สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เราเคยถูกพระอาจารย์สอนมาว่า คนเขามามือเปล่าเพราะเขาอาจไม่มีทรัพย์แต่เอาแรงมาช่วย
ขอให้อนุโมทนาด้วยใจเบิกบาน
และมีคำถามตามมาเหมือนที่ จขกท ติดใจว่ามามือเปล่า ไม่เห็นลงแรง มาเพื่อกิน(บางคนห่อกลับ)
พระอาจารย์สอนว่าให้ถือว่าเราได้ฝึกลดความตระหนี่ ทำทานกับคนเป็นเห็นผลต่อหน้าว่าเขาท้องอิ่ม
แล้วอนุโมทนาด้วยใจเบิกบานค่ะ
ขอให้อนุโมทนาด้วยใจเบิกบาน
และมีคำถามตามมาเหมือนที่ จขกท ติดใจว่ามามือเปล่า ไม่เห็นลงแรง มาเพื่อกิน(บางคนห่อกลับ)
พระอาจารย์สอนว่าให้ถือว่าเราได้ฝึกลดความตระหนี่ ทำทานกับคนเป็นเห็นผลต่อหน้าว่าเขาท้องอิ่ม
แล้วอนุโมทนาด้วยใจเบิกบานค่ะ
สมาชิกหมายเลข 1106164 ถูกใจ, แม่น้องทิคเก็ต ถูกใจ, เอะอะก็ป้า ถูกใจ, น้องปลาดาว ถูกใจ, darkheart ถูกใจ, จอมมารน้อยกังฟู ถูกใจ, เดี๋ยว !! มีเรื่องจะคุยด้วย ถูกใจ, Culinary Delight ถูกใจ, lekaleka ถูกใจ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
เราทำบุญบ้านเป็นงานเล็กๆมีแต่คนในครอบครัว ไม่ได้บอกเชิญเพื่อนบ้าน ดูน่าเกลียดมั้ยคะ
จริงๆแล้ว เราไม่ค่อยสนิทสนม หรือรู้จักคนละแวกบ้านเท่าไหร่ แทบไม่ได้คุย สนทนา เพราะทำแต่งาน เวลาเลิกงานก็ดึก จะเชิญก็ป้าข้างบ้านที่พูดคุยกันข้างกำแพงเป็นครั้งคราว และป้าเป็นคนมีน้ำใจกับเรามาก ทำกับข้าวเผื่อเรียกให้มาเอาที่ข้างบ้านเสมอ แต่กับบ้านอื่นก็ไม่เคยได้คุย แทบไม่รู้จักเลย และเวลามีบ้านแถวนั้นมีงานอะไร ก็ไม่ได้มาเชิญเราเช่นกัน
แต่พอวันงานคนแถวนั้นก็มาเต็มเลยนะคะ ท้งที่เราไม่ได้เชิญเลย ก็งงๆ นิดหน่อย เคยได้ยินรุ่นแม่ รุ่นยาย สอนว่า งานบุญถ้าไม่ได้รับเชิญ ไม่ควรไป เว้นงานศพ ไม่ต้องเชิญก็ไปได้ ก็จัดไปแบบ งงๆ เพิ่มค่าอาหารเลี้ยงแขกมาเกือบเท่าตัวที่ตั้งงบไว้ ครอบครัวเราที่มาจากกรุงเทพฯก็งงๆเช่นกัน นึกว่าจัดเฉพาะในครอบครัว แขกผู้ใหญ่ดูท่าทางอึดอัด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่รู้ว่าเรา หรือแขกไม่ได้เชิญ ทำไม่ถูกคะ