DTAC.ปกรณ์ ระบุ ลูกค้าส่วนใหญ่ทั่วประเทศใช้ระบบเติมเงิน มีจำนวน 25-26 ล้านหมายเลข คิดเป็น 80-90% ส่วน 10-20%เป็นรายเดือน

DTAC.ปกรณ์ ระบุ ลูกค้าส่วนใหญ่ทั่วประเทศใช้ระบบเติมเงิน มีจำนวน 25-26 ล้านหมายเลข คิดเป็น 80-90% ส่วน 10-20% หรือประมาณกว่า 3 ล้านหมายเลข เป็นรายเดือน

ประเด็นหลัก


ด้าน นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มองว่าการแข่งขันของโปรโมชั่นแพ็กเกจต้องดุเดือดอย่างแน่นอน ทุกค่ายก็ยังเน้นที่ราคาของเครื่องเป็นจุดขาย ซึ่งลูกค้าเองก็ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลักอยู่แล้ว จึงสนใจตัวเครื่อง ซึ่งลูกค้าดีแทคเองส่วนใหญ่ก็ยังคงสนใจในแพ็กเกจที่เป็นสมาร์ทโฟน โดยเรามีแพ็กเกจที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ เลือกจ่ายได้ตามที่ต้องการใช้งาน อาทิ แพ็กเกจ สมาร์ทโฟน มอร์ช้อยซ์ (Smartphone More Choice) รองลงมาจะเป็นแพ็กเกจที่บวกกับตัวเครื่อง
    ทั้งนี้ แพ็กเกจดังกล่าวมีให้เลือกหลายราคา อาทิ Smartphone More Choice 429 และ 629 รับฟรีแพ็กเกจเสริม 3G Speed Topping รับสิทธิ์ใช้งานบนเทคโนโลยี 3G ที่ความเร็งสูงสุดถึง 42 Mbps เพิ่มขึ้นอีก 1 GB นาน 6 รอบบิล หรือเฉพาะลูกค้าใหม่ที่สมัครแพ็กเกจหลัก Smartphone More Net 999 รับสิทธิพิเศษหลังจากใช้งาน dtac internet ครบ 3GB จะได้รับสิทธิ์ใช้งานเพิ่มอีก 3GB ต่อรอบบิล รวม 6GB นาน 12 รอบบิล
    สำหรับดีแทค ลูกค้าส่วนใหญ่ทั่วประเทศใช้ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด มีจำนวน 25-26 ล้านหมายเลข คิดเป็น 80-90% ส่วน 10-20% หรือประมาณกว่า 3 ล้านหมายเลข เป็นระบบรายเดือน หรือโพสต์เพด โดยการเจริญเติบโตของดีแทคส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้ารายเดือน แต่แพ็กเกจรายเดือนถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่มีสมาร์ทโฟนก็พอใจในแพ็กเกจรายเดือนมากกว่า อีกทั้งตอนนี้ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นของรายเดือนมีราคาถูกมากหากเปรียบเทียบกับ 2 ปีก่อน
    นอกจากนี้ เขายังมองว่าการประมูลที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ทั้งในคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น  อาจยังไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้มีการออกโปรโมชั่นมาสนับสนุนในช่วงนี้ เพราะอย่างไรแล้ว คนก็ยังใช้เพื่อเข้าอินเทอร์เน็ตเหมือนเดิม ทั้งนี้ก็ต้องทราบผลประมูลก่อน และจะต้องมีช่วงเวลาก่อนมอบใบอนุญาต การเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเชื่อว่าการแข่งขันที่ดุเดือดของโปรโมชั่นน่าจะเป็นช่วงเวลาในครึ่งปีหลัง ซึ่งยังเป็นแนวทางเดิม และอาจจะมีแผ่วลงในปีหน้าก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเพิ่งเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน










http://www.thaipost.net/news/150414/88971




______________________________________

ค่ายมือถือฮิตขายเครื่องถูกบวกแพ็กเกจดาต้า
   จากอัตราการเติบโตของผู้ใช้บริการ 3 จี ที่ผ่านมา กระตุ้นให้ตลาดสมาร์ทโฟนของไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก ยิ่งมีผู้ใช้บริการมากขึ้น โปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ของแพ็กเกจมือถือก็ยิ่งหลากหลายขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการที่ต่างกัน จากเดิมที่จะเห็นแพ็กเกจราคาค่าบริการเสียงกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือดาต้า ที่มีการแข่งขันระหว่างค่ายมือถือแล้ว ตอนนี้กลยุทธ์หลักที่แต่ละค่ายใช้กันคือ ราคาเครื่องไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออัจฉริยะอื่นๆ แต่ละค่ายพากันจัดแพ็กเกจที่ไม่ต่างกับการแจกฟรี
    ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการผูกรวมแพ็กเกจการใช้งานกับการขายพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อ กระตุ้นให้คนสนใจที่จะใช้สมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะจัดโปรโมชั่นกับแบรนด์มือถือที่ติดอันดับต้นๆ ของคนใช้งานมากที่สุดแล้ว บางค่ายก็ใช้วิธีเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์มือถือที่ทำสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยส่งเสริมยอดขาย มีแพ็กเกจเฉพาะสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนของแบรนด์นี้
    นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส มองว่า ในครึ่งปีหลังการแข่งขันในเรื่องโปรโมชั่นของแพ็กเกจโทรศัพท์มือถือจะมีมากขึ้น ทั้งการแข่งขันด้านราคาและสิทธิพิเศษต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ 1.การขายแพ็กเกจค่าโทร.ฟรีและลดราคามือถือ 2.แพ็กเกจเก็บเงินค่าเครื่อง แต่ให้ใช้งานฟรีล่วงหน้า 3.การขายแพ็กเกจที่มีแอพพลิเคชั่นเสริมบวกเข้าไปด้วย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ชอบการลดราคามือถือมากกว่าการใช้งานฟรี ทั้งๆ ที่ส่วนต่างของแพ็กเก็จมีไม่มากนัก
    ทั้งนี้ ทิศทางการออกโปรโมชั่นในครึ่งปีหลังส่วนใหญ่เน้นภายใต้เงื่อนไขการย้ายค่าย หรือการอัพเกรดจากการใช้ 2 จี มาเป็น 3 จี การทำสัญญาบังคับว่าจะต้องใช้งานกี่รอบบิลนั้นจะไม่เข้มข้นมากเหมือนที่ผ่านมา
    นายฐิติพงศ์เล่าว่า เราจะได้เห็นเซ็กเมนต์ซิมการ์ด หรือซิมการ์ดที่มีแพ็กเกจเฉพาะทางมากขึ้น อาทิ ซิมการ์ดสำหรับกีฬา สำหรับสุขภาพ สำหรับภาพยนตร์ เนื่องจากผู้บริโภคใช้แอพพลิเคชั่นมากขึ้น ผู้ประกอบการเองก็ต้องการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า การออกแอพพลิเคชั่นจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งในการทำการตลาดของเอไอเอสเอง ก็มีแรบบิทซิมการ์ด เอ็มเปย์ซิมการ์ด มองว่าการทำตลาดรูปแบบ 3 จี แฮนด์เซต (3G Handset) *999# ที่เรามีอยู่ จะตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีในยุคนี้
    ทั้งนี้ โปรแกรมใหม่ *999# โทร.ออกฟรี เป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าปัจจุบันทั้งฐานที่มีอยู่กว่า 39 ล้านราย ให้ได้รับประโยชน์โดยตรง สามารถเลือกโปรโมชั่นหลากหลายได้เอง ทั้งส่วนลดค่าเครื่อง, เงินคืนค่าโทร., ส่วนลดค่าบริการ และโบนัสโทร.ฟรี ซึ่งบางครั้งจะเสนอให้กับลูกค้าทั้งฐาน หรืออาจจะเสนอสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม และจะปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา
    นอกจากนี้ เขายังมองว่าภายใน 2 ปี ลูกค้าที่ใช้บริการแบบรายเดือน หรือโพสต์เพด จะต้องมีจำนวนมากกว่า ลูกค่าในระบบเติมเงินแน่นอน โดยตอนนี้เอไอเอสมีลูกค้าในระบบโพสต์เพดอยู่ที่กว่า 4,000,000 เลขหมาย
    ด้าน นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มองว่าการแข่งขันของโปรโมชั่นแพ็กเกจต้องดุเดือดอย่างแน่นอน ทุกค่ายก็ยังเน้นที่ราคาของเครื่องเป็นจุดขาย ซึ่งลูกค้าเองก็ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลักอยู่แล้ว จึงสนใจตัวเครื่อง ซึ่งลูกค้าดีแทคเองส่วนใหญ่ก็ยังคงสนใจในแพ็กเกจที่เป็นสมาร์ทโฟน โดยเรามีแพ็กเกจที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ เลือกจ่ายได้ตามที่ต้องการใช้งาน อาทิ แพ็กเกจ สมาร์ทโฟน มอร์ช้อยซ์ (Smartphone More Choice) รองลงมาจะเป็นแพ็กเกจที่บวกกับตัวเครื่อง
    ทั้งนี้ แพ็กเกจดังกล่าวมีให้เลือกหลายราคา อาทิ Smartphone More Choice 429 และ 629 รับฟรีแพ็กเกจเสริม 3G Speed Topping รับสิทธิ์ใช้งานบนเทคโนโลยี 3G ที่ความเร็งสูงสุดถึง 42 Mbps เพิ่มขึ้นอีก 1 GB นาน 6 รอบบิล หรือเฉพาะลูกค้าใหม่ที่สมัครแพ็กเกจหลัก Smartphone More Net 999 รับสิทธิพิเศษหลังจากใช้งาน dtac internet ครบ 3GB จะได้รับสิทธิ์ใช้งานเพิ่มอีก 3GB ต่อรอบบิล รวม 6GB นาน 12 รอบบิล
    สำหรับดีแทค ลูกค้าส่วนใหญ่ทั่วประเทศใช้ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด มีจำนวน 25-26 ล้านหมายเลข คิดเป็น 80-90% ส่วน 10-20% หรือประมาณกว่า 3 ล้านหมายเลข เป็นระบบรายเดือน หรือโพสต์เพด โดยการเจริญเติบโตของดีแทคส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้ารายเดือน แต่แพ็กเกจรายเดือนถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่มีสมาร์ทโฟนก็พอใจในแพ็กเกจรายเดือนมากกว่า อีกทั้งตอนนี้ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นของรายเดือนมีราคาถูกมากหากเปรียบเทียบกับ 2 ปีก่อน  
    นอกจากนี้ เขายังมองว่าการประมูลที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ทั้งในคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น  อาจยังไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้มีการออกโปรโมชั่นมาสนับสนุนในช่วงนี้ เพราะอย่างไรแล้ว คนก็ยังใช้เพื่อเข้าอินเทอร์เน็ตเหมือนเดิม ทั้งนี้ก็ต้องทราบผลประมูลก่อน และจะต้องมีช่วงเวลาก่อนมอบใบอนุญาต การเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเชื่อว่าการแข่งขันที่ดุเดือดของโปรโมชั่นน่าจะเป็นช่วงเวลาในครึ่งปีหลัง ซึ่งยังเป็นแนวทางเดิม และอาจจะมีแผ่วลงในปีหน้าก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเพิ่งเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน
    ส่วนค่ายทรู การออกแพ็กเกจที่เห็นชัดเจนในช่วงที่ผ่านมานั้น จะออกโปรโมชั่นโดยอิงพรีเซนเตอร์ต่างประเทศเป็นหลัก  เพื่อดึงความสนใจกลุ่มแฟนคลับ อาทิ การทำโปรโมชั่น ทรูบียอนด์ในปีที่ผ่านมา มีเกิร์ลเจเนอเรชั่น วงนักร้องหญิงของเกาหลีเป็นจุดขาย หลังจากนั้นลูกค้าก็จะได้รับสิทธิพิเศษอีกหลายอย่าง ทั้งบัตรชมคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง
    เมื่อไม่นานมานี้ ทรูมูฟเอชได้ออกโปรโมชั่นแรงแซงทุกค่าย โดยเป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ในโปรโมชั่นแพ็กเกจของไอโฟน 5 ซี (iPhone 5C) ที่รุ่น 16GB จากราคาเครื่องเปล่า 20,700 บาท ราคาพร้อมแพ็กเกจปกติ 13,700 บาท ในรุ่น 32GB จากราคาเครื่องเปล่า 24,500 บาท ราคาพร้อมแพ็กเกจปกติ 17,500 บาท ซึ่งมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นลูกค้าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิมมาใช้ทรูมูฟเอชแบบรายเดือน หรือลูกค้าทรูมูฟเอชแบบเติมเงิน เปลี่ยนมาใช้แบบรายเดือนในนามบุคคลธรรมดา ระหว่างวันที่ 13 ก.พ.-31 มี.ค.57 ที่ผ่านมา แล้วเลือกใช้แพ็กเกจ iSmart699 หรือ iSmart799 ได้ โดยต้องอยู่ในสัญญานาน 12 เดือน
    การขายแพ็กเกจบวกเครื่องที่ราคาถูกลงจึงเป็นเทรนด์จัดโปรโมชั่นของค่ายมือถือในช่วงปีนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนย้ายค่ายก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเช่นกันสำหรับคนที่เปลี่ยนมือถือตามกระแส.

http://www.thaipost.net/news/150414/88971
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  3G 4G Mobile Operator โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่