ถ้าไม่ยึดติดคิดมากกับรายละเอียดที่เป็นการตีความใหม่จากคัมภีร์ไบเบิล และตัวละครที่อ่อนไหวต่อความเชื่อทางศาสนาจนทำให้หนังโดนแบนในหลายประเทศ แล้วมองหนังเรื่องนี้เป็นเพียงหนังแอ็คชั่นผจญภัยเรื่องหนึ่ง นี่คือผลงานที่เข้าใกล้ความบันเทิงสำหรับคนในวงกว้างมากที่สุดเท่าที่ผู้กำกับอย่าง ดาร์เรน อาโรนอฟสกี้ เคยทำออกมาเลยก็ว่าได้
หนังทำได้ถึงทั้งในแง่ของการดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม และการปลุกเร้าคนดูด้วยการนำเสนอฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ ที่ให้ภาพอันน่าตกตะลึงอยู่ในหลายๆ ช่วง โดยเฉพาะฉากโรมรันอันดุเดือดอลหม่านระหว่าง กองทัพคน กับ เทพ (ยักษ์หิน) ในช่วงกลางเรื่องที่เหมือนพาคนดูหลุดเข้าไปอยู่ในหนังของปีเตอร์ แจ็คสันอย่าง The Hobbit หรือ The Lord of the Rings ซึ่งถือว่าเกินคาดไปมากจากหน้าหนังที่เห็นในแว่บแรกแล้วให้ความรู้สึกไปในทางหนังอีพิคเคร่งเครียดจริงจัง
ขณะที่เนื้อหาหลักของหนัง แม้จะตั้งต้นด้วยประเด็นเกี่ยวกับพระเจ้า และการสร้างโลกภายใน 7 วันของพระองค์ตามความเชื่อของหนังสือปฐมกาล (Book of Genesis) แต่หนังก็หาได้มุ่งหน้าสรรเสริญความเชื่อดังกล่าวแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะเมื่อหนังเดินทางไปถึงช่วงท้ายๆ กลับให้ความสำคัญกับประเด็นที่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวมากกว่าเรื่องของพระเจ้าเสียอีก
หนังเล่นกับความสับสนซับซ้อนในจิตใจของโนอาห์ ที่เขาเชื่อมาตลอดว่าตัวเองคือผู้ได้รับมอบหมายภาระกิจสำคัญจากพระเจ้าในการสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากมนุษย์ หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งชั่วร้ายที่พระเจ้าต้องการล้างออกไปจากโลก
ซึ่งสถานการณ์ทั้งหลายได้ค่อยๆ พาให้โนอาห์ไปอยู่ในจุดที่ต้องเลือกระหว่าง การทำในสิ่งที่ชั่วร้ายขัดต่อศีลธรรมเพื่อให้ภาระกิจดังกล่าวสำเร็จลุล่วง หรือ เลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีงาม แต่ภาระกิจล้มเหลวและขัดต่อความเชื่อเรื่องพระเจ้าของตนเองที่มีมาตั้งแต่ต้น
ความย้อนแย้งที่ว่านี้นำไปสู่บทสรุปของหนังที่ชวนให้เราได้ขบคิดเกี่ยวกับการถือกำเนิดขึ้นและดำรงอยู่ของ มนุษย์/ความชั่วร้าย/ความดีงาม ที่มนุษย์ไม่เคยได้รับคำตอบว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม เหตุใดจึงใส่ความชั่วร้ายไว้ในตัวมนุษย์ระดับที่พอๆ กับความดีงาม ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของพระเจ้าที่จะใส่ความไม่สมบูรณ์แบบมาในตัวมนุษย์ หรือ มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความผิดพลาดของพระเจ้ากันแน่
พระเจ้าไม่เคยตอบคำถาม มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องตอบตัวเอง..
คะแนน : ★★★1/2
PS. ฝากแฟนเพจด้วยจ้า
http://www.facebook.com/pages/เกรียนหนัง/112834835539518
(เพิ่งจะได้ดู) Noah (2014) : ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ (บันเทิงกว่าที่คิด)
ถ้าไม่ยึดติดคิดมากกับรายละเอียดที่เป็นการตีความใหม่จากคัมภีร์ไบเบิล และตัวละครที่อ่อนไหวต่อความเชื่อทางศาสนาจนทำให้หนังโดนแบนในหลายประเทศ แล้วมองหนังเรื่องนี้เป็นเพียงหนังแอ็คชั่นผจญภัยเรื่องหนึ่ง นี่คือผลงานที่เข้าใกล้ความบันเทิงสำหรับคนในวงกว้างมากที่สุดเท่าที่ผู้กำกับอย่าง ดาร์เรน อาโรนอฟสกี้ เคยทำออกมาเลยก็ว่าได้
หนังทำได้ถึงทั้งในแง่ของการดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม และการปลุกเร้าคนดูด้วยการนำเสนอฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ ที่ให้ภาพอันน่าตกตะลึงอยู่ในหลายๆ ช่วง โดยเฉพาะฉากโรมรันอันดุเดือดอลหม่านระหว่าง กองทัพคน กับ เทพ (ยักษ์หิน) ในช่วงกลางเรื่องที่เหมือนพาคนดูหลุดเข้าไปอยู่ในหนังของปีเตอร์ แจ็คสันอย่าง The Hobbit หรือ The Lord of the Rings ซึ่งถือว่าเกินคาดไปมากจากหน้าหนังที่เห็นในแว่บแรกแล้วให้ความรู้สึกไปในทางหนังอีพิคเคร่งเครียดจริงจัง
ขณะที่เนื้อหาหลักของหนัง แม้จะตั้งต้นด้วยประเด็นเกี่ยวกับพระเจ้า และการสร้างโลกภายใน 7 วันของพระองค์ตามความเชื่อของหนังสือปฐมกาล (Book of Genesis) แต่หนังก็หาได้มุ่งหน้าสรรเสริญความเชื่อดังกล่าวแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะเมื่อหนังเดินทางไปถึงช่วงท้ายๆ กลับให้ความสำคัญกับประเด็นที่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวมากกว่าเรื่องของพระเจ้าเสียอีก
หนังเล่นกับความสับสนซับซ้อนในจิตใจของโนอาห์ ที่เขาเชื่อมาตลอดว่าตัวเองคือผู้ได้รับมอบหมายภาระกิจสำคัญจากพระเจ้าในการสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากมนุษย์ หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งชั่วร้ายที่พระเจ้าต้องการล้างออกไปจากโลก
ซึ่งสถานการณ์ทั้งหลายได้ค่อยๆ พาให้โนอาห์ไปอยู่ในจุดที่ต้องเลือกระหว่าง การทำในสิ่งที่ชั่วร้ายขัดต่อศีลธรรมเพื่อให้ภาระกิจดังกล่าวสำเร็จลุล่วง หรือ เลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีงาม แต่ภาระกิจล้มเหลวและขัดต่อความเชื่อเรื่องพระเจ้าของตนเองที่มีมาตั้งแต่ต้น
ความย้อนแย้งที่ว่านี้นำไปสู่บทสรุปของหนังที่ชวนให้เราได้ขบคิดเกี่ยวกับการถือกำเนิดขึ้นและดำรงอยู่ของ มนุษย์/ความชั่วร้าย/ความดีงาม ที่มนุษย์ไม่เคยได้รับคำตอบว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม เหตุใดจึงใส่ความชั่วร้ายไว้ในตัวมนุษย์ระดับที่พอๆ กับความดีงาม ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของพระเจ้าที่จะใส่ความไม่สมบูรณ์แบบมาในตัวมนุษย์ หรือ มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความผิดพลาดของพระเจ้ากันแน่
พระเจ้าไม่เคยตอบคำถาม มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องตอบตัวเอง..
คะแนน : ★★★1/2
PS. ฝากแฟนเพจด้วยจ้า http://www.facebook.com/pages/เกรียนหนัง/112834835539518