เวลาที่เห็นคู่รักที่รักกันมากๆ แล้วต้องเลิกกัน มันก็อดเสียดายไม่ได้นะคะ คิดดูสิคะ กว่าจะเจอคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรามันไม่ได้ง่ายเลยที่จะหาใครสักคนที่มีใจตรงกับเรา ทีนี้พอหาได้กลับเลิกกันอย่างง่ายดายแค่เพราะคำว่า “ทิฐิ” เท่านั้นเอง ไม่อยากจะเห็นใครเลิกกันเพราะเหตุผลข้อนี้อีกแล้วค่ะ เลยขอนำเรื่องเล่าสอนใจจากท่านว.วชิรเมธี ในหนังสือธรรมะทอรัก ในเครือสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะมาเล่าเตือนสติความรักของใครก็ตามที่กำลังง่อนแง่นอยู่ตอนนี้ค่ะ
“สามีภรรยาคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้ไม่นาน ต่อมาเกิดสงคราม สามีถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร จึงต้องจำใจจากภรรยาสุดที่รักไป ผ่านไป 4 ปี ภรรยาให้กำเนิดลูกชายอายุได้สี่ขวบเศษ พอรู้ข่าวว่าสามีกลับมาจากสงคราม ภรรยารีบจูงมือลูกชายออกไปรับพ่อทันที เมื่อทั้งคู่เจอกันที่ตลาด ต่างก็โผเข้ากอดด้วยความดีใจ ผู้เป็นแม่บอกให้ลูกกอดพ่อบ้าง แต่ลูกไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อน จึงยืนทำท่าเก้ๆ กังๆ ผู้เป็นแม่คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อลูกก็คงเข้ากันได้ดีเอง จึงทิ้งให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน ส่วนตัวเองเข้าไปซื้อของในตลาด ตั้งใจว่าเย็นนี้จะปรุงอาหารมื้ออร่อยที่สุดเพื่อฉลองการกลับบ้านของสามี
ระหว่างที่ภรรยาเข้าไปซื้อของ สามีก็รั้งตัวเจ้าหนูมากอดแล้วบอกให้ลูกเรียกตัวเองว่า พ่อ ผู้เป็นพ่อคะยั้นคะยออยู่นานจนเจ้าหนูรำคาญ จึงโพล่งออกมาว่า ลุงไม่ใช่พ่อของหนู พ่อของหนูชอบมาหาแม่และหนูตอนกลางคืน พอแม่นั่ง พ่อก็นั่ง พอแม่นอน พ่อก็นอน ได้ฟังลูกพูดแค่นั้นเขาก็ตัวชา หน้ามืด ความโกรธแล่นเข้าสู่สมอง เขาไม่ยอมพูดกับภรรยาอีกเลย ไม่ว่าเธอจะพยายามเซ้าซี้ชวนคุยอย่างไรก็ตาม มีคนกล่าวไว้ว่า ความรักเป็นปฏิภาคผกผันกับความชัง และมีผลข้างเคียงเป็นความทุกข์ ดังนั้นเมื่อรักมาก ยามรักไม่สมหวังจึงกลายเป็นชังมาก ความทุกข์ก็เข้าคุกคามเป็นเงาตามตัว ภรรยาทนความเย็นชาของสามีได้ 3 วัน ทนต่อไปอีกไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
ในงานศพคืนนั้นเอง สามีจุดตะเกียงวางบนโลงศพ ระหว่างที่เดินงุ่นง่านไปมา ลูกชายก็ร้องเสียงดังพลางชี้มือไปที่เงาของเขาซึ่งทาบลงบนผนังห้องว่า นั่นไงพ่อมาแล้ว พ่อชอบมาตอนกลางคืน พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่นอนพ่อก็นอน ชายหนุ่มหันไปดู พ่อ ของเจ้าหนู ก็พบว่ามีแต่เงาของตัวเองเท่านั้น ถึงนาทีนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ภรรยารักและภักดีต่อเขามากเหลือเกิน สู้อุตส่าห์สมมติเงาตัวเองเป็นพ่อของลูก จนเด็กน้อยเข้าใจผิด เช้าวันต่อมา ชาวบ้านพบศพนายทหารหนุ่มที่ท่าน้ำ ที่เดียวกับที่ภรรยาเขาฆ่าตัวตาย ทิ้งให้เจ้าหนูต้องกลายเป็นลูกกำพร้าที่น่าสงสาร อนิจจาถ้าวันนั้นเขาไม่ถือทิฐิมานะทึกทักเอาเองว่าเธอมีชู้ ยอมเอ่ยปากถามว่า พ่อที่ลูกพูดถึงคือใคร และถ้าเธอไม่ถือทิฐิมานะเกินไป ให้เวลาค้นหาสาเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงของเขา แล้วหันหน้าเข้าหากันด้วยเหตุผล โศกนาฏกรรมก็คงไม่เกิดขึ้น
ในเมื่อตกลงใจที่จะรักกันแล้ว อย่าให้ทิฐิมานะมาเป็นตัวทำลายความรักของเราเลยค่ะ คิดถึงสิ่งดีๆ วันคืนดีๆ ค่อยๆ พูดจาถามไถ่กันด้วยเหตุผลในขณะที่กำลังโกรธกัน ก่อนที่จะสายเกินไปเหมือนกับเรื่องเล่าข้างต้นนั้นนะคะ
บทความจาก : สนุกดอทคอม
http://women.sanook.com/20756/เสียดายคู่ที่เลิกกันไปไม่ได้อ่าน/
ธรรมะทอรัก เสียดายคู่ที่เลิกกันไปไม่ได้อ่าน
เวลาที่เห็นคู่รักที่รักกันมากๆ แล้วต้องเลิกกัน มันก็อดเสียดายไม่ได้นะคะ คิดดูสิคะ กว่าจะเจอคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรามันไม่ได้ง่ายเลยที่จะหาใครสักคนที่มีใจตรงกับเรา ทีนี้พอหาได้กลับเลิกกันอย่างง่ายดายแค่เพราะคำว่า “ทิฐิ” เท่านั้นเอง ไม่อยากจะเห็นใครเลิกกันเพราะเหตุผลข้อนี้อีกแล้วค่ะ เลยขอนำเรื่องเล่าสอนใจจากท่านว.วชิรเมธี ในหนังสือธรรมะทอรัก ในเครือสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะมาเล่าเตือนสติความรักของใครก็ตามที่กำลังง่อนแง่นอยู่ตอนนี้ค่ะ
“สามีภรรยาคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้ไม่นาน ต่อมาเกิดสงคราม สามีถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร จึงต้องจำใจจากภรรยาสุดที่รักไป ผ่านไป 4 ปี ภรรยาให้กำเนิดลูกชายอายุได้สี่ขวบเศษ พอรู้ข่าวว่าสามีกลับมาจากสงคราม ภรรยารีบจูงมือลูกชายออกไปรับพ่อทันที เมื่อทั้งคู่เจอกันที่ตลาด ต่างก็โผเข้ากอดด้วยความดีใจ ผู้เป็นแม่บอกให้ลูกกอดพ่อบ้าง แต่ลูกไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อน จึงยืนทำท่าเก้ๆ กังๆ ผู้เป็นแม่คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อลูกก็คงเข้ากันได้ดีเอง จึงทิ้งให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน ส่วนตัวเองเข้าไปซื้อของในตลาด ตั้งใจว่าเย็นนี้จะปรุงอาหารมื้ออร่อยที่สุดเพื่อฉลองการกลับบ้านของสามี
ระหว่างที่ภรรยาเข้าไปซื้อของ สามีก็รั้งตัวเจ้าหนูมากอดแล้วบอกให้ลูกเรียกตัวเองว่า พ่อ ผู้เป็นพ่อคะยั้นคะยออยู่นานจนเจ้าหนูรำคาญ จึงโพล่งออกมาว่า ลุงไม่ใช่พ่อของหนู พ่อของหนูชอบมาหาแม่และหนูตอนกลางคืน พอแม่นั่ง พ่อก็นั่ง พอแม่นอน พ่อก็นอน ได้ฟังลูกพูดแค่นั้นเขาก็ตัวชา หน้ามืด ความโกรธแล่นเข้าสู่สมอง เขาไม่ยอมพูดกับภรรยาอีกเลย ไม่ว่าเธอจะพยายามเซ้าซี้ชวนคุยอย่างไรก็ตาม มีคนกล่าวไว้ว่า ความรักเป็นปฏิภาคผกผันกับความชัง และมีผลข้างเคียงเป็นความทุกข์ ดังนั้นเมื่อรักมาก ยามรักไม่สมหวังจึงกลายเป็นชังมาก ความทุกข์ก็เข้าคุกคามเป็นเงาตามตัว ภรรยาทนความเย็นชาของสามีได้ 3 วัน ทนต่อไปอีกไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
ในงานศพคืนนั้นเอง สามีจุดตะเกียงวางบนโลงศพ ระหว่างที่เดินงุ่นง่านไปมา ลูกชายก็ร้องเสียงดังพลางชี้มือไปที่เงาของเขาซึ่งทาบลงบนผนังห้องว่า นั่นไงพ่อมาแล้ว พ่อชอบมาตอนกลางคืน พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่นอนพ่อก็นอน ชายหนุ่มหันไปดู พ่อ ของเจ้าหนู ก็พบว่ามีแต่เงาของตัวเองเท่านั้น ถึงนาทีนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ภรรยารักและภักดีต่อเขามากเหลือเกิน สู้อุตส่าห์สมมติเงาตัวเองเป็นพ่อของลูก จนเด็กน้อยเข้าใจผิด เช้าวันต่อมา ชาวบ้านพบศพนายทหารหนุ่มที่ท่าน้ำ ที่เดียวกับที่ภรรยาเขาฆ่าตัวตาย ทิ้งให้เจ้าหนูต้องกลายเป็นลูกกำพร้าที่น่าสงสาร อนิจจาถ้าวันนั้นเขาไม่ถือทิฐิมานะทึกทักเอาเองว่าเธอมีชู้ ยอมเอ่ยปากถามว่า พ่อที่ลูกพูดถึงคือใคร และถ้าเธอไม่ถือทิฐิมานะเกินไป ให้เวลาค้นหาสาเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงของเขา แล้วหันหน้าเข้าหากันด้วยเหตุผล โศกนาฏกรรมก็คงไม่เกิดขึ้น
ในเมื่อตกลงใจที่จะรักกันแล้ว อย่าให้ทิฐิมานะมาเป็นตัวทำลายความรักของเราเลยค่ะ คิดถึงสิ่งดีๆ วันคืนดีๆ ค่อยๆ พูดจาถามไถ่กันด้วยเหตุผลในขณะที่กำลังโกรธกัน ก่อนที่จะสายเกินไปเหมือนกับเรื่องเล่าข้างต้นนั้นนะคะ
บทความจาก : สนุกดอทคอม
http://women.sanook.com/20756/เสียดายคู่ที่เลิกกันไปไม่ได้อ่าน/