สวัสดีค่ะสาวๆ
วันนี้นุ้ยจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ต้องจำไปตลอดชีวิตเลย
มันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่นะคะถ้าไม่เคยประสบด้วยตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิ่งเข้าห้อง ICU อะโน๊ะ
เอาล่ะค่ะเรื่องที่นุ้ยว่านี้ก็คือประสบการณ์ "หวิดบอด" เพราะ "ความโง่" ของตัวเองแท้ๆ สาเหตุก็เพราะว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วนุ้ยค่อนข้างยุ่งเลยค่ะ เพราะต้องวิ่งไปงานหลายที่ จะให้ขับรถในกรุงเทพช่วงเวลาที่รถติดแสนติด ก็คงไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องใช่ไหมล่ะคะ ส่วนถ้าจะให้ขึ้น BTS หรือ MRT ยังไงก็ต้องนั่ง "วินมอเตอร์ไซค์" อยู่ดี นุ้ยเลยเลยเลือกใช้บริการพี่วินในการเดือนทางในวันนั้นทั้งวันค่ะ และเผอิญว่าวันนั้นนุ้ยลืมพก "แว่นกันแดด" ติดตัวไปด้วย ทำให้ตาของเราต้องโดนฝุ่น โดนลมกระจาย
ช่วงแรกๆก็ไม่มีการแสดงอาการนะคะ จะรู้สึกได้ก็แค่ตาแห้งๆ ... และวันนั้นก็ลืมพกน้ำตาเทียมไปด้วยค่ะ (บอกแล้วว่าวันนั้นโง่จริงๆ) นุ้ยก็เลย เออ...ช่างมันเถอะเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ
พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บ รีบโยนคอนแทคทิ้งเลย เพราะตาแดงมากกกกกกกก แห้งสุดๆ จากตาสวยๆ เหมือนรูปข้างล่างนี้
กลายมาเป็นแบบนี้เลยค่ะ!!!!
วันที่ 1
ตาแดงมากจนแทบจะลืมตาไม่ได้ จนต้องใช้มือถ่างตาเพื่อถ่ายอาการของตาเก็บไว้
อยากบอกว่าวันแรกนั้น นุ้ยยังไม่ไปพบหมอนะคะ เพราะคิดว่าอาการคงจะค่อยๆทุเลาไปเองเหมือนตอนเด็กๆที่เคยเป็น แต่ที่ไหนได้ อาการกลับรุนแรงกว่าที่คิดไว้ เพราะครั้งงนี้เราใส่ Big Eyes ด้วย เลยทำให้ตาแห้งมากๆ วันนั้นซื้อยาล้างตามาล้างเอง ตอนล้างนี่รู้สึกเจ็บมากคิดว่าตัวเอง "ตาบอด" ชัวร์
วันที่ 2
อาการดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ ความแดงลดลงบ้าง แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ตามปกติ วันนี้ได้ไปหาคุณหมอแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าโชคดีมากที่นุ้ยไม่ขยี้ตา ไม่งั้นความเสี่ยงสูงที่จะตาบอด
วันที่ 3
ลืมตาได้บ้างเล็กน้อย แต่น้ำตาไหลตลอดเลยนะคะ ที่สำคัญโดยแสงไม่ได้แม้แต่น้อยเลยค่ะ จะปวดแสบปวดร้อนมาก
[วิธีการรักษา]
คุณหมอได้ให้ยาหยอดตานุ้ยมา 2 ประเภทดังนี้ค่ะ
ยาหยอดตาเพื่อไม่ให้ตาเกิดความระคายเคือง
ยาหยอดตาเพื่อรักษาความชุ่มชื่น
รวมทั้งคุณหมอมีคำแนะนำเบื้องต้นในการพักฟื้นดังนี้ค่า
ห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
หลีกเลี้ยงแสงแดดจ้าๆ และควรใส่แว่นกันแดดเมื่อจำเป็นที่ต้องเผชิญกับแสงแดด
อย่าให้ดวงตาปะทะกับลม
ห้ามขยี้ตา
ควรดื่มน้ำเยอะๆ
ตาอักเสบมีสาเหตุแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละท่านนะคะ แต่สำหรับใน case เดียวกันแบบนุ้ย คือ ต้องใส่คอนแทคเลนส์เพราะสายตาสั้น ต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพราะ เมืองหลวงที่รถติดแบบนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ นุ้ยมีวิธีการปกป้องดวงตา มาฝากเพื่อนๆดังนี้ค่ะ
ควรใส่แว่นในการนั่งวินแทนการใส่คอนแทคเลนส์ หรือถ้าจำเป็นจริงๆก็ควรใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันลมและฝุนละออง
ควรพก Eye Drop หรือน้ำตาเทียมติดตัวไปด้วยทุกที่เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง
เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบถอดคอนแทคเลนส์ออกและล้างตาให้สะอาดค่ะ
เรามีดวงตาเพียงคู่เดียว ดังนั้นควรถนอมเขาให้ดีที่สุดนะคะ จมูกแบน นมแบน ตาชั้นเดียว หน้าเหลลี่ยม หัวล้าน ยังศัลยกรรมได้ แต่ตานี่บอดแล้วบอดเลยนะคะ (ถึงแม้จะมีตาปลอมแล้วก็เหอะ แพงซะขนาดนั้น)
สาวๆท่านใดที่เคยหวิดบอดเหมือนนุ้ยบ้าง ลองแชร์ประสบการณ์กันเข้ามาน๊า จะได้เป็นประโยชน์กับสาวๆท่านอื่นด้วยค่ะ
Love~
"หวิดบอด" เพราะ "ห่วงสวย"
สวัสดีค่ะสาวๆ
วันนี้นุ้ยจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ต้องจำไปตลอดชีวิตเลย
มันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่นะคะถ้าไม่เคยประสบด้วยตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิ่งเข้าห้อง ICU อะโน๊ะ
เอาล่ะค่ะเรื่องที่นุ้ยว่านี้ก็คือประสบการณ์ "หวิดบอด" เพราะ "ความโง่" ของตัวเองแท้ๆ สาเหตุก็เพราะว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วนุ้ยค่อนข้างยุ่งเลยค่ะ เพราะต้องวิ่งไปงานหลายที่ จะให้ขับรถในกรุงเทพช่วงเวลาที่รถติดแสนติด ก็คงไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องใช่ไหมล่ะคะ ส่วนถ้าจะให้ขึ้น BTS หรือ MRT ยังไงก็ต้องนั่ง "วินมอเตอร์ไซค์" อยู่ดี นุ้ยเลยเลยเลือกใช้บริการพี่วินในการเดือนทางในวันนั้นทั้งวันค่ะ และเผอิญว่าวันนั้นนุ้ยลืมพก "แว่นกันแดด" ติดตัวไปด้วย ทำให้ตาของเราต้องโดนฝุ่น โดนลมกระจาย
ช่วงแรกๆก็ไม่มีการแสดงอาการนะคะ จะรู้สึกได้ก็แค่ตาแห้งๆ ... และวันนั้นก็ลืมพกน้ำตาเทียมไปด้วยค่ะ (บอกแล้วว่าวันนั้นโง่จริงๆ) นุ้ยก็เลย เออ...ช่างมันเถอะเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ
พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บ รีบโยนคอนแทคทิ้งเลย เพราะตาแดงมากกกกกกกก แห้งสุดๆ จากตาสวยๆ เหมือนรูปข้างล่างนี้
กลายมาเป็นแบบนี้เลยค่ะ!!!!
วันที่ 1
ตาแดงมากจนแทบจะลืมตาไม่ได้ จนต้องใช้มือถ่างตาเพื่อถ่ายอาการของตาเก็บไว้
อยากบอกว่าวันแรกนั้น นุ้ยยังไม่ไปพบหมอนะคะ เพราะคิดว่าอาการคงจะค่อยๆทุเลาไปเองเหมือนตอนเด็กๆที่เคยเป็น แต่ที่ไหนได้ อาการกลับรุนแรงกว่าที่คิดไว้ เพราะครั้งงนี้เราใส่ Big Eyes ด้วย เลยทำให้ตาแห้งมากๆ วันนั้นซื้อยาล้างตามาล้างเอง ตอนล้างนี่รู้สึกเจ็บมากคิดว่าตัวเอง "ตาบอด" ชัวร์
วันที่ 2
อาการดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ ความแดงลดลงบ้าง แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ตามปกติ วันนี้ได้ไปหาคุณหมอแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าโชคดีมากที่นุ้ยไม่ขยี้ตา ไม่งั้นความเสี่ยงสูงที่จะตาบอด
วันที่ 3
ลืมตาได้บ้างเล็กน้อย แต่น้ำตาไหลตลอดเลยนะคะ ที่สำคัญโดยแสงไม่ได้แม้แต่น้อยเลยค่ะ จะปวดแสบปวดร้อนมาก
[วิธีการรักษา]
คุณหมอได้ให้ยาหยอดตานุ้ยมา 2 ประเภทดังนี้ค่ะ
ยาหยอดตาเพื่อไม่ให้ตาเกิดความระคายเคือง
ยาหยอดตาเพื่อรักษาความชุ่มชื่น
รวมทั้งคุณหมอมีคำแนะนำเบื้องต้นในการพักฟื้นดังนี้ค่า
ห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
หลีกเลี้ยงแสงแดดจ้าๆ และควรใส่แว่นกันแดดเมื่อจำเป็นที่ต้องเผชิญกับแสงแดด
อย่าให้ดวงตาปะทะกับลม
ห้ามขยี้ตา
ควรดื่มน้ำเยอะๆ
ตาอักเสบมีสาเหตุแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละท่านนะคะ แต่สำหรับใน case เดียวกันแบบนุ้ย คือ ต้องใส่คอนแทคเลนส์เพราะสายตาสั้น ต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพราะ เมืองหลวงที่รถติดแบบนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ นุ้ยมีวิธีการปกป้องดวงตา มาฝากเพื่อนๆดังนี้ค่ะ
ควรใส่แว่นในการนั่งวินแทนการใส่คอนแทคเลนส์ หรือถ้าจำเป็นจริงๆก็ควรใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันลมและฝุนละออง
ควรพก Eye Drop หรือน้ำตาเทียมติดตัวไปด้วยทุกที่เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง
เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบถอดคอนแทคเลนส์ออกและล้างตาให้สะอาดค่ะ
เรามีดวงตาเพียงคู่เดียว ดังนั้นควรถนอมเขาให้ดีที่สุดนะคะ จมูกแบน นมแบน ตาชั้นเดียว หน้าเหลลี่ยม หัวล้าน ยังศัลยกรรมได้ แต่ตานี่บอดแล้วบอดเลยนะคะ (ถึงแม้จะมีตาปลอมแล้วก็เหอะ แพงซะขนาดนั้น)
สาวๆท่านใดที่เคยหวิดบอดเหมือนนุ้ยบ้าง ลองแชร์ประสบการณ์กันเข้ามาน๊า จะได้เป็นประโยชน์กับสาวๆท่านอื่นด้วยค่ะ
Love~