ดิฉันได้เริ่มต้นจัดฟันที่คลีนิค แถวเขต Kelapa Garding. Jakarta Indonesia คลีนิคอยู่ในห้างใหญ่ในเขตนี้ และใส่เครื่องมือไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ตั้งแต่ติดเครื่องมือมาจากวันที่ 2 เม.ย เครื่องมือตัว Bracket หลุดแล้ว 4 ครั้ง ทั้งที่พยายามกินแต่โจ๊ก ครั้งล่าสุดมันหลุด จนลวดแทงเหงือก ดิฉันทนไม่ไหว ไปหาหมอ หมอก็ติดให้แล้วคิดค่าติดคืน 55,000 IRD กลับมาบ้านนอนคิด ชักมะไหวละ แค่ติดเครื่องมือเดี๋ยวหลุด เกิดมันหลุดลงคอ ตอนนอนหลับทำไง เพราะมันเคยหลุดแต่เช้าตรู่สงสัยนอนกรน กระทบมันแรงไปหน่อยมันก็หลุด และก็คิดไปอีกหลาย ตั้งแต่ไปหาหมอ บางทีหมอกะผู้ช่วยก็ซุ่มซ่าม ทำเครื่องมือหล่น บางครั้งผู้ช่วยคุยกะหมอเพลิน ไอ้ที่ดูดน้ำลายกะที่พ่นน้ำก็กระเซ็นมาถูกหน้าบ้าง ซึ่งไม่มีหน้ากากปิดให้ผู้ป่วย หรือไม่มีเครื่องมือง้างปาก ต้องอ้าปากกว้างๆเอง จนเมื่อย จนมาที่สำคัญล่าสุด ตัวเครื่องมือที่หมอเอามาใส่ปาก. ฉันรู้สึกว่ามันเหมือนกลิ่นสาปๆเหมือนแมลงสาป
คิดไปเยอะแยะ ถามอากู๋ ค้นรายชื่อหมอจัดฟันในอินโดนีเซีย เอาแค่เขต Kelapa Garding ไม่มีชื่อหมอ มีแต่จบทางด้านทันตแพทย์มา แต่ไม่ได้เป็นหมอจัดฟัน ส่วนหมอที่จัดฟัน เป็นเจ้าของคลีนิคที่หมอทำงานด้วย เอางัยละ จ่ายเงินไปแล้ว 4,000,000 IRD คิดเป็นเงินไทย 11,200 บาท อยากเปลี่ยนหมอละ ดิฉันก็ดูรายชื่อหมอจัดฟันใหม่ และไปติดต่อว่า ดิฉันพึ่งจัดฟันใส่เครื่องมือได้เดือนเดียว ถ้าดิฉันจะเปลี่ยนมาจัดฟันที่นี้ได้มั๊ย หมอจัดฟันที่คลีนิคใหม่ บอกได้ แต่จะต้องเริ่มขั้นตอนใหม่หมด เพราะเทคนิควิธีการ รวมทั้งบางเครื่องมืออาจต่างกัน หมอบอกว่า คุณก็แค่กลับไปขอแผ่น X-Ray ฟัน และก็พิมพ์ปากของคุณมา บอกเหตุผลร้อยแปดไปว่าทำไมอยากย้าย (ฟังแล้วง่ายอยู่นะ) และก็ชอบคลีนิคใหม่แล้วสิ ยังงัยต้องมาทำคลีนิคนี้แน่ๆๆ ที่คลีนิคใหม่เป็นตึก 3 ชั้น มีลิฟท์ให้ผู้มาใช้บริการ มีห้องรับรองลูกค้า มีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มบริการเอง ส่วนชาร้อน กาแฟร้อน พร้อมคุ๊กกี๊ จะมี จนท.มาถามรับอะไรดีคะ บนตึก มีห้องแล็บ,ห้องX-Ray 3 D, ห้องฆ่าเชื้อ, แยกเป็นสัดส่วน ห้องทำฟันต่างๆแยกชัดเจน ชั้น 2 มีห้องดูแลฟันเด็กเด็ก. จนท.พาดิฉันและลูกไปส่งที่ห้องเด็ก จากนั้นมาที่ห้องจัดฟันของฉัน ข้างในห้อง มีโต๊ะนั่งรับรอง มีทีวี, มีของจัดไว้เป็นสัดส่วนสะอาด มีเพลงฟังสบาย จนท.หยิบผ้ากันเปื้อนมาคล้องคอให้ พร้อมทั้งหน้ากากกันเปื้อน ประวัติคุณหมอ Phd. จากประเทศญี่ปุ่นทางจัดฟันโดยตรง อย่างงี้ไม่ให้เปลี่ยนคลีนิคได้งัย
กลับมาที่คลีนิค วันนี้ดิฉันไปขอแผ่นX-Ray, แบบพิมพ์ปากฉัน คุณหมอ(เป็นผู้หญิง) ท่าทางไม่พอใจ ซึ่งดิฉันไปกะเพื่อนชาวอินโดนีเซีย ซึ่งคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ดิฉันก็บอกเหตุผลไปว่า ดิฉันคิดว่าคลีนิคใหม่มีความสะดวกกับครอบครัวฉัน เพราะคุณหมอก็รู้เวลามาหาคุณหมอที่ ลูกและสามีต้องออกไปยืนรอหรือเดินเล่นรอบห้าง ไม่มีที่นั่งอันนี้แบบตรงๆที่รู้สึกอย่างหนึ่ง (แต่ไม่บอกหรอกว่าคุณหมอทำเครื่องมือตกบ่อย,เครื่องมือคุณหมอมีกลิ่นแมลงสาป,แอบมองถาดใส่เครื่องมือคุณหมอมีคราบอะไรมะรุ้เขรอะเลย บลาๆๆๆๆ) นะๆคุณหมอคะขาสุดฤทธิ์อ้อนวอนขอย้าย คุณหมอบอกย้ายได้ แต่คุณต้องจ่าย 4ล้านIRD เป็นเงินไทย 11,200 บาท. เพื่ออะไรคะ? ทั้งที่จ่ายไปแล้ว 4ล้านรูเปียครั้งที่แล้ว แหกปากเสียงหลง Apa? แล้วถามว่าถ้าฉันจ่าย 4 ล้านรูเปียอีก ฉันได้อะไร หมอบอกไม่ได้อะไร เพราะจัดฟันให้คุณแล้ว เครื่องมืออยู่ที่ปากคุณ
แผ่น X-Ray, พิมพ์ปาก เป็นสมบัติของคลีนิค. เมื่อไม่ได้อะไร ดิฉันก็บอกดิฉันไม่จ่ายหรอกคะ คุณหมอ. มันไม่แฟร์นะคะ คุณหมอพึ่งใส่เครื่องมือให้เดือนเดียว ไปหาคุณหมอเครื่องมือหลุดก็จ่ายทุกครั้ง มันไม่แฟร์ หมอบอกเป็นกฎของประเทศนี้ เพื่อนอินโดก็เสียงอ๋อยๆเหมือนเข้าข้างหมอละ แต่ดิฉันก็ยืนยันไม่จ่ายคะ ไม่จ่าย ถ้าจะให้ดิฉันจ่าย เดี๋ยวดิฉันไปหาคนที่เข้าใจภาษาอังกฤษและก็ภาษาอินโดนีเซีย รวมทั้งเข้าใจกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ว่าดิฉันสมควรจ่ายหรือเปล่า มาคุยกะคุณหมอ จากนั้นดิฉันก็เดินออกมา กลับมาถึงบ้านยังคิดๆอยู่เราแรงเกินไปหรือเปล่า แต่ที่เล่ามาทั้งหมดคุณคิดว่าดิฉันสมควรกลับไปจ่ายเงินมั๊ยคะ หรือว่าเราอยู่ประเทศเค้าเราต้องยอมๆ ถึงแม้บางครั้งเรารู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบ ต้องยอมหรือเปล่าคะ
ตอนแรกว่าจะไม่บ่น. แต่ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า กังวลนะเนี้ย เกิดไปเดินห้างแล้วต้องไปเจอกะหมอ แล้วมองหน้ากันไม่ติด ที่สำคัญครั้งแรกที่ไปหาหมอ ก็ไม่มีอะ แบบแผนสัญญาขั้นตอนรักษา เช่น ระยะเวลารักษา, ค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา การชำระค่ารักษาแบ่งจ่ายอย่างไร มีแต่กรอกประวัติ เบอร์โทร, ที่อยู่, ชื่อ. ซึ่งมันต่างกะคลีนิคใหม่มาก บอกทุกขั้นตอนทำให้มั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดการรักษาผลจะออกเป็นอย่างไร แล้วยังงี้เราไม่รู้สึกปลอดภัยในการรักษา เราไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนหรืออย่างไรคะ
เราชาวต่างชาติ ต้องยอมเค้าใช่มั๊ย
คิดไปเยอะแยะ ถามอากู๋ ค้นรายชื่อหมอจัดฟันในอินโดนีเซีย เอาแค่เขต Kelapa Garding ไม่มีชื่อหมอ มีแต่จบทางด้านทันตแพทย์มา แต่ไม่ได้เป็นหมอจัดฟัน ส่วนหมอที่จัดฟัน เป็นเจ้าของคลีนิคที่หมอทำงานด้วย เอางัยละ จ่ายเงินไปแล้ว 4,000,000 IRD คิดเป็นเงินไทย 11,200 บาท อยากเปลี่ยนหมอละ ดิฉันก็ดูรายชื่อหมอจัดฟันใหม่ และไปติดต่อว่า ดิฉันพึ่งจัดฟันใส่เครื่องมือได้เดือนเดียว ถ้าดิฉันจะเปลี่ยนมาจัดฟันที่นี้ได้มั๊ย หมอจัดฟันที่คลีนิคใหม่ บอกได้ แต่จะต้องเริ่มขั้นตอนใหม่หมด เพราะเทคนิควิธีการ รวมทั้งบางเครื่องมืออาจต่างกัน หมอบอกว่า คุณก็แค่กลับไปขอแผ่น X-Ray ฟัน และก็พิมพ์ปากของคุณมา บอกเหตุผลร้อยแปดไปว่าทำไมอยากย้าย (ฟังแล้วง่ายอยู่นะ) และก็ชอบคลีนิคใหม่แล้วสิ ยังงัยต้องมาทำคลีนิคนี้แน่ๆๆ ที่คลีนิคใหม่เป็นตึก 3 ชั้น มีลิฟท์ให้ผู้มาใช้บริการ มีห้องรับรองลูกค้า มีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มบริการเอง ส่วนชาร้อน กาแฟร้อน พร้อมคุ๊กกี๊ จะมี จนท.มาถามรับอะไรดีคะ บนตึก มีห้องแล็บ,ห้องX-Ray 3 D, ห้องฆ่าเชื้อ, แยกเป็นสัดส่วน ห้องทำฟันต่างๆแยกชัดเจน ชั้น 2 มีห้องดูแลฟันเด็กเด็ก. จนท.พาดิฉันและลูกไปส่งที่ห้องเด็ก จากนั้นมาที่ห้องจัดฟันของฉัน ข้างในห้อง มีโต๊ะนั่งรับรอง มีทีวี, มีของจัดไว้เป็นสัดส่วนสะอาด มีเพลงฟังสบาย จนท.หยิบผ้ากันเปื้อนมาคล้องคอให้ พร้อมทั้งหน้ากากกันเปื้อน ประวัติคุณหมอ Phd. จากประเทศญี่ปุ่นทางจัดฟันโดยตรง อย่างงี้ไม่ให้เปลี่ยนคลีนิคได้งัย
กลับมาที่คลีนิค วันนี้ดิฉันไปขอแผ่นX-Ray, แบบพิมพ์ปากฉัน คุณหมอ(เป็นผู้หญิง) ท่าทางไม่พอใจ ซึ่งดิฉันไปกะเพื่อนชาวอินโดนีเซีย ซึ่งคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ดิฉันก็บอกเหตุผลไปว่า ดิฉันคิดว่าคลีนิคใหม่มีความสะดวกกับครอบครัวฉัน เพราะคุณหมอก็รู้เวลามาหาคุณหมอที่ ลูกและสามีต้องออกไปยืนรอหรือเดินเล่นรอบห้าง ไม่มีที่นั่งอันนี้แบบตรงๆที่รู้สึกอย่างหนึ่ง (แต่ไม่บอกหรอกว่าคุณหมอทำเครื่องมือตกบ่อย,เครื่องมือคุณหมอมีกลิ่นแมลงสาป,แอบมองถาดใส่เครื่องมือคุณหมอมีคราบอะไรมะรุ้เขรอะเลย บลาๆๆๆๆ) นะๆคุณหมอคะขาสุดฤทธิ์อ้อนวอนขอย้าย คุณหมอบอกย้ายได้ แต่คุณต้องจ่าย 4ล้านIRD เป็นเงินไทย 11,200 บาท. เพื่ออะไรคะ? ทั้งที่จ่ายไปแล้ว 4ล้านรูเปียครั้งที่แล้ว แหกปากเสียงหลง Apa? แล้วถามว่าถ้าฉันจ่าย 4 ล้านรูเปียอีก ฉันได้อะไร หมอบอกไม่ได้อะไร เพราะจัดฟันให้คุณแล้ว เครื่องมืออยู่ที่ปากคุณ
แผ่น X-Ray, พิมพ์ปาก เป็นสมบัติของคลีนิค. เมื่อไม่ได้อะไร ดิฉันก็บอกดิฉันไม่จ่ายหรอกคะ คุณหมอ. มันไม่แฟร์นะคะ คุณหมอพึ่งใส่เครื่องมือให้เดือนเดียว ไปหาคุณหมอเครื่องมือหลุดก็จ่ายทุกครั้ง มันไม่แฟร์ หมอบอกเป็นกฎของประเทศนี้ เพื่อนอินโดก็เสียงอ๋อยๆเหมือนเข้าข้างหมอละ แต่ดิฉันก็ยืนยันไม่จ่ายคะ ไม่จ่าย ถ้าจะให้ดิฉันจ่าย เดี๋ยวดิฉันไปหาคนที่เข้าใจภาษาอังกฤษและก็ภาษาอินโดนีเซีย รวมทั้งเข้าใจกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ว่าดิฉันสมควรจ่ายหรือเปล่า มาคุยกะคุณหมอ จากนั้นดิฉันก็เดินออกมา กลับมาถึงบ้านยังคิดๆอยู่เราแรงเกินไปหรือเปล่า แต่ที่เล่ามาทั้งหมดคุณคิดว่าดิฉันสมควรกลับไปจ่ายเงินมั๊ยคะ หรือว่าเราอยู่ประเทศเค้าเราต้องยอมๆ ถึงแม้บางครั้งเรารู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบ ต้องยอมหรือเปล่าคะ
ตอนแรกว่าจะไม่บ่น. แต่ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า กังวลนะเนี้ย เกิดไปเดินห้างแล้วต้องไปเจอกะหมอ แล้วมองหน้ากันไม่ติด ที่สำคัญครั้งแรกที่ไปหาหมอ ก็ไม่มีอะ แบบแผนสัญญาขั้นตอนรักษา เช่น ระยะเวลารักษา, ค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา การชำระค่ารักษาแบ่งจ่ายอย่างไร มีแต่กรอกประวัติ เบอร์โทร, ที่อยู่, ชื่อ. ซึ่งมันต่างกะคลีนิคใหม่มาก บอกทุกขั้นตอนทำให้มั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดการรักษาผลจะออกเป็นอย่างไร แล้วยังงี้เราไม่รู้สึกปลอดภัยในการรักษา เราไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนหรืออย่างไรคะ