สวัสดีครับ ผมเป็นทหารรับราชการอยู่ในส่วนของกองทัพบก ประสบการณ์ต่อจากนี้คือประสบการณ์จริงในชีวิตรับราชการของตัวผมเองที่ได้สัมผัสมา กับหลักสูตร 1 หลักสูตรที่เป็นหลักสูตรสำคัญของกองทัพบก ซึ่งหลายๆคนมักจะเรียกติดปากกันว่า "เสือคาบดาบ" หรือ หลักสูตรจู่โจมนั้นเอง
หลักสูตรนี้จะเปิดรับข้าราชการทุกชั้นยศ ให้สามารถเข้ามาทดสอบร่างกายแข่งขันกัน แล้วจะคัดคนที่มีสกอร์ร่างกายแข็งแรงที่สุดเพื่อเข้ามาศึกษาในหลักสูตร จำนวน 150 คน เป็นระยะเวลา 70 วัน การฝึกจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค 1. ภาคที่ตั้ง 2. ภาคป่าเล็ก 3. ภาคทะเล 4.ภาคป่าใหญ่ ซึ่งจะเปิดด้วยกันทั้งหมด 3 ที่ คือ ศูนย์การทหารราบ, ศูนย์การทหารม้า, และศูนย์สงครามพิเศษ ซึ่งผมเองก็คือ 1 ใน 150 ของผู้ที่ผ่านการทดสอบ ซึ่งของผมจะอยู่ในส่วนของศูนย์สงครามพิเศษเนื่องจากทดสอบของที่นี้ได้ก่อน จึงเลือกจะเรียนหลักสูตรจู่โจมของที่นี้ เพราะแต่ละที่นั้นจะเปิดให้เข้าทดสอบร่างกายในวันและเวลาที่ต่างกัน
หลังจากการประกาศผลผู้เข้ารับการศึกษาตัวจริงทุกนายแล้ว ทางศูนย์สงครามพิเศษจะกำหนดวันและเวลาที่จะเข้ารับการศึกษา พร้อมใบสิ่งของรายการที่ต้องเตรียมไปในการศึกษาในหลักสูตรตลอดระยะเวลา 70 วัน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่วุ่นวายมากพอสมควรครับ เพราะต้องจัดเตรียมสิ่งของจำนวนมาก หลังจากที่รับใบรายการสิ่งของมา ผมค่อนข้างกังวลใจพอสมควร เนื่องจากเป็นผมเองไม่ใช่กำลังพลในส่วนของกรมรบพิเศษหรือภาษาทหารมักจะเรียกว่า หมวกแดง ประกอบการได้ยินคำพูดจากครูฝึกทุกๆคน ที่พูดเหมือนกันทุกคนว่า รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่พิเศษที่สุดกว่าทุกๆรุ่นที่เปิดมา ให้เตรียมใจรอรับไว้ ในใจตอนนั้นคิดไว้ตลอดว่า กูจะไหวเหรอวะ แต่ก็บอกกับตัวเองตลอด ในเมื่อเราตั้งใจมาแล้วก็ต้องทำให้ได้
เช้าวันแรกสำหรับการรายงานตัว ผมให้เพื่อนที่เป็นทหารอยู่ใน จว.ลพบุรี ขับรถพามาส่งใน รร.สงครามพิเศษ พร้อมกับพาไปรายงานตัวที่หน้ากองร้อยนักเรียนจู่โจม ก่อนที่ผมจะลงจากรถเพื่อที่จะเข้าไปรายงานตัว คำพูดจากเพื่อนที่ได้ผ่านหลักสูตรนี้เมื่อรุ่นที่แล้ว บอกผมไว้ให้อดทนเพราะรุ่นนี้ นายทหารกำกับหลักสูตรหรือผู้ควบคุมหลักสูตรจู่โจม เป็นคนละคนกับรุ่นที่แล้ว ให้เตรียมใจไว้ให้พร้อม เขามักจะบอกผมเสมอว่า หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรใช้ใจ คนที่ลาออกหรือไม่ไหว ส่วนมากคือคนที่แพ้ใจตัวเอง ขอให้ผมชนะใจตนเองให้ได้ก็พอในการเรียนหลักสูตร ผมฟังคำพูดของมัน พร้อมกับบอกตัวเองว่า มาแล้วยังไงต้องทำให้ได้ บรรยากาศรับรายงานตัวของนักเรียนจู่โจมเป็นไปอย่างเงียบสงบ ครูฝึกทุกคนยิ้มแย้มและทักทายนักเรียนอย่างเป็นกันเอง รวมถึงตัวของผมด้วย ซึ่งอาจจะดูแปลกตากว่าทุกคน เนื่องจากผมไม่ใช่กำลังพลในส่วนของกรมรบพิเศษ
หลักสูตรการรบแบบจู่โจม (เสือคาบดาบ,RANGER)
สวัสดีครับ ผมเป็นทหารรับราชการอยู่ในส่วนของกองทัพบก ประสบการณ์ต่อจากนี้คือประสบการณ์จริงในชีวิตรับราชการของตัวผมเองที่ได้สัมผัสมา กับหลักสูตร 1 หลักสูตรที่เป็นหลักสูตรสำคัญของกองทัพบก ซึ่งหลายๆคนมักจะเรียกติดปากกันว่า "เสือคาบดาบ" หรือ หลักสูตรจู่โจมนั้นเอง
หลักสูตรนี้จะเปิดรับข้าราชการทุกชั้นยศ ให้สามารถเข้ามาทดสอบร่างกายแข่งขันกัน แล้วจะคัดคนที่มีสกอร์ร่างกายแข็งแรงที่สุดเพื่อเข้ามาศึกษาในหลักสูตร จำนวน 150 คน เป็นระยะเวลา 70 วัน การฝึกจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค 1. ภาคที่ตั้ง 2. ภาคป่าเล็ก 3. ภาคทะเล 4.ภาคป่าใหญ่ ซึ่งจะเปิดด้วยกันทั้งหมด 3 ที่ คือ ศูนย์การทหารราบ, ศูนย์การทหารม้า, และศูนย์สงครามพิเศษ ซึ่งผมเองก็คือ 1 ใน 150 ของผู้ที่ผ่านการทดสอบ ซึ่งของผมจะอยู่ในส่วนของศูนย์สงครามพิเศษเนื่องจากทดสอบของที่นี้ได้ก่อน จึงเลือกจะเรียนหลักสูตรจู่โจมของที่นี้ เพราะแต่ละที่นั้นจะเปิดให้เข้าทดสอบร่างกายในวันและเวลาที่ต่างกัน
หลังจากการประกาศผลผู้เข้ารับการศึกษาตัวจริงทุกนายแล้ว ทางศูนย์สงครามพิเศษจะกำหนดวันและเวลาที่จะเข้ารับการศึกษา พร้อมใบสิ่งของรายการที่ต้องเตรียมไปในการศึกษาในหลักสูตรตลอดระยะเวลา 70 วัน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่วุ่นวายมากพอสมควรครับ เพราะต้องจัดเตรียมสิ่งของจำนวนมาก หลังจากที่รับใบรายการสิ่งของมา ผมค่อนข้างกังวลใจพอสมควร เนื่องจากเป็นผมเองไม่ใช่กำลังพลในส่วนของกรมรบพิเศษหรือภาษาทหารมักจะเรียกว่า หมวกแดง ประกอบการได้ยินคำพูดจากครูฝึกทุกๆคน ที่พูดเหมือนกันทุกคนว่า รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่พิเศษที่สุดกว่าทุกๆรุ่นที่เปิดมา ให้เตรียมใจรอรับไว้ ในใจตอนนั้นคิดไว้ตลอดว่า กูจะไหวเหรอวะ แต่ก็บอกกับตัวเองตลอด ในเมื่อเราตั้งใจมาแล้วก็ต้องทำให้ได้
เช้าวันแรกสำหรับการรายงานตัว ผมให้เพื่อนที่เป็นทหารอยู่ใน จว.ลพบุรี ขับรถพามาส่งใน รร.สงครามพิเศษ พร้อมกับพาไปรายงานตัวที่หน้ากองร้อยนักเรียนจู่โจม ก่อนที่ผมจะลงจากรถเพื่อที่จะเข้าไปรายงานตัว คำพูดจากเพื่อนที่ได้ผ่านหลักสูตรนี้เมื่อรุ่นที่แล้ว บอกผมไว้ให้อดทนเพราะรุ่นนี้ นายทหารกำกับหลักสูตรหรือผู้ควบคุมหลักสูตรจู่โจม เป็นคนละคนกับรุ่นที่แล้ว ให้เตรียมใจไว้ให้พร้อม เขามักจะบอกผมเสมอว่า หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรใช้ใจ คนที่ลาออกหรือไม่ไหว ส่วนมากคือคนที่แพ้ใจตัวเอง ขอให้ผมชนะใจตนเองให้ได้ก็พอในการเรียนหลักสูตร ผมฟังคำพูดของมัน พร้อมกับบอกตัวเองว่า มาแล้วยังไงต้องทำให้ได้ บรรยากาศรับรายงานตัวของนักเรียนจู่โจมเป็นไปอย่างเงียบสงบ ครูฝึกทุกคนยิ้มแย้มและทักทายนักเรียนอย่างเป็นกันเอง รวมถึงตัวของผมด้วย ซึ่งอาจจะดูแปลกตากว่าทุกคน เนื่องจากผมไม่ใช่กำลังพลในส่วนของกรมรบพิเศษ