เกษม เพ็ญภินันท์ : การเป็นรัฏฐาธิปัตย์มโนเองไม่ได้ มติชนออนไลน์ อีก 1 มุมมอง เรื่องนี้ไม่จบ

กระทู้สนทนา
โดย เกษม เพ็ญภินันท์ ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการ
เปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
ได้ปราศรัยต่อผู้ชุมนุมว่า มติแกนนำ กปปส.ทั่วประเทศ คือเตรียมรวมพลต่อสู้ยืดเยื้ออย่างน้อย 15 วัน
เพื่อเผด็จศึก หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดรักษาการนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีจำนำข้าว
หรือ ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยจะเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯยึดอำนาจ
ตั้งรัฏฐาธิปัตย์ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯลงพระปรมาภิไธย โดย
นายสุเทพจะเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

คำปราศรัยนี้สร้างความสงสัยต่อผู้คนจำนวนมากถึงนัยยะต่างๆ ที่นายสุเทพจะตั้งรัฏฐาธิปัตย์ด้วย
ตนเอง แต่ที่แน่ๆ คำถามที่ทุกคนต้องการทำความเข้าใจให้แน่ใจก่อนก็คือ "อำนาจอธิปไตย"
"รัฏฐาธิปัตย์" "องค์รัฏฐาธิปัตย์" หรือ "องค์อธิปัตย์" คืออะไร

ความหมายที่กว้างที่สุดของคำว่า "อำนาจอธิปไตย" หรือ "sovereign power" คือ อำนาจสูงสุดที่
กำหนดสิทธิอำนาจและความชอบธรรมในการปกครองประเทศ ในขณะที่ "รัฏฐาธิปัตย์"
"องค์รัฏฐาธิปัตย์" "องค์อธิปัตย์" หรือ "sovereignty" คือบุคคลหรือกลุ่มคนที่ใช้สิทธิอำนาจดังกล่าว
อย่างชอบธรรมตามรูปแบบของรัฐและลักษณะการปกครอง

ในระบอบการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยแต่
เพียงพระองค์เดียว พระองค์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจสูงสุด ทรงเป็นรัฏฐาธิปัตย์และแหล่งที่มาของ
สิทธิอำนาจกับความชอบธรรมในโครงสร้างสังคมและระเบียบการปกครอง การจัดแบ่งชนชั้นและ
สถานภาพทางสังคมของคนกลุ่มต่างๆ ... แนวคิดนี้ถือกำเนิดมาจากเรื่องทวิกายาของพระมหา
กษัตริย์ในยุโรปยุคกลาง พระวรกายของพระองค์ มี 2 สถานะ สถานะแรกคือ corpus naturale หรือ
พระวรกายตามสภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตามสังขาร สถานะที่สองคือ corpus mysticum หรือ
เรือนร่างของสิทธิอำนาจที่พระมหากษัตริย์ทรงได้รับอาญาสิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าในการปกครอง
ราชอาณาจักรของพระองค์

แต่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ประชาชนที่เป็นสมาชิกของสังคมการเมืองทุกคนล้วนเป็น
เจ้าของอำนาจอธิปไตย แต่ไม่สามารถใช้อำนาจดังกล่าวตามอำเภอใจได้ ถ้ากระทำเช่นนั้นก็จะก่อ
ให้เกิดสภาวะอนาธิปไตย ทุกคนล้วนเป็นอิสระและเป็นเอกเทศต่อกัน ไม่สามารถปกครองกันได้
รัฐไม่มีอำนาจบังคับเหนือผู้ใดเลย ด้วยเหตุนี้ ระบอบประชาธิปไตยจึงออกแบบให้ประชาชนใช้อำนาจ
ของตนในการกำหนดทิศทางของสังคมร่วมกันผ่านตัวแทนทางการเมืองในรัฐสภาและสถาบัน
การเมืองอื่นๆ แต่บรรดาตัวแทนเหล่านี้ไม่มีสิทธิถือครองอำนาจอธิปไตยของประชาชนผู้เลือกพวก
เขาเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว หากเป็นเพียงผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนตามอำนาจหน้าที่ที่ได้ฉันทานุมัติ
มาเท่านั้น รวมทั้งยังไม่สามารถใช้อำนาจเกินขอบเขตที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

การประกาศตนเป็นร่างทรงของมวลมหาประชาชนของเลขาธิการ กปปส. จึงไม่สามารถแสดงตนเป็น
ตัวแทนของประชาชนผู้ใดเลย เพราะไม่มีกระบวนการอันชอบธรรมใดๆ ที่กำกับการเป็นตัวแทนของ
นายสุเทพ นอกจากการกล่าวอ้างหรือมโนความเป็นร่างทรงของมวลมหาประชาชนบนเวทีปราศรัย
กปปส.เท่านั้น นอกจากนี้ การประกาศตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ก็ยิ่งทำไม่ได้ภายใต้การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าประกาศออกมาก็ถือว่าตนคือผู้ใช้อำนาจอธิปไตย
ในฐานะประมุขแห่งรัฐในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และการสถาปนาอำนาจรัฐกับรูปแบบการ
ปกครองของรัฐ

สิ่งที่นายสุเทพกล่าวออกมานั้นถือว่า ทะลึ่ง ... ไม่เข้าใจความหมายขององค์รัฏฐาธิปัตย์แม้ว่าต่อมา
จะออกมาแก้เกี้ยวว่า "แค่สมมุติ" ก็ไม่สมควรและไม่ถูกต้อง

ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งประมุข
แห่งรัฐและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์ไม่สามารถกระทำการใดๆ ที่ขัดหรือมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ในฐานะประมุขแห่งรัฐ พระองค์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจนี้ในฐานะ
องค์รัฏฐาธิปัตย์

ในสภาวะปกติทั่วไป ประมุขแห่งรัฐไม่สามารถอ้างตนเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์และใช้อำนาจอธิปไตยได้
เพราะประมุขแห่งรัฐไม่ใช่เจ้าของอำนาจดังกล่าว แต่ต้องวางตนตามกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถ
กระทำการใดที่นอกเหนือหรือเหนือรัฐธรรมนูญได้

สภาวะเดียวเท่านั้นที่องค์รัฏฐาธิปัตย์จะใช้อำนาจดังกล่าวได้ก็คือ "สภาวะยกเว้น" (state of exception)
ในสภาวะนี้ องค์รัฏฐาธิปัตย์จะได้รับการละเว้นการบังคับกฎหมายหรือมีอำนาจอื่นใดมาบังคับได้ กล่าว
อีกนัยก็คือ ในสภาวะยกเว้น องค์รัฏฐาธิปัตย์ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ นอกจากการใช้อำนาจ
อธิปไตยแทนประชาชนในภารกิจที่สำคัญที่สุดของรัฐ เช่น การลงนามรับรองผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำทาง
การเมืองทั้ง 3 ฝ่าย การลงนามตรากฎหมาย การลงนามประกาศสงคราม สนธิสัญญา เป็นต้น แต่
ทั้งหมดนั้นจะกระทำได้ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเท่านั้น เพราะรัฐสภาเป็นสถาบันการเมือง
เดียวที่ยึดโยงกับเจ้าของอำนาจอธิปไตยมากที่สุด บุคคลที่ดำรงตำแหน่งในรัฐสภาคือตัวแทนที่
ประชาชนเลือกมาเพื่อให้ทำหน้าที่ต่างๆ ตามครรลองประชาธิปไตย

ดังนั้น คำปราศรัยของเลขาธิการ กปปส. จะตั้งรัฏฐาธิปัตย์จึงไม่ถือว่าเป็นการแสดงออกตามครรลอง
และวิถีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่เป็นการละเมิดสิทธิ
และเสรีภาพทางการเมืองของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยด้วยการสถาปนาอำนาจรัฐที่ไม่
ต่างไปจากการทำรัฐประหารโดยกำลังทหารในอดีต

ที่ตลกร้ายกว่านั้นก็คือ การกล่าวอ้างดังกล่าวถือว่าสวนทางกับชื่อเต็มของ กปปส. จนขำไม่ออก !!!!!!

(ที่มา:มติชนรายวัน 16 เมษายน 2557)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1397663222&grpid=&catid=02&subcatid=0207


ชื่อเต็ม ของกปปส. ...คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
...หึ หึ  ก่อนจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์  เลขาธิการกปปส.  ขอยึด รัฏฐาธิปัตย์  มาถือเอาไว้ก่อน  แล้วจะ
มอบ ประชาธิปไตยให้  เมื่อเห็นสมควร    ใครบอกว่าไม่ใช่ แบบนี้ออกมาบอกกันได้เลย
แหม  ...  อยากชวน  คุณ  แฟนคลับ  กำนัน   คุยด้วยจังเรื่องนี้   จะมีใครมาไหม ?????  ยิ้ม

สาวแว่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่