The Walking Dead ตอน Bangkok Apocalypse

นี่ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นความฝันของผม The Walking Dead ตอนพิเศษ Bangkok Apocalypse

*หมายเหตุ: นี่คือความฝัน และผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ และความรู้สึกต่างจากในหนังอย่างสิ้นเชิง ดูหนังแล้วอยากยิงซอมบี้ ถือมีดเข้าบวก แต่ตอนนี้รู้สึกอย่างเดียวคือกลัว และเอาตัวรอด

** ข้อความในวงเล็บคือสิ่งที่ผมคิดเมื่อตื่นมาแล้ว

ผม.... เช้าวันหนึ่ง ไม่สามารถระบุวันเดือนปีได้ ผมตื่นขึ้น รู้สึกปวดหัวและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก พยายามลุกจากเตียงอุ่นกับผ้าห่มหนาๆ ผมพยายามเดินไปที่หน้าต่าง แต่ทำไมมันช้าเหลือเกิน แต่ละก้าวเหมือนมีอะไรถ่วงขาเอาไว้ ผมค่อยๆเลิกม่านออก เห็นกรุงเทพจากมุมสูงที่สูงมาก

สงบดีจัง ไม่มีรถเลยแฮะ (ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ทำไมในฝันกูงี่เง่าอย่างนี้)

ผมเข้าไปในห้องน้ำ ไม่มีอะไรอยู่เลย "แล้วจะอาบน้ำยังไงล่ะเนี่ย?" "เอาวะ ไปซื้อเซเว่นละกัน" ผมเดินออกจากห้องแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น 1 ลิฟท์กำลังลงเรื่อยๆ แล้วผมก็กดออกลิฟท์ที่ชั้น 3 (แล้วลงชั้น 3 ทำไมวะ จะไปชั้น 1 ไม่ใช่เร้อ) ผมออกมาจากลิฟท์ ทางเดินมืดมาก แล้วก็ได้ยินเสียงเดิน จากเสียงเดินเป็นเสียงวิ่ง

"เฮ้ย อะไรวะ เฮ้ย"
ตุ๊บ! มีคนวิ่งมาชนผม ผู้หญิงแฮะ แล้วเธอก็พูดภาษาญี่ปุ่นอะไรก็ไม่รู้ แล้วผมก็คุยกับเธอรู้เรื่องด้วย (ขอสมมติชื่อว่ามาชิโระจังละกัน)
"มันมาแล้ว มันมาแล้ว" เธอว่า
"ใครมาครับ" ผมถามด้วยความสงสัย พลันเห็นในเงามืดเหมือนมีพนักงานโรงแรมเข็นรถเข็นส่ายไปส่ายมา เดินมาทางนี้ช้าๆ
"พี่ครับพี่ ช่วยหน่อยครับเพื่อนผมกลัว..." พูดยังไม่ทันจบก็เห็นหน้าพนักงานโรงแรมที่ต้องแสงไฟจากลิฟท์

"เฮ้ย เละโคตร ซอมบี้นี่หว่า" (เออออ ตอนตื่นกูรู้ตั้งแต่เห็นมันเข็นรถแล้วแหละ"
ผมกับมาชิโระจังรีบหนีลงบันไดไปชั้น 1 (ลิฟท์มีไม่ขึ้นนะ เออว่ะ ถ้าลงลิฟท์เปิดมามีซอมบี้รอเป็นฝูงนี่จบเห่เลย ในฝันก็แอบฉลาดเหมือนกันนะ 55) แต่ทางตัน ทางลงชั้น 1 มีศพของตำรวจชุดเกราะกองทับกันจนปิดทางลง เราจึงตัดสินใจออกมาที่ชั้น 2 มาชิโระหยิบขวานแดงจากตู้ดับเพลิง ส่วนผมหยิบปืน M4 กับกระสุนชุดนึงจากศพของตำรวจ ทันใดนั้นลิฟท์ก็อีกตัวก็เปิด ซอมบี้มนุษย์ป้าเดินออกมาในสภาพรุ่งริ่ง มือข้างหนึ่งถือแขนที่ขาดห้อย มืออีกข้างพยายามไขว่คว้าผม มาชิโระวิ่งนำไปตามทางเดินที่มืดสลัว

ปังปังปัง! ผมสาดกระสุนใส่ซอมบี้มนุษย์ป้าแล้วรีบตามมาชิโระไป ในระหว่างที่มาชิโระวิ่งนำ ประตูห้องก็เปิดออก ซอมบี้ออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว เธอหมุนตัวหลบแล้วจามขวานใส่ซอมบี้ ผมรีบยิงสนับสนุนทันที หลังจากซอมบี้ตัวนี้ตาย ประตูอีกห้องที่อยู่ข้างหลังผมก็เปิดออก ซอมบี้ออกมาเยอะมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน มาชิโระจังไม่รอช้า รีบเข้ามาช่วยผม เราเอาตัวรอกจากกลุ่มซอมบี้ในสภาพทุลักทุเลและรีบวิ่งตรงไปที่ทางหนีไฟ ประตูห้องที่เหลือก็เปิดออก เหมือนพวกมันได้ยินเสียงปืนของผม เราหนีไม่คิดชีวิตออกจากโรงแรม

(เวลาหนีตายจริงไม่มีการคุยกันระหว่างหนีเหมือนที่เห็นในหนัง แต่ละคนทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดและช่วยเหลือกัน โดยไม่พูดกันซักคำ ยังกับสมาธิทิ้งหมดเพ่งไปที่การต่อสู้และเอาตัวรอด)

สภาพถนนเบื้องหน้าต่างจากในหนัง ไม่มีขยะปลิวไปมา ไม่มีรถจอดระเกะระกะ ไม่มีฝูงซอมบี้เดินเพ่นพ่าน ยังกับเชื้อโรคระบาดกลางดึกตอนที่ผู้คนกำลังหลับใหล เราพยายามใช้รถที่จอดอยู่ริมถนนแต่ก็ใช้ไม่ได้เพราะรถล็อกอยู่

แอ๊ด แอ๊ด แอ๊ด! สัญญาณกันขโมยดังขึ้นจากรถที่เรากำลังงัด มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอาคาร ดูเหมือนว่าพวกซอมบี้ที่อยู่ในตึกรอบๆพยายามตามเสียงออกมาข้านอกอย่างงั้นแหละ

"BTS" ผมว่า "อยู่ข้างบนดีกว่า"
มาชิโระจังรับคำแล้ววิ่งไปที่รถอีกคันก่อนจามขวานอย่างแรงที่กระจก ทันทีที่สัญญาณกันขโมยของรถสองคันดังแข่งกันพวกเราก็วิ่งขึ้นบันไดเข้าสู่สถานี BTS ที่ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่ง ผมเข้าใจดีว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ไม่มีใครมาวิ่งรถไฟฟ้าหรอก เผลอๆคนควบคุมคงกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว เราสองคนจึงตัดสินใจไปที่ห้าง ที่ๆมีทุกอย่างที่เราต้องการและหวังว่ามันยังคงปิด และไม่มีซอมบี้อยู่ข้างใน เราตัดสินใจไปที่ พารากอน ด้วยความที่ไม่มีรถไฟฟ้าเราจึงเดินตามราง ในระหว่างเดิมผมก็เห็นซอมบี้กำลังรุมรถสองคันข้างล่าง คิดถูกแล้วที่มาชิโระไปทุบรถอีกคัน ถ้าเสียงไม่มีความสนใจมากพอ เราอาจไม่ได้เดินสบายๆ

ระหว่างที่เดิน ด้วยความสงสัยผมจึงถามมาชิโระ
"เธอทำไมอยู่ที่โรงแรมล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น" ผมถาม
"มาเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่สบายเลยอยู่คนเดียว แล้วเพื่อนไม่กลับมาอีกเลย"
"ไม่เป็นไรหรอก คงอยู่ที่ไหนซักที่ เดี๋ยวก็เจอ" ผมพยายามปลอบ มาชิโระยิ้มก่อนที่จะชี้ไปข้างหน้า
"นั่น รถไฟฟ้า" ทันทีที่เธอพูดผมก็มองตามนิ้วเธอไป เห็นขบวนรถไฟฟ้าจอดอยู่กลางรางและอยู่ไกลมากจนแทบมองไม่เห็น เราทั้งคู่รีบวิ่งไปทันที

แปลกมาก ทั้งขบวนมีคนไม่กี่คน แต่ละคนสภาพหดหู่ หมดหวัง ผมไม่คุยกับใครเพราะรู้ดีกว่าแต่ละคนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไรนัก เราเดินไปที่หัวขบวนแล้วเจอคนๆนึง ผมรู้ทันทีว่ายังเป็นอีกคนที่จิตใจปกติอยู่ (สมมติว่าชื่อแม๊กละกัน จำชื่อไม่ได้) เป็นผู้ชายแต่งชุดหนัง โคตรร๊อคสตาร์ ในมือถือท่อนเหล็กเปื้อนเลือด รู้เรื่องคล่าวๆว่าหนีเอาตัวรอดเหมือนผมกับมาชิโระจนมาเจอรถไฟฟ้าแล้วหยุดพัก

จากนั้นเราทั้งสามคนก็เดินเท้าไปที่สถานีสยาม มุ่งสู่สยาม พารากอน

เมื่อถึงสถานีสยาม สิ่งแรกที่เราเจอคือความเงียบ เงียบมาก ไม่มีอะไรขยับไหวติงเลย เราเดินสำรวจก่อนที่จะลงมาชั้นล่างที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ซอมบี้! ซอมบี้เยอะมาก! ซอมบี้เต็มไปหมด! จากประสบการณ์ผมรีบถอดซองกระสุนและจัดที่ปากกระบอกปืน เปลี่ยนจากอาวุธยิงเป็นอาวุธฟาด ถึงแม้ซอมบี้จะเดินช้าและแต่ละตัวอยู่ห่างกัน เลิกคิดไปได้เลยว่าจะเข้าไปบวกไล่เก็บทีละตัว ระหว่างที่มาชิโระจังเข้าไปฟันซอมบี้ตัวหนึ่ง ซอมบี้ตัวก็เข้าใกล้เธอ พอเธอเก็บอีกตัว ซอมบี้อีกสองตัวก็เข้ามาใกล้ แต่ครั้งที่เข้ามามา ระยะเวลาสั้นลงและจำนวนมากขึ้น ไอ้แม๊กที่สังเกตการณ์อยู่กลับไม่ช่วยเธอและวิ่งตรงไปที่ประตูทางเข้าพารากอน ในระหว่างที่ความกลัวเข้าจับจิต สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ "ต้องรอด" "ต้องรอดให้ได้" ผมขยับขาวิ่งตามไอ้แม๊ก

กรี๊ดดดดดดด!

ผมหันกลับไป เห็นมาชิโระกำลังเสียท่า ล้มลงกับพื้น สกิลพระเอกทำงาน! ผมรีบใส่ซองกระสุนแล้วยิงไปที่ซอมบี้ ซอมบี้พวกนั้นลมลง มาชิโระจังพยายามออกจากร่างของซอมบี้ที่นอนตายทับเธอ ซอบบี้ทั้งหมดในบริเวณนั้นเมื่อได้ยินเสียงปืนจึงเริ่มเดินมาทางผม (งานงอกแล้วไง) ผมกับมาชิโระจังยืนอยู่ข้างกัน ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้คำเดียวเลยคือ "ไม่รอดแน่" ในจังหวะนั้นเอง ผมเห็นระยะห่างระหว่างซอมบี้ที่รุมล้อม เป็นช่องเล็กๆเพียงพอที่จะผ่านไปได้ ผมรีบจับมือมาชิโระแล้ววิ่งไปยังโอกาสเดียวที่เหลืออยู่ ในระหว่างผ่านกลุ่มซอมบี้พวกนั้นผมเห็น 'ซอมบี้ไอ้แม๊ก' การที่มันทิ้งผมกับมาชิโระส่งผลให้มันกลายเป็นแบบนี้

และผมก็ทุเรศตัวเองเหมือนกันเพราะผมก็ทิ้งเธอไว้ข้างหลัง

ผมกับมาชิโระมาถึงประตูทางเข้า แต่เข้าไปไม่ได้เพราะประตูปิด นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไอ้แม๊กโดนกระซวกคอ ผมถึงจุดสิ้นหวังอีกรอบ ซอมบี้เริ่มล้อมเข้ามาอีกครั้ง

ในสถานะที่มองไม่เห็นโอกาสและไม่มีทางเลือก มันเป็นความรู้สึกที่หดหู่มากกว่าทุกครั้งที่เคยรู้สึก มาชิโระจับมือผมแน่น ผมรู้ว่าเธอกลัว ผมก็กลัวเหมือนกัน

------เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ ตอนนี้ยังจำฝันได้ (คำพูดผมจำได้คล่าวๆ ที่เป็นประโยคใส่เพิ่มเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่