วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้
- เผยแพร่ข้อมูลจากสภาพการใช้งานจริง
- แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนสมาชิกที่สนใจ
สภาพอาคาร
ตึกแถว 3 ชั้นริมถนน ... ห้องไม่ติดมุม
เหนือห้องนอนเป็นดาดฟ้า ขนาดห้อง 4X4 เมตร สูง 2.80 เมตร ไม่มีฝ้าเพดาน
อุณหภูมิใต้เพดาน 30 เซนติเมตรเท่ากับ 40 องศาเซนเซียส เวลา 18.00 น.
ผมติดที่ระดับ 50 เซนติเมตร จากเพดานถึงขอบแฟนคอยล์ด้านบนครับ
ผู้อาศัยเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี มีโน๊ตบุ๊คส์ 1 เครื่อง หลอดฟูออเรสเซนต์ 36 วัตต์ 1 หลอด
ผมตัดสินใจเลือกแอร์ขนาด 12000 BTU ยี่ห้อ Sharp AH-PR13 เพื่อทำการทดลอง (สบายกระเป๋าด้วย)
ผลที่ได้เป็นดังนี้ครับ ...
หลังจากเปิดแอร์นาน 2 ชั่วโมง วัดอุณหภูมิที่พื้นห้อง ชิดผนังด้านที่ไม่โดนลม กึ่งกลางพื้นที่วัดได้ 29 องศา
ลมเย็นหน้าแฟนคอยล์ 17.5 องศา ลมกลับ 29 องศา
แรงดันต้านต่ำ 60 ปอนด์โดยประมาณ (พอดีมืดเสียก่อนและลืมเก็บข้อมูล)
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ ...
ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับแรงดันมากนักแต่ผมให้ความสำคัญกับอุณหภูมิของท่อน้ำยาทั้งสองมากกว่า
เมื่อเริ่มเดินเครื่องแรงดันจะค่อย ๆ เพิ่มไปจนนิ่งที่ 70 ปอนด์อุณหภูมิท่อส่ง 17 องศา
อุณหภูมิท่อกลับสูงกว่า 20 องศา ... กระแส 4.6 แอมป์ใกล้เคียงเนมเพลทคือ 4.7
ผมทำสิ่งที่ทำเป็นประจำคือ ปล่อยน้ำยาออกแล้วรักษาอุณหภูมิท่อส่งให้ได้ที่ 10 องศา
ผลที่ได้คือ อุณหภูมิท่อกลับลดลงตามส่วน ... ผมทดลองเปลี่ยนค่าแรงดันไปมาสักพักหนึ่ง
ไม่สามารถทำให้ต่ำกว่า 18 องศาได้ สรุปคือ ท่อส่ง 10 องศา ท่อกลับ 18 องศา ลมเย็นหน้าแฟนคอยล์ 17.5 องศา
กระแส 3.8 แอมป์ (ผมประหยัดไฟได้ราว 1 แอมป์) หรือเท่ากับคอมเพรสเซอร์ขนาด 9000 บีทียู
บทสรุปคือ
ถ้าต้องการเย็นฉ่ำ ต้องจ่ายแพงเลือกแอร์ให้ใหญ่ขึ้น
ช่างที่รับติดตั้ง ต้องใส่ค่าความร้อนให้เหมาะสม อย่ากลัวว่าลูกค้าจะไม่ติด (คงมีบ้าง ถ้าเจอลูกค้าประหยัด)
ปรับน้ำยาดี ๆ หาจุดที่เหมาะสมระหว่างแรงดันและอุณหภูมิที่ได้ ไม่ควรวัดเฉพาะแรงดันน้ำยาตามที่บอกต่อกันมา ...
ผลที่ได้คือลูกค้าประหยัดไฟครับ
ทำไมผมถึงเลือก 12000 บีทียู แทนที่จะเป็น 16000 หรือ 18000 จะได้เย็นฉ่ำ ๆ
คำตอบคือ ... ผมต้องการประหยัดครับ ค่าไฟบ้านผมเดือนที่แล้ว 2500 บาท
และผมรู้สึกว่าที่อุณหภูมิห้อง 30 องศาเทียบกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ... ผมพอใจ
ผมสามารถตั้งให้แอร์หยุดทำงานที่ 30 องศาได้ เหงื่อไม่ออก ไม่ต้องห่มผ้า
หวังว่าคงได้แนวทางทั้งเจ้าของบ้านในการเลือกแอร์ และช่างที่จะได้นำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้า
จะได้ไม่ต้องหมองใจกันว่า ติดแอร์แล้วทำไมไม่เย็น แอร์กินไฟเกินไปหรือเปล่า ขนาดแอร์เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมหรือไม่
ท่านใดมีข้อมูลเด็ด ๆ ก็ขอเชิญนะครับ
ตัวเลขต่าง ๆ ผมถ้าเป็น 0.2 ผมปัดทิ้ง ถ้าเกิน 0.8 ผมปัดขึ้น ... 0.5 อ่านตรงไปตรงมา
ผมวัดกระแสด้วยคลิปแอมป์แบบอนาลอก สามารถอ่านละเอียดได้ 200 มิลลิแอมป์
เทอร์โมมิเตอร์แบบมีสายวัดต่อพ่วง 2 ตัววัดพร้อมกันครับ ...
ล่าสุดเมื่อ 20.50 คอมเพรสเซอร์ตัดการทำงานทุก ๆ 10 - 12 นาที ความชื้นสัมพัทธ์ 48 เปอร์เซนต์ ...
อากาศไม่แห้งมาก แต่เหงื่อก็ไม่ออก ...
ล่าสุดเมื่อ 21.20 คอมเพรสเซอร์ทำงาน 4 นาที ตัดการทำงาน 4 นาทีเช่นกัน
ความชื้นสัมพัทธ์ 48 เปอร์เซนต์ครับ ... แสดงว่า ความร้อนสะสมจากเพดานเริ่มลดลง
กรณีศึกษาสำหรับผู้ที่จะติดตั้งแอร์ในหน้าร้อนนี้ ...
- เผยแพร่ข้อมูลจากสภาพการใช้งานจริง
- แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนสมาชิกที่สนใจ
สภาพอาคาร
ตึกแถว 3 ชั้นริมถนน ... ห้องไม่ติดมุม
เหนือห้องนอนเป็นดาดฟ้า ขนาดห้อง 4X4 เมตร สูง 2.80 เมตร ไม่มีฝ้าเพดาน
อุณหภูมิใต้เพดาน 30 เซนติเมตรเท่ากับ 40 องศาเซนเซียส เวลา 18.00 น.
ผมติดที่ระดับ 50 เซนติเมตร จากเพดานถึงขอบแฟนคอยล์ด้านบนครับ
ผู้อาศัยเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี มีโน๊ตบุ๊คส์ 1 เครื่อง หลอดฟูออเรสเซนต์ 36 วัตต์ 1 หลอด
ผมตัดสินใจเลือกแอร์ขนาด 12000 BTU ยี่ห้อ Sharp AH-PR13 เพื่อทำการทดลอง (สบายกระเป๋าด้วย)
ผลที่ได้เป็นดังนี้ครับ ...
หลังจากเปิดแอร์นาน 2 ชั่วโมง วัดอุณหภูมิที่พื้นห้อง ชิดผนังด้านที่ไม่โดนลม กึ่งกลางพื้นที่วัดได้ 29 องศา
ลมเย็นหน้าแฟนคอยล์ 17.5 องศา ลมกลับ 29 องศา
แรงดันต้านต่ำ 60 ปอนด์โดยประมาณ (พอดีมืดเสียก่อนและลืมเก็บข้อมูล)
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ ...
ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับแรงดันมากนักแต่ผมให้ความสำคัญกับอุณหภูมิของท่อน้ำยาทั้งสองมากกว่า
เมื่อเริ่มเดินเครื่องแรงดันจะค่อย ๆ เพิ่มไปจนนิ่งที่ 70 ปอนด์อุณหภูมิท่อส่ง 17 องศา
อุณหภูมิท่อกลับสูงกว่า 20 องศา ... กระแส 4.6 แอมป์ใกล้เคียงเนมเพลทคือ 4.7
ผมทำสิ่งที่ทำเป็นประจำคือ ปล่อยน้ำยาออกแล้วรักษาอุณหภูมิท่อส่งให้ได้ที่ 10 องศา
ผลที่ได้คือ อุณหภูมิท่อกลับลดลงตามส่วน ... ผมทดลองเปลี่ยนค่าแรงดันไปมาสักพักหนึ่ง
ไม่สามารถทำให้ต่ำกว่า 18 องศาได้ สรุปคือ ท่อส่ง 10 องศา ท่อกลับ 18 องศา ลมเย็นหน้าแฟนคอยล์ 17.5 องศา
กระแส 3.8 แอมป์ (ผมประหยัดไฟได้ราว 1 แอมป์) หรือเท่ากับคอมเพรสเซอร์ขนาด 9000 บีทียู
บทสรุปคือ
ถ้าต้องการเย็นฉ่ำ ต้องจ่ายแพงเลือกแอร์ให้ใหญ่ขึ้น
ช่างที่รับติดตั้ง ต้องใส่ค่าความร้อนให้เหมาะสม อย่ากลัวว่าลูกค้าจะไม่ติด (คงมีบ้าง ถ้าเจอลูกค้าประหยัด)
ปรับน้ำยาดี ๆ หาจุดที่เหมาะสมระหว่างแรงดันและอุณหภูมิที่ได้ ไม่ควรวัดเฉพาะแรงดันน้ำยาตามที่บอกต่อกันมา ...
ผลที่ได้คือลูกค้าประหยัดไฟครับ
ทำไมผมถึงเลือก 12000 บีทียู แทนที่จะเป็น 16000 หรือ 18000 จะได้เย็นฉ่ำ ๆ
คำตอบคือ ... ผมต้องการประหยัดครับ ค่าไฟบ้านผมเดือนที่แล้ว 2500 บาท
และผมรู้สึกว่าที่อุณหภูมิห้อง 30 องศาเทียบกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ... ผมพอใจ
ผมสามารถตั้งให้แอร์หยุดทำงานที่ 30 องศาได้ เหงื่อไม่ออก ไม่ต้องห่มผ้า
หวังว่าคงได้แนวทางทั้งเจ้าของบ้านในการเลือกแอร์ และช่างที่จะได้นำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้า
จะได้ไม่ต้องหมองใจกันว่า ติดแอร์แล้วทำไมไม่เย็น แอร์กินไฟเกินไปหรือเปล่า ขนาดแอร์เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมหรือไม่
ท่านใดมีข้อมูลเด็ด ๆ ก็ขอเชิญนะครับ
ตัวเลขต่าง ๆ ผมถ้าเป็น 0.2 ผมปัดทิ้ง ถ้าเกิน 0.8 ผมปัดขึ้น ... 0.5 อ่านตรงไปตรงมา
ผมวัดกระแสด้วยคลิปแอมป์แบบอนาลอก สามารถอ่านละเอียดได้ 200 มิลลิแอมป์
เทอร์โมมิเตอร์แบบมีสายวัดต่อพ่วง 2 ตัววัดพร้อมกันครับ ...
ล่าสุดเมื่อ 20.50 คอมเพรสเซอร์ตัดการทำงานทุก ๆ 10 - 12 นาที ความชื้นสัมพัทธ์ 48 เปอร์เซนต์ ...
อากาศไม่แห้งมาก แต่เหงื่อก็ไม่ออก ...
ล่าสุดเมื่อ 21.20 คอมเพรสเซอร์ทำงาน 4 นาที ตัดการทำงาน 4 นาทีเช่นกัน
ความชื้นสัมพัทธ์ 48 เปอร์เซนต์ครับ ... แสดงว่า ความร้อนสะสมจากเพดานเริ่มลดลง