ชีวิตน่ะครับ ไม่ได้อยากเพิ่มภาระ
ใหนๆเราก็รักกัน มาช่วยเหลือกันให้เจริญขึ้นทั้ง 2 ทาง แบบนี้ผมจะโอเคกว่า
ไม่ได้ตัดพ้อเพราะจีบสาวไม่ติดนะครับ ผมก็เข้าใจครับว่ามีคนคิดแบบนี้
คือ แค่คิดว่า ถ้าคบกันเราก็มาดูใจกันแฟร์ๆก็ได้นี่ครับ
ไม่ถูกใจก็แยกทางกันไป อเมริกันแชร์ ตอนเลิกกันไม่มีอะไรติดค้าง
แต่เหมือนว่า ผู้หญิงกว่าครึ่ง (ครึ่งที่ผมเห็นนะ) มองว่า การทำแบบนี้มันไม่โอเค ไม่ควรคบหาเป็นคนรัก
ไม่ได้จะแบ่ง 50/50 ตลอดเวลานะครับ วันใหนนึกครึ้มใจผมอาจซื้อของขวัญมาเซอไพรซ์ก็ได้
คือขอสปอร์ตเพราะรักกันไปแล้วได้ป่าวครับ ไม่อยากเอาเงินไปซื้อความรัก
เพราะถ้าต้องจ่ายๆๆๆ อยู่ฝ่ายเดียว เพื่อให้ได้คบกัน
ไปผูกปิ่นโต หรือซื้อข้าวนอกบ้านกิน จะคุ้มค่าเงินกว่าหรือเปล่าครับ?
(อีกครั้ง ไม่ได้ดูถูกผู้หญิงนะครับ ผมแค่มองว่าผู้หญิงที่ทำอาชีพนี้เค้าก็แฟร์ดี ดีลกันแล้วก็ส่งมอบของตามสัญญา ดีกว่าต้องทุ่มจีบสุดตัว สุดท้ายบางทีจีบไม่ติดอีก จ่ายล่วงหน้าแต่ไม่รับประกันความพอใจ ถึงคนเค้าก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ แต่คนโดนทิ้งก็เซ็งอยู่ดีนะ)
ก็นั่นแหละนะเราไม่จ่ายมันก็มีคนอื่นยอมจ่าย
เปรียบเทียบกับแบบป๋าๆเค้า เรามันก็คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง
ผมก็พอเข้าใจสิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อตัวผม ที่ทำพฤติกรรมแบบนี้
มองกลับกัน ผมเป็นผู้ชาย ผมตัดพ้อบ้างได้หรือเปล่าครับ
ถ้าไปเดทกับสาว ผมเอามาเม้าให้เพื่อนฟังว่า ผู้หญิงคนนี้ขี้เหนียวไม่เห็นเลี้ยงข้าวผมเลย เดทแรกก็จะให้แชร์กันแล้ว
ได้หรือเปล่าครับ หรือมองว่า ไม่แมนเลยคิดเล็กคิดน้อยครับ (แต่ผมว่าแบบนี้ผมคือคิดมากต่างหาก)
ถ้าต้องโชว์ว่าผมจะดูแล ลูกของเราสองได้ไม่อดอยาก ในอนาคต
เอาเงินในบัญชีผม และ ผู้หญิงเค้า มาแบให้ดูกัน คำนวนรวมๆกัน วางแผนอนาคต หาเงินร่วมกัน
ได้หรือเปล่าครับ แฟร์มั๊ยครับ
ถ้าคิดแบบนี้ จะมีสาวที่ใหนหลงมาเอาหรือเปล่าครับ
ผมควรกอดเงินทองที่ตัวเองมี หาได้เท่าไรก็เอาไปใช้จ่ายให้มีความสุข สุดท้ายตาย เหลือเงินกี่บาทก็เอาลงหลุมไปด้วย อย่างเดียวดายหรือเปล่าครับ
ช่วยสงเคราะห์ผมทีอยากรู้ เผลอๆบางคำตอบอาจโดนใจ พรุ่งนี้ผมกลายเป็นป๋าไปเลยก็ได้