จริงๆถ้าพูดถึงการเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เรามักจะคิดถึงการสอบแข่งขันทั้ง GAT PAT GPA ONET สอบตรงตลอดทั้งปี แต่น้อยคนที่จะรู้ว่ายังมีวิธีที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยไม่ต้องสอบใดๆหรือไม่ต้องใช้เกรดเลย
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตอนเรียนมัธยมผมเองเป็นเด็กกิจกรรมจ๋ามากๆ เพราะค้นพบตัวเองตั้งแต่อยู่ ม.ต้น ทำให้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ จนลืมการเรียนไป เกรดตอนจบ ม.6 ของผมแค่ 2.19 เท่านั้นเองแน่นอนไม่ต้องพูดถึงการสอบ onet pat เลยว่าคะแนนจะเน่าขนาดไหน เพราะไม่ได้สนใจการเรียนเลย
ซึ่งรู้กันดีกว่าเกรดแค่นี่จะโดนตัดสิทธิ์อะไรต่างๆมากมาย รวมถึงการสอบตรงส่วนใหญ่ด้วย
หลังจากพยายามดิ้นรนพยายามให้ตัวเองได้ที่เรียน ในที่สุดก็ได้เจอกับช่องทางที่เปิดรับคนอย่างผม (และเพื่อนๆ)
นั่นก็คือโควต้า Active Recruitment ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ. KMUTT ม.บางมด)
มารู้จักกับโควต้า Active Recruitment
โควต้าแบบ Active Recruitment นั้นเป็นโควต้าที่เปิดโอกาสให้ภาควิชาของ มจธ. รับนักศึกษาเข้าตามความต้องการของภาควิชา ซึ่งเป็นโควต้าที่เปิดกว้างให้กับเด็กทุกคนโดยไม่มีระเบียบกลางมากำหนด พูดง่ายๆว่าถ้าเราเป็นที่ต้องการของภาควิชา ภาควิชาก็จะสามารถรับเข้าเรียนได้เลย โดนไม่ต้องผ่านการสอบ หรือมีการกำหนดเกรดขั้นต่ำ
และสามารถยื่นขอรับการพิจารณาได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องรอให้มีประกาศของมหาวิทยาลัย
เป็นคนอย่างไรถึงจะมีสิทธิ์ผ่านการคัดเลือกด้วย Active Recruitment
แน่นอนว่า Active Recruitment ไม่ได้มีระเบียบตายตัวครับ แล้วนี่แหละคือข้อดีที่เราสามารถที่จะแสดงตัวตนให้กับคณะกรรมการเห็นว่าเรามีความเหมาะสมจะเข้าไปเรียนในคณะของเค้า
อ้ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเราเองไม่มีอะไรดีครับ เด็กคนอื่นที่ยื่นโควต้านี้ก็ไม่ได้ห่างอะไรกับเรามากนักหรอกดีไม่ดีเราจะมีดีกว่าเค้าซะอีก ไม่เชื่อลองหันมองเพื่อนในห้องรอบตัวดูก็ได้ครับ
1.ต้องมีความสนใจและชัดเจนในคณะที่สมัคร นั่นคือมีหลักฐานว่าเราเคยทำกิจกรรม เคยทำโครงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมัครเข้าคณะวิศวกรรมไฟฟ้า ก็อาจจะต้องมีพอทฟอลิโอ้ว่าเราเคยแข่งขันทำโครงงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้า งานอดิเรกที่เกี่ยวข้อง เช่นเคยทำกังหันลมผลิตไฟฟ้า เคยช่วยพ่อเดินสายไฟเป็นต้น
ซึ่งโควต้านี้ ส่วนนี้จะเป็นมากๆครับ ว่า
ต้องชัดเจนและโดดเด่น ลองนึกภาพว่าเราขายขนมหม้อแกงพื้นบ้าน ไม่มี อย. ไม่มีเชลชวนชิมเหมือนคนอื่นเค้า งั้นขนมเราต้องอร่อย ต้องเน้น ต้องนำเสนอถึงความอร่อยของขนมของเราให้ได้ โควต้าอื่นๆจะดูขนมที่ อย. โควต้า Active Recruitment จะดูที่รสชาติครับ
2.ต้องมีหลักฐานว่าเราเรียนคณะของเค้าไหว แน่นอนมีประสบการณ์ มีความตั้งใจความสนใจแล้ว ก็ยังไม่พอ กรรมการจะดูด้วยว่าเราเข้ามาแล้วจะโดนไทล์มั้ย ซึ่งเด็กลักษณะนี้มีโอกาสสูงจนเป็นที่เพ่งเล็กอันดับต้นๆเลยครับ
ถ้าเกรด 3.5 ขึ้นอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้า 2 ประปริดกระปรอยแบบผมหล่ะ? ก็ไม่ต้องห่วงครับ อย่าลืมว่าโควต้านี้มันฟรีสไตย์ เราสามารถพลิกแพลงให้กรรมการเชื่อได้ว่าเราเรียนไหว
ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานตอนมัธยมไม่ได้ส่งผลกับตอนเรียนมหาลัยมากมายอะไรนักครับ เหมือนมาเรียนใหม่หมดอีกรอบแน่หนักกว่าเดิม ฉนั้นเราสามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ผมแนะนำว่าให้ศึกษาวิชาที่เราต้องเรียนตอนเทอม 1 ปี 1 ให้ดี ติวเฉพาะวิชาไปเลยโดยใช้เครื่องคิดเลขช่วยได้ครับ มีเนื้อหาไม่มากใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็เข้าใจภาพรวมได้หมดแล้ว และหาวิธีแสดงการเตรียมตัวของเรานั้นให้กรรมการดูให้ได้ เช่น หาข้อสอบมาทำ และแสดงคะแนนต่อคณะกรรมการว่าเราไม่ได้ด้อยเลย หรือ ให้คณะกรรมการสร้างโจทย์มาวัดภูมิเราก็ได้ครับ
ทำอย่างไรก็ได้ให้เค้าเชื่อว่าเราเรียนไหว แต่อย่าใช้คำพูด ต้องปฏิบัติให้เห็น
มาลุยกันเลย
หลังจากรวบรวมผลงานและความพร้อมต่างๆแล้ว ลุยเลยครับ
1.ค้นหาคณะของเราให้เจอ และเข้าไปศึกษาแผนการสอนอย่างละเอียดให้มากที่สุด เข้าไปดูที่นี่ครับ
http://www2.kmutt.ac.th/thai/pro_ungrd/index.html
2.รวบรวมผลงานของเราที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปของเราขณะกำลังต่อวงจร กำลังประกอบเครื่องจักร รูปตอนไปแข่งขัน ไปดูงาน ของที่เราประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับภาควิชานั้นๆ รางวัล เกียติบัตร เอามาให้หมด เอามาเป็นรูปเป็นหลักฐานให้ชัดเจนนะครับ ประกอบคำบรรยายให้ดี ให้เค้ารู้ว่าเราสนใจภาควิชาเค้านะ
3.หลักฐานอะไรก็ได้ที่บ่งบอกว่าเราเรียนคณะเค้าได้สบายมาก
หลังจากนั้นเอามาทำเป็นฟอทฟอริโอ้ให้ดีครับ
เสร็จแล้วเตรียมเอกสารดังนี้ 1.หลักฐานการจบการศึกษาจาก ม.6 2.เอกสารแนะนำตัว ระบุความจำนงให้ชัดเจนว่าอยากขอรับพิจารณา Active Recruitment 3.เอกสารรวบรวมผลงานของเรา
โดยใส่เบอร์โทรติดต่อกลับให้เรียบร้อยครับ และส่งไปเมื่อไรก็ได้ไม่ต้องรอมหาวิทยาลัยประกาศ
รวบรวมเอกสารได้แบบนี้แล้วส่งไปยังที่อยู่แบบนี้ครับ
ชื่อภาควิชาที่เราต้องการสมัคร(โครงการ Active Recruitment )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140
หลังจากนั้นก็รอครับ.......................
ค่อนข้างแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยจะไม่คัดเราออกในขั้นตอนนี้(ถ้าพอทเราไม่เน่าจริงๆ) และมักจะเรียกเราสัมภาษณ์แน่นอนฉนั้นเตรียมตัวให้ดีครับ
เวลาอาจจะล่วงเลยไปประมาณ 1 เดือนมหาวิทยาลัยจะเรียกเราสัมภาษณ์
สัมภาษณ์
พอได้จังหวะมหาลัยจะเรียกเราไปสัมภาษณ์ครับ ตอนนี้แหละเป็นตัวชี้วัดเลยว่าเราจะติดหรือไม่ติด ต้องสู้กรรมการให้ได้ครับ อย่าไปกลัวกรรมการ ให้คิดซะว่ากรรมการก็เหมือนเพื่อนเราคนนึง มาพูดคุยถึงตัวเรา เราต้องแสดงความสนใจของเราให้ได้มากที่สุดว่าเราโดดเด่น และเราเรียนคณะนี้ได้สบายมาก
ถ้าเราทำทุกอย่างได้ดีพอ ทางมหาวิทยาลัยจะติดต่อเรามาทางโทรศัพท์ และเอกสารแบบนี้ครับ
ตัวผมเองเข้า มจธ. ด้วยโควต้านี้แล้วถึง 2 ครั้ง (ซิ่ว) ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ เพราะมีเด็กกลุ่มที่มีผลงานในประเทศไทยน้อยมากๆ จำได้ไว้เลยว่าคู่แข่งเรามีแค่หลักร้อยคนเท่านั้น แล้วเราจะทำยังไงก็ได้ให้เค้ารับได้ ฟรีสไตย์ ทำให้เรามีโอากาสสู้ได้หลายท่าครับ
เวลาเหลือน้อยมากแล้ว อาจจะไม่ถึงเดือน รีบยื่นกันคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ถ้าเห็นว่าโพสนี้มีประโยชน์อย่าลืมโหวตนะครับ จะได้อ่านกันเยอะๆ
มาเข้ามหาลัยแบบไม่ต้องสอบไม่ต้องใช้เกรดกันเถอะ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตอนเรียนมัธยมผมเองเป็นเด็กกิจกรรมจ๋ามากๆ เพราะค้นพบตัวเองตั้งแต่อยู่ ม.ต้น ทำให้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ จนลืมการเรียนไป เกรดตอนจบ ม.6 ของผมแค่ 2.19 เท่านั้นเองแน่นอนไม่ต้องพูดถึงการสอบ onet pat เลยว่าคะแนนจะเน่าขนาดไหน เพราะไม่ได้สนใจการเรียนเลย
ซึ่งรู้กันดีกว่าเกรดแค่นี่จะโดนตัดสิทธิ์อะไรต่างๆมากมาย รวมถึงการสอบตรงส่วนใหญ่ด้วย
หลังจากพยายามดิ้นรนพยายามให้ตัวเองได้ที่เรียน ในที่สุดก็ได้เจอกับช่องทางที่เปิดรับคนอย่างผม (และเพื่อนๆ) นั่นก็คือโควต้า Active Recruitment ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ. KMUTT ม.บางมด)
มารู้จักกับโควต้า Active Recruitment
โควต้าแบบ Active Recruitment นั้นเป็นโควต้าที่เปิดโอกาสให้ภาควิชาของ มจธ. รับนักศึกษาเข้าตามความต้องการของภาควิชา ซึ่งเป็นโควต้าที่เปิดกว้างให้กับเด็กทุกคนโดยไม่มีระเบียบกลางมากำหนด พูดง่ายๆว่าถ้าเราเป็นที่ต้องการของภาควิชา ภาควิชาก็จะสามารถรับเข้าเรียนได้เลย โดนไม่ต้องผ่านการสอบ หรือมีการกำหนดเกรดขั้นต่ำ
และสามารถยื่นขอรับการพิจารณาได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องรอให้มีประกาศของมหาวิทยาลัย
เป็นคนอย่างไรถึงจะมีสิทธิ์ผ่านการคัดเลือกด้วย Active Recruitment
แน่นอนว่า Active Recruitment ไม่ได้มีระเบียบตายตัวครับ แล้วนี่แหละคือข้อดีที่เราสามารถที่จะแสดงตัวตนให้กับคณะกรรมการเห็นว่าเรามีความเหมาะสมจะเข้าไปเรียนในคณะของเค้า
อ้ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเราเองไม่มีอะไรดีครับ เด็กคนอื่นที่ยื่นโควต้านี้ก็ไม่ได้ห่างอะไรกับเรามากนักหรอกดีไม่ดีเราจะมีดีกว่าเค้าซะอีก ไม่เชื่อลองหันมองเพื่อนในห้องรอบตัวดูก็ได้ครับ
1.ต้องมีความสนใจและชัดเจนในคณะที่สมัคร นั่นคือมีหลักฐานว่าเราเคยทำกิจกรรม เคยทำโครงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมัครเข้าคณะวิศวกรรมไฟฟ้า ก็อาจจะต้องมีพอทฟอลิโอ้ว่าเราเคยแข่งขันทำโครงงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้า งานอดิเรกที่เกี่ยวข้อง เช่นเคยทำกังหันลมผลิตไฟฟ้า เคยช่วยพ่อเดินสายไฟเป็นต้น
ซึ่งโควต้านี้ ส่วนนี้จะเป็นมากๆครับ ว่าต้องชัดเจนและโดดเด่น ลองนึกภาพว่าเราขายขนมหม้อแกงพื้นบ้าน ไม่มี อย. ไม่มีเชลชวนชิมเหมือนคนอื่นเค้า งั้นขนมเราต้องอร่อย ต้องเน้น ต้องนำเสนอถึงความอร่อยของขนมของเราให้ได้ โควต้าอื่นๆจะดูขนมที่ อย. โควต้า Active Recruitment จะดูที่รสชาติครับ
2.ต้องมีหลักฐานว่าเราเรียนคณะของเค้าไหว แน่นอนมีประสบการณ์ มีความตั้งใจความสนใจแล้ว ก็ยังไม่พอ กรรมการจะดูด้วยว่าเราเข้ามาแล้วจะโดนไทล์มั้ย ซึ่งเด็กลักษณะนี้มีโอกาสสูงจนเป็นที่เพ่งเล็กอันดับต้นๆเลยครับ
ถ้าเกรด 3.5 ขึ้นอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้า 2 ประปริดกระปรอยแบบผมหล่ะ? ก็ไม่ต้องห่วงครับ อย่าลืมว่าโควต้านี้มันฟรีสไตย์ เราสามารถพลิกแพลงให้กรรมการเชื่อได้ว่าเราเรียนไหว
ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานตอนมัธยมไม่ได้ส่งผลกับตอนเรียนมหาลัยมากมายอะไรนักครับ เหมือนมาเรียนใหม่หมดอีกรอบแน่หนักกว่าเดิม ฉนั้นเราสามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ผมแนะนำว่าให้ศึกษาวิชาที่เราต้องเรียนตอนเทอม 1 ปี 1 ให้ดี ติวเฉพาะวิชาไปเลยโดยใช้เครื่องคิดเลขช่วยได้ครับ มีเนื้อหาไม่มากใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็เข้าใจภาพรวมได้หมดแล้ว และหาวิธีแสดงการเตรียมตัวของเรานั้นให้กรรมการดูให้ได้ เช่น หาข้อสอบมาทำ และแสดงคะแนนต่อคณะกรรมการว่าเราไม่ได้ด้อยเลย หรือ ให้คณะกรรมการสร้างโจทย์มาวัดภูมิเราก็ได้ครับ
ทำอย่างไรก็ได้ให้เค้าเชื่อว่าเราเรียนไหว แต่อย่าใช้คำพูด ต้องปฏิบัติให้เห็น
มาลุยกันเลย
หลังจากรวบรวมผลงานและความพร้อมต่างๆแล้ว ลุยเลยครับ
1.ค้นหาคณะของเราให้เจอ และเข้าไปศึกษาแผนการสอนอย่างละเอียดให้มากที่สุด เข้าไปดูที่นี่ครับ http://www2.kmutt.ac.th/thai/pro_ungrd/index.html
2.รวบรวมผลงานของเราที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปของเราขณะกำลังต่อวงจร กำลังประกอบเครื่องจักร รูปตอนไปแข่งขัน ไปดูงาน ของที่เราประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับภาควิชานั้นๆ รางวัล เกียติบัตร เอามาให้หมด เอามาเป็นรูปเป็นหลักฐานให้ชัดเจนนะครับ ประกอบคำบรรยายให้ดี ให้เค้ารู้ว่าเราสนใจภาควิชาเค้านะ
3.หลักฐานอะไรก็ได้ที่บ่งบอกว่าเราเรียนคณะเค้าได้สบายมาก
หลังจากนั้นเอามาทำเป็นฟอทฟอริโอ้ให้ดีครับ
เสร็จแล้วเตรียมเอกสารดังนี้ 1.หลักฐานการจบการศึกษาจาก ม.6 2.เอกสารแนะนำตัว ระบุความจำนงให้ชัดเจนว่าอยากขอรับพิจารณา Active Recruitment 3.เอกสารรวบรวมผลงานของเรา
โดยใส่เบอร์โทรติดต่อกลับให้เรียบร้อยครับ และส่งไปเมื่อไรก็ได้ไม่ต้องรอมหาวิทยาลัยประกาศ
รวบรวมเอกสารได้แบบนี้แล้วส่งไปยังที่อยู่แบบนี้ครับ
ชื่อภาควิชาที่เราต้องการสมัคร(โครงการ Active Recruitment )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140
หลังจากนั้นก็รอครับ.......................
ค่อนข้างแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยจะไม่คัดเราออกในขั้นตอนนี้(ถ้าพอทเราไม่เน่าจริงๆ) และมักจะเรียกเราสัมภาษณ์แน่นอนฉนั้นเตรียมตัวให้ดีครับ
เวลาอาจจะล่วงเลยไปประมาณ 1 เดือนมหาวิทยาลัยจะเรียกเราสัมภาษณ์
สัมภาษณ์
พอได้จังหวะมหาลัยจะเรียกเราไปสัมภาษณ์ครับ ตอนนี้แหละเป็นตัวชี้วัดเลยว่าเราจะติดหรือไม่ติด ต้องสู้กรรมการให้ได้ครับ อย่าไปกลัวกรรมการ ให้คิดซะว่ากรรมการก็เหมือนเพื่อนเราคนนึง มาพูดคุยถึงตัวเรา เราต้องแสดงความสนใจของเราให้ได้มากที่สุดว่าเราโดดเด่น และเราเรียนคณะนี้ได้สบายมาก
ถ้าเราทำทุกอย่างได้ดีพอ ทางมหาวิทยาลัยจะติดต่อเรามาทางโทรศัพท์ และเอกสารแบบนี้ครับ
ตัวผมเองเข้า มจธ. ด้วยโควต้านี้แล้วถึง 2 ครั้ง (ซิ่ว) ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ เพราะมีเด็กกลุ่มที่มีผลงานในประเทศไทยน้อยมากๆ จำได้ไว้เลยว่าคู่แข่งเรามีแค่หลักร้อยคนเท่านั้น แล้วเราจะทำยังไงก็ได้ให้เค้ารับได้ ฟรีสไตย์ ทำให้เรามีโอากาสสู้ได้หลายท่าครับ
เวลาเหลือน้อยมากแล้ว อาจจะไม่ถึงเดือน รีบยื่นกันคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ถ้าเห็นว่าโพสนี้มีประโยชน์อย่าลืมโหวตนะครับ จะได้อ่านกันเยอะๆ