กรณี พ.ต.อ.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว. สมุทรสาคร สั่งการให้ตำรวจจราจร ดำเนินการล็อคล้อรถเบ๊นซ์ เอส 280 สีดำ ทะเบียน สห 2243 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.อ.อดุลย์ ชายภักตร์ ผกก.อก. บก.ภ.จว.สมุทรสาคร ที่จอดอยู่บริเวณจุดจอดรถใต้อาคารที่ทำการกองบัญชาการตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่จอดรถประจำของ พ.ต.อ.ประเสริฐ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายตำรวจคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมประชุมหารือข้อราชการ และติดตามผลการปฏิบติงาน ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เร๊นซ์ โดยมีนายตำรวจระดับรอง ผบก. ผกก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย โดยในวันนี้นายตำรวจคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้นั่งร่วมประชุมอยู่ตรงข้ามกันพอดีด้วย ผบก.ภ.จว.สมุทสาครจึงให้ทั้งคู่พูดคุยปรับความเข้าใจกัน ซึ่ง พ.ต.อ.อดุลย์ ได้นำเอกสารครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว มาแสดงในที่ประชุมด้วย โดยมีการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที
หลังเสร็จ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด เนื่องจากในวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายตำรวจทั้งคู่ ได้เดินทางมาเคลียร์งานที่คั่งค้างในวันหยุด แต่เมื่อรองผู้บังคับการฯเห็นว่า มีรถมาจอดอยู่ในที่จอดรถของตน และไม่มีใครรู้ว่าเป็นรถใคร
จึงสั่งให้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียน แต่ไม่พบข้อมูลผู้ครอบครอง เนื่องจาก พ.ต.อ.อดุลย์ ได้ขอใช้ทะเบียนใหม่ ซึ่งเป็นทะเบียนประมูลทำให้เลขที่ใช้อยู่ปัจจุบันถูกลบข้อมูลไป รองผู้บังคับการฯ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่จราจร ดำเนินการล็อคล้อรถคันดังกล่าว เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปให้แน่นอน กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นรถของพ.ต.อ.อดุลย์ จึงสั่งให้ปลดล็อคออก ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า ตำรวจทั้งสองนายไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือผิดใจกัน และร่วมกันด้วยดีเสมอมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันได้ชัดเจนว่า เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น และขอให้เรื่องนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะทั้งสองคนก็เข้าใจกันได้ด้วยดี
ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมไม่รู้ว่าเป็นรถของผกก.อดุลย์จริง ๆ เพราะรถผู้กำกับมีหลายคัน หากผมรู้ก็คงไม่สั่งให้ล็อคล้อ หรือถ้ารู้แล้วสั่งก็บ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือถ้ารถคันดังกล่าวสามารถตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองที่ชัดเจนได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการตำรวจ หรือประชาชนทั่วไป เหตุการณ์เช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อมาปลดล็อคล้อรถของตนก็พอใจแล้ว เพราะทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ผู้บังคับการฯ บอกคือ เป็นเรื่องเข้าใจผิด และเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรถของ พ.ต.อ.อดุลย์ คันที่ถูกล็อคล้อนั้น เพิ่งจะได้รับการปลดล็อคเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้นายตำรวจรายดังกล่าวต้องนำรถเก๋ง บีเอ็มดับบลิวมาใช้แทน แต่นำไปจอดไว้บริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณใต้ถุนอาคารของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครที่จอดเต็ม เพราะในวันนี้เป็นวันเปิดทำการวันแรก อีกทั้งมีช่างมาทาสีปรับสภาพใต้ถุนอาคารใหม่เพื่อความสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย.
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/230998/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AF%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3+%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2+%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%81%E0%B8%81.%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94
............................................................................................
สงสัยว่า ตรวจยังไงถึงไม่มีทะเบียนในระบบของกรมการขนส่ง.... ถึงยังไม่ติดทะเบียนใหม่ "ที่อ้างว่า" ประมูลมา ทะเบียนรถปัจจุบันมันก็ต้องอยู่ในระบบไม่ใช่หรือ ? (หรือถึงเปลี่ยนไป ทะเบียนเดิมมันก็น่าจะต้องยังมีอยู่อ้างถึงไปได้ ไม่ใช่ลบหายไปเริ่มใหม่เอาดื้อๆ)
....ยิ่งมีข่าวว่าพวกรถนำเข้าเถื่อน รถขโมยมาปล่อยถูกๆ รถยึดระหว่างคดี หรือ รถหลุดบ่อน พวกตำรวจนี่แหละ เป็นคนที่ชอบเอามาใช้ ......เพราะไม่มี "ตำรวจ" ด้วยกันกล้าไปจับง่ายๆ
.....มีใครที่ใช้รถทะเบียนประมูลทราบไหมครับ ?
ผู้กำกับที่โดนล็อคล้อ ขับรถเถื่อนหรือเปล่า ?
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมประชุมหารือข้อราชการ และติดตามผลการปฏิบติงาน ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เร๊นซ์ โดยมีนายตำรวจระดับรอง ผบก. ผกก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย โดยในวันนี้นายตำรวจคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้นั่งร่วมประชุมอยู่ตรงข้ามกันพอดีด้วย ผบก.ภ.จว.สมุทสาครจึงให้ทั้งคู่พูดคุยปรับความเข้าใจกัน ซึ่ง พ.ต.อ.อดุลย์ ได้นำเอกสารครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว มาแสดงในที่ประชุมด้วย โดยมีการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที
หลังเสร็จ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด เนื่องจากในวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายตำรวจทั้งคู่ ได้เดินทางมาเคลียร์งานที่คั่งค้างในวันหยุด แต่เมื่อรองผู้บังคับการฯเห็นว่า มีรถมาจอดอยู่ในที่จอดรถของตน และไม่มีใครรู้ว่าเป็นรถใคร จึงสั่งให้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียน แต่ไม่พบข้อมูลผู้ครอบครอง เนื่องจาก พ.ต.อ.อดุลย์ ได้ขอใช้ทะเบียนใหม่ ซึ่งเป็นทะเบียนประมูลทำให้เลขที่ใช้อยู่ปัจจุบันถูกลบข้อมูลไป รองผู้บังคับการฯ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่จราจร ดำเนินการล็อคล้อรถคันดังกล่าว เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปให้แน่นอน กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นรถของพ.ต.อ.อดุลย์ จึงสั่งให้ปลดล็อคออก ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า ตำรวจทั้งสองนายไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือผิดใจกัน และร่วมกันด้วยดีเสมอมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันได้ชัดเจนว่า เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น และขอให้เรื่องนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะทั้งสองคนก็เข้าใจกันได้ด้วยดี
ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมไม่รู้ว่าเป็นรถของผกก.อดุลย์จริง ๆ เพราะรถผู้กำกับมีหลายคัน หากผมรู้ก็คงไม่สั่งให้ล็อคล้อ หรือถ้ารู้แล้วสั่งก็บ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือถ้ารถคันดังกล่าวสามารถตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองที่ชัดเจนได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการตำรวจ หรือประชาชนทั่วไป เหตุการณ์เช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อมาปลดล็อคล้อรถของตนก็พอใจแล้ว เพราะทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ผู้บังคับการฯ บอกคือ เป็นเรื่องเข้าใจผิด และเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรถของ พ.ต.อ.อดุลย์ คันที่ถูกล็อคล้อนั้น เพิ่งจะได้รับการปลดล็อคเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้นายตำรวจรายดังกล่าวต้องนำรถเก๋ง บีเอ็มดับบลิวมาใช้แทน แต่นำไปจอดไว้บริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณใต้ถุนอาคารของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครที่จอดเต็ม เพราะในวันนี้เป็นวันเปิดทำการวันแรก อีกทั้งมีช่างมาทาสีปรับสภาพใต้ถุนอาคารใหม่เพื่อความสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย.
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/230998/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AF%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3+%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2+%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%81%E0%B8%81.%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94
............................................................................................
สงสัยว่า ตรวจยังไงถึงไม่มีทะเบียนในระบบของกรมการขนส่ง.... ถึงยังไม่ติดทะเบียนใหม่ "ที่อ้างว่า" ประมูลมา ทะเบียนรถปัจจุบันมันก็ต้องอยู่ในระบบไม่ใช่หรือ ? (หรือถึงเปลี่ยนไป ทะเบียนเดิมมันก็น่าจะต้องยังมีอยู่อ้างถึงไปได้ ไม่ใช่ลบหายไปเริ่มใหม่เอาดื้อๆ)
....ยิ่งมีข่าวว่าพวกรถนำเข้าเถื่อน รถขโมยมาปล่อยถูกๆ รถยึดระหว่างคดี หรือ รถหลุดบ่อน พวกตำรวจนี่แหละ เป็นคนที่ชอบเอามาใช้ ......เพราะไม่มี "ตำรวจ" ด้วยกันกล้าไปจับง่ายๆ
.....มีใครที่ใช้รถทะเบียนประมูลทราบไหมครับ ?