"วงโยธวาทิต" ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยวงโยธวาทิตมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1. ประเภท Show Band ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใช้ทั้งเครื่องเป่าและกลอง โดยวงประเภทนี้จะใช้คนเป็นจำนวนมาก 2. ประเภท Drum Line เป็นการแสดงที่มีเฉพาะกล่องและเครื่องกระทบขอบสนาม ซึ่งจะมีการถือธงร่วมด้วย 3. ประเภท Drum Battle เป็นการนำทีมกลองมาสู้กัน และ 4. ประเภท Symphonic Band เป็นการนั่งบรรเลง
จริงหรือไม่? ที่วงโยธวาทิตทุกวงมีคนนอกเสมอ
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมวงโยธวาทิต ต้องมีคนนอกเข้ามาเล่นในนามของโรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ แบบนี้ทำได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ประสงค์ออกนามรายนี้ ก็ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า การตั้งวงโยธวาทิตนั้น ทุกวงในประเทศไทยต่างมีคนนอกเข้ามาผสมด้วยเสมอ
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็เพราะว่า...การแข่งขันในต่างประเทศ หรือระดับนานาชาติ เป็นการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูง และส่วนใหญ่เป็นแข่งขันแบบ Open Class คือ ไม่จำกัดว่า ทุกคนจะต้องมาจากที่เดียวกัน เนื่องจากนักดนตรีในต่างประเทศ ต่างเป็นนักดนตรีมืออาชีพ ที่มารวมตัวกันในนามของเอกชน แตกต่างจากวงในประเทศไทยที่เริ่มต้นมาจากโรงเรียน
"บ้านเรา ถ้าเป็นวงโยธวาทิต ต้องเกิดจากโรงเรียน ตอนแข่งในประเทศ ต้องเป็นนักเรียนในโรงเรียนนั้น แต่พอไปต่างประเทศ ก็ต้องดึงเอาศิษย์เก่า หรือนักดนตรีที่มีประสบการณ์ มีฝีมือมาช่วยกัน ไม่มีวงไหน ที่ไปต่างประเทศแล้วไม่เอาคนนอกเล่น อย่างสุรนารีก็มี ก็เอาศิษย์เก่าไป ดึงกลับมาเล่น และต่างประเทศก็ไม่จำกัดอายุ บางวงมีการออดิชั่น เพื่อคัดคนเข้ามาเล่นในวง อย่างสตรีวิทยา 2 เขาก็คัดคนเข้ามาเล่นนะ และเขาไปแข่งในระดับที่สูงมาก คือ World Class ซึ่งบางวง World Class ในประเทศ แต่พอไปต่างประเทศ อาจจะเป็น Open Class และต้องไม่ลืมว่า วงโยธวาทิต ไม่มีตัวสำรอง และการแข่งขันในแต่ละประเภท ใช้จำนวนคนไม่เท่ากัน ซึ่งก็มีการนำเอาวงนั้น วงนี้ ไปเปรียบเทียบกับวงที่เป็นกระแส ซึ่งไม่ถูกต้อง ต้องทำความเข้าใจใหม่"
เมื่อถามถึงสาเหตุว่า...ทำไมในประเทศไทยจึงตั้งวงในนามโรงเรียนจำนวนมาก ผู้ควบคุมวงผู้นี้ ตอบว่า "เพราะการของบประมาณสนับสนุนในนามของโรงเรียนนั้น ของ่ายกว่า เพราะว่าเป็นเด็กนักเรียน นอกจากโรงเรียนนั้นๆ จะเป็นโรงเรียนเอกชน ที่พ่อแม่พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายของลูกตัวเองเพื่อไปแข่งในต่างประเทศ ถ้าถามว่า ในประเทศมีวงเอกชนที่ทำวงเองจริงๆ มีไหม ที่ไม่ใช่นามของโรงเรียน มันก็มี เช่น วงของสยามมิตร หรือของเบียร์สิงห์ ที่มีวงเยาวชนสิงห์ เป็นต้น"
เจาะงบประมาณ "วงโยธวาทิต" กับผลประโยชน์ที่ทับซ้อน?
ผู้ควบคุมวงประสบการณ์ 15 ปีคนนี้ อธิบายอย่างใจเย็น ถึงการของบประมาณสนับสนุนการแข่งขัน เฉพาะโรงเรียนรัฐบาล โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การของบประมาณจากทางโรงเรียน และกระทรวงศึกษาธิการ และส่วนที่ 2 คือ การของบจากบริษัทเอกชน ซึ่งเงินจำนวนนี้ จะเป็นเงินที่ใช้ในระหว่างการเดินทางแข่งขัน และยอมรับว่า การตั้งงบประมาณนั้น จะตั้งอย่างเต็มที่ ทั้งงบของการเช่าเครื่องดนตรี งบการทัศนศึกษา แต่ทั้งนี้ เมื่อมีการพิจารณาและหั่นงบประมาณลง ก็จะต้องยอมรับเลขนั้นๆ หากไม่เพียงพอ ก็ขอจากบริษัทเอกชนเช่นกัน โดยงบประมาณเบื้องต้น ส่วนใหญ่แต่ละโรงเรียน จะมีการสนับสนุนเบื้องต้นก่อน 2-3 ล้านบาท
ข้าวกล่องที่สมาชิกวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 รับประทานระหว่างเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
"การขอเงินสนับสนุนวงนั้น วงผมเองก็ขอเงินจากเอกชน ทั้งเครื่องดื่ม ธนาคารต่างๆ เบียร์สิงห์ ไทยเบฟเวอเรจ กระทิงแดง เอาง่ายๆ ว่า ไม่มีโรงเรียนไหนที่มีงบเลย ผอ.ไม่สามารถให้ได้ ก็ต้องหางบนั่นแหละ แต่อยู่ที่ว่าใครจะหาได้เท่าไหร่ มีคนรู้จักในบริษัทใหญ่ไหม ก็เท่านั้น ถ้าไม่มีใครรู้จักก็ส่งๆ ไปขอ อย่างวงผมเนี่ย เขาก็มองข้ามไปเลย ผมเข้าใจวงที่เป็นข่าวนะ มันฉุกละหุกจริงๆ แต่เรื่องวิธีการ ผมไม่ขอออกความเห็น เพียงแต่ว่า อยากให้เข้าใจว่า แต่ละวงมีความตั้งใจ และซุ่มซ้อมมานาน บางวงซ้อมเป็นปี เพื่อแข่งขันเพียง 8 นาที 10 นาทีเท่านั้น ต้องกินนอนที่โรงเรียน การแข่งขันมีความสำคัญกับหลายคนในวง บางคนจบไป อาจนำฝีมือ ประสบการณ์ ไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองได้ หรือบางคนอาจไปเป็นครู หรือไม่ก็เอาประวัติไปขอทุนเรียนต่อได้"
สมาชิกวงโยธวาทิตแสดงความดีใจ หลังทราบผลการแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รางวัลเหรียญทอง
นอกเหนือจากประเด็นการของบประมาณแล้ว ยังมีเรื่อง "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ที่เกี่ยวกับการซื้อ-เช่าเครื่องดนตรี เพื่อใช้ในการแข่งขันในต่างประเทศด้วย ซึ่งผู้ควบคุมรายนี้ก็ยอมรับว่า มีบางวงที่คนในวงโยฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประสานซื้อขายเครื่องดนตรีให้กับวงโยธวาทิตจริง แต่สาเหตุก็คือ เพื่อให้ได้เครื่องดนตรีที่มีคุณภาพ และแข่งขันได้ในระดับสากลจริงๆ
"ถ้าหากมองว่า เป็นธุรกิจก็มองได้นะ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกวง เพราะบางทีการแบกเครื่องดนตรีใหญ่ๆ เพื่อขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ซึ่งทำให้เสียค่าขนส่งจำนวนมาก หลายวงเลือกวิธีการประสานกับแบรนด์เครื่องดนตรีต่างประเทศ ขอยืมเครื่อง ก็เป็นการช่วยโปรโมตเครื่องดนตรีของเขาด้วย ผมบอกเลยว่า ถ้าเรารอการซื้อเครื่องดนตรีจากส่วนราชการ ก็ต้องทำหนังสือจัดซื้อ เปิดซองประมูลสินค้า ก็จะมีการลดสเปกของเครื่องดนตรีให้ต่ำ ซึ่งคุณภาพไม่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ เช่น อาจได้ทรัมเป็ตตัวละ 6,000 บาท ซึ่งในการแข่งขัน เราใช้เครื่องละเป็น 100,000 บาท"
สภาพห้องนอนของสมาชิกวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ระหว่างเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
แข่งวงโยธวาทิต คือ การแข่งกับตัวเอง!
สำหรับการแข่งขันวงโยธวาทิตนั้น แม้จะมีการจัดอันดับที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 หรือได้เหรียญทอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่หลักใหญ่ใจความสำคัญของการแข่งขัน คือ การแข่งกับตัวเอง และโชว์ศักยภาพที่ทุกคนในทีมได้สร้างสรรค์ และซุ่มฝึกซ้อมมาเป็นเวลานาน หากสามารถทำได้ตามมาตรฐานในคลาสที่วงนั้นๆ ไปแข่ง ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จ แต่ทั้งนี้ เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลง ก็จะมีการจัดลำดับที่เรียงตามคะแนนอีกครั้ง โดยหากเปรียบเทียบกับการให้เกรด A B C D โดยเราจะได้เกรด A ก็ต่อเมื่อ เราได้คะแนน 80 คะแนนขึ้นไป ซึ่งในชั้นเรียนนั้น เพื่อนของเราที่มีคะแนน 86 90 87 88 หรือ 100 ก็จะได้เกรด A เช่นกัน สุดท้ายนำคะแนนมาเรียงลำดับกันอีกครั้ง
วอนสังคมแยกแยะ 'ความตั้งใจของเด็ก' และ 'การทำงานของผู้ใหญ่'
แม้วันนี้ "ดราม่าวงโยฯ" อาจเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ผู้ควบคุมคนนี้ทิ้งท้ายว่า ยังขอให้สังคมแยกแยะประเด็น เรื่องของการบริหารจัดการของผู้บริหาร เรื่องคลิปเสียง และความตั้งใจในการฝึกซ้อมของเด็กๆ ออกจากกัน เพราะหากมองดูในโลกอินเทอร์เน็ต ก็พบว่า มีการด่าทอกันมากเกินเหตุ และไม่มองถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากนัก จนทำให้เรื่องราวบานปลาย ขณะเดียวกัน ในส่วนการดำเนินการตรวจสอบและสอบสวน ก็ดำเนินการต่อไปตามข้อเท็จจริง
เป็นไปได้หรือไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการให้ "คุณค่า" ของการแข่งขันที่ไม่ตรงกัน จนทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน โดยกลุ่มหนึ่ง มีความตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เป็นระยะเวลานาน เพื่อชื่อเสียง และประสบการณ์ที่สามารถนำไปต่อยอดโอกาสในชีวิต จึงจะพลาดโอกาสครั้งนี้ไม่ได้! จนส่งผลให้เลือกวิธีการที่ไม่สมควร ขณะที่อีกกลุ่มมองว่า วิธีการอันได้มาซึ่งโอกาส ควรจะมีศักดิ์ศรี และน่าภาคภูมิใจมากกว่านี้!
ทั้งหมดนี้ ยังคงเป็นสิ่งที่เราทุกคนในสังคม จะต้องทำความเข้าใจ และเรียนรู้กันไปพร้อมๆ กัน...เข้าใจตรงกันนะ!!!
http://thairath.co.th/content/415702
สำหรับประสบการณ์โดยตรงของผมที่รู้จักพี่ที่อยู่โรงเรียนอื่นที่ไม่ใช่สตรีวิทยา2 ก็เคยบอกว่า การแข่งนั้นบางโรงเรียนไม่สามารถหาคนแข่งได้ครบจึงต้องมีการยืมตัว หรือหาคนนอกเข้ามา อาจจะเป็นศิษย์เก่า
เชื่อว่าวงโยในประเทศไทยก็เป็นแบบนี้กันแทบทุกวงทั้งนั้น พี่ผมเรียนอยู่โรงเรียนนึง เป่าฟรุต อีกโรงเรียนมาขอยืมตัวไปแข่งในนามโรงเรียนที่มายืมตัวไปก็มี
จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับประเทศไทยที่จะมีคนนอกเข้ามาแข่ง
ส่วนการแข่งในข่าวก็เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า วงนี้ไปแข่ง ในระดับ world class แม้ว่าจะมีทีมเข้าแข่งเพียงทีมเดียว แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะได้เหรียญทอง เปรียบเสมือนการตัดเกรดในระดับมัธยมต่อให้มีนักเรียนไปสอบเพียงคนเดียว ก็ต้องตัดเกรดตามเกณฑ์ทำข้อสอบไม่ผ่านก็ไม่ได้ ประวัติในระดับ world class ก็เป็นเกียรติที่ทรงคุณค่ามาก ซึ่งหากจะคิดให้ดีประเทศไทยมีวงโยไปแข่งแล้วได้เหรียญทองกลับมาก็หลายวงเหมือนกัน
ผมไม่ได้เป็นเด็กสตรีวิทยา2 แต่ค่อนข้างเห็นใจ กับความพยายามที่ไม่ได้รับการแลเหลียว และการต้องตกเป็นเหยื่อสังคมของนักสืบpantip การไปแข่งทุกชนิดจะต้องมีสปอนเซอร์สนับสนุนกันทั้งนั้นจะจัดแข่งบอลก็ต้องมีสปอนเซอร์ จะจัดค่ายยังต้องหาสปอนเซอร์เลย คุณกล้าบอกไหมว่าคุณสามารถเดินทางไปแข่งระดับโลกโดยปราศจากสปอนเซอร์
เรื่องนี้หากจะคิดว่าใครผิดผมคิดว่าคนที่ผิดที่สุดคือ สพฐ. ที่ไม่ยอมให้คำตอบเขาซะที หากให้คำตอบเร็วกว่านี้เขาอาจจะไปหาเงินสนับสนุนจากเอกชนแล้วก็ได้
ก็อยากพูดเท่านี้แหละครับ ไม่รู้ว่าคนที่เห็นใจเขาอย่างผมจะโดนด่าไปด้วยรึป่าว
เปิดประเด็น วงโย ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยวงโยธวาทิตมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1. ประเภท Show Band ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใช้ทั้งเครื่องเป่าและกลอง โดยวงประเภทนี้จะใช้คนเป็นจำนวนมาก 2. ประเภท Drum Line เป็นการแสดงที่มีเฉพาะกล่องและเครื่องกระทบขอบสนาม ซึ่งจะมีการถือธงร่วมด้วย 3. ประเภท Drum Battle เป็นการนำทีมกลองมาสู้กัน และ 4. ประเภท Symphonic Band เป็นการนั่งบรรเลง
จริงหรือไม่? ที่วงโยธวาทิตทุกวงมีคนนอกเสมอ
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมวงโยธวาทิต ต้องมีคนนอกเข้ามาเล่นในนามของโรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ แบบนี้ทำได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ประสงค์ออกนามรายนี้ ก็ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า การตั้งวงโยธวาทิตนั้น ทุกวงในประเทศไทยต่างมีคนนอกเข้ามาผสมด้วยเสมอ
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็เพราะว่า...การแข่งขันในต่างประเทศ หรือระดับนานาชาติ เป็นการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูง และส่วนใหญ่เป็นแข่งขันแบบ Open Class คือ ไม่จำกัดว่า ทุกคนจะต้องมาจากที่เดียวกัน เนื่องจากนักดนตรีในต่างประเทศ ต่างเป็นนักดนตรีมืออาชีพ ที่มารวมตัวกันในนามของเอกชน แตกต่างจากวงในประเทศไทยที่เริ่มต้นมาจากโรงเรียน
"บ้านเรา ถ้าเป็นวงโยธวาทิต ต้องเกิดจากโรงเรียน ตอนแข่งในประเทศ ต้องเป็นนักเรียนในโรงเรียนนั้น แต่พอไปต่างประเทศ ก็ต้องดึงเอาศิษย์เก่า หรือนักดนตรีที่มีประสบการณ์ มีฝีมือมาช่วยกัน ไม่มีวงไหน ที่ไปต่างประเทศแล้วไม่เอาคนนอกเล่น อย่างสุรนารีก็มี ก็เอาศิษย์เก่าไป ดึงกลับมาเล่น และต่างประเทศก็ไม่จำกัดอายุ บางวงมีการออดิชั่น เพื่อคัดคนเข้ามาเล่นในวง อย่างสตรีวิทยา 2 เขาก็คัดคนเข้ามาเล่นนะ และเขาไปแข่งในระดับที่สูงมาก คือ World Class ซึ่งบางวง World Class ในประเทศ แต่พอไปต่างประเทศ อาจจะเป็น Open Class และต้องไม่ลืมว่า วงโยธวาทิต ไม่มีตัวสำรอง และการแข่งขันในแต่ละประเภท ใช้จำนวนคนไม่เท่ากัน ซึ่งก็มีการนำเอาวงนั้น วงนี้ ไปเปรียบเทียบกับวงที่เป็นกระแส ซึ่งไม่ถูกต้อง ต้องทำความเข้าใจใหม่"
เมื่อถามถึงสาเหตุว่า...ทำไมในประเทศไทยจึงตั้งวงในนามโรงเรียนจำนวนมาก ผู้ควบคุมวงผู้นี้ ตอบว่า "เพราะการของบประมาณสนับสนุนในนามของโรงเรียนนั้น ของ่ายกว่า เพราะว่าเป็นเด็กนักเรียน นอกจากโรงเรียนนั้นๆ จะเป็นโรงเรียนเอกชน ที่พ่อแม่พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายของลูกตัวเองเพื่อไปแข่งในต่างประเทศ ถ้าถามว่า ในประเทศมีวงเอกชนที่ทำวงเองจริงๆ มีไหม ที่ไม่ใช่นามของโรงเรียน มันก็มี เช่น วงของสยามมิตร หรือของเบียร์สิงห์ ที่มีวงเยาวชนสิงห์ เป็นต้น"
เจาะงบประมาณ "วงโยธวาทิต" กับผลประโยชน์ที่ทับซ้อน?
ผู้ควบคุมวงประสบการณ์ 15 ปีคนนี้ อธิบายอย่างใจเย็น ถึงการของบประมาณสนับสนุนการแข่งขัน เฉพาะโรงเรียนรัฐบาล โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การของบประมาณจากทางโรงเรียน และกระทรวงศึกษาธิการ และส่วนที่ 2 คือ การของบจากบริษัทเอกชน ซึ่งเงินจำนวนนี้ จะเป็นเงินที่ใช้ในระหว่างการเดินทางแข่งขัน และยอมรับว่า การตั้งงบประมาณนั้น จะตั้งอย่างเต็มที่ ทั้งงบของการเช่าเครื่องดนตรี งบการทัศนศึกษา แต่ทั้งนี้ เมื่อมีการพิจารณาและหั่นงบประมาณลง ก็จะต้องยอมรับเลขนั้นๆ หากไม่เพียงพอ ก็ขอจากบริษัทเอกชนเช่นกัน โดยงบประมาณเบื้องต้น ส่วนใหญ่แต่ละโรงเรียน จะมีการสนับสนุนเบื้องต้นก่อน 2-3 ล้านบาท
ข้าวกล่องที่สมาชิกวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 รับประทานระหว่างเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
"การขอเงินสนับสนุนวงนั้น วงผมเองก็ขอเงินจากเอกชน ทั้งเครื่องดื่ม ธนาคารต่างๆ เบียร์สิงห์ ไทยเบฟเวอเรจ กระทิงแดง เอาง่ายๆ ว่า ไม่มีโรงเรียนไหนที่มีงบเลย ผอ.ไม่สามารถให้ได้ ก็ต้องหางบนั่นแหละ แต่อยู่ที่ว่าใครจะหาได้เท่าไหร่ มีคนรู้จักในบริษัทใหญ่ไหม ก็เท่านั้น ถ้าไม่มีใครรู้จักก็ส่งๆ ไปขอ อย่างวงผมเนี่ย เขาก็มองข้ามไปเลย ผมเข้าใจวงที่เป็นข่าวนะ มันฉุกละหุกจริงๆ แต่เรื่องวิธีการ ผมไม่ขอออกความเห็น เพียงแต่ว่า อยากให้เข้าใจว่า แต่ละวงมีความตั้งใจ และซุ่มซ้อมมานาน บางวงซ้อมเป็นปี เพื่อแข่งขันเพียง 8 นาที 10 นาทีเท่านั้น ต้องกินนอนที่โรงเรียน การแข่งขันมีความสำคัญกับหลายคนในวง บางคนจบไป อาจนำฝีมือ ประสบการณ์ ไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองได้ หรือบางคนอาจไปเป็นครู หรือไม่ก็เอาประวัติไปขอทุนเรียนต่อได้"
สมาชิกวงโยธวาทิตแสดงความดีใจ หลังทราบผลการแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รางวัลเหรียญทอง
นอกเหนือจากประเด็นการของบประมาณแล้ว ยังมีเรื่อง "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ที่เกี่ยวกับการซื้อ-เช่าเครื่องดนตรี เพื่อใช้ในการแข่งขันในต่างประเทศด้วย ซึ่งผู้ควบคุมรายนี้ก็ยอมรับว่า มีบางวงที่คนในวงโยฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประสานซื้อขายเครื่องดนตรีให้กับวงโยธวาทิตจริง แต่สาเหตุก็คือ เพื่อให้ได้เครื่องดนตรีที่มีคุณภาพ และแข่งขันได้ในระดับสากลจริงๆ
"ถ้าหากมองว่า เป็นธุรกิจก็มองได้นะ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกวง เพราะบางทีการแบกเครื่องดนตรีใหญ่ๆ เพื่อขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ซึ่งทำให้เสียค่าขนส่งจำนวนมาก หลายวงเลือกวิธีการประสานกับแบรนด์เครื่องดนตรีต่างประเทศ ขอยืมเครื่อง ก็เป็นการช่วยโปรโมตเครื่องดนตรีของเขาด้วย ผมบอกเลยว่า ถ้าเรารอการซื้อเครื่องดนตรีจากส่วนราชการ ก็ต้องทำหนังสือจัดซื้อ เปิดซองประมูลสินค้า ก็จะมีการลดสเปกของเครื่องดนตรีให้ต่ำ ซึ่งคุณภาพไม่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ เช่น อาจได้ทรัมเป็ตตัวละ 6,000 บาท ซึ่งในการแข่งขัน เราใช้เครื่องละเป็น 100,000 บาท"
สภาพห้องนอนของสมาชิกวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ระหว่างเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
แข่งวงโยธวาทิต คือ การแข่งกับตัวเอง!
สำหรับการแข่งขันวงโยธวาทิตนั้น แม้จะมีการจัดอันดับที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 หรือได้เหรียญทอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่หลักใหญ่ใจความสำคัญของการแข่งขัน คือ การแข่งกับตัวเอง และโชว์ศักยภาพที่ทุกคนในทีมได้สร้างสรรค์ และซุ่มฝึกซ้อมมาเป็นเวลานาน หากสามารถทำได้ตามมาตรฐานในคลาสที่วงนั้นๆ ไปแข่ง ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จ แต่ทั้งนี้ เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลง ก็จะมีการจัดลำดับที่เรียงตามคะแนนอีกครั้ง โดยหากเปรียบเทียบกับการให้เกรด A B C D โดยเราจะได้เกรด A ก็ต่อเมื่อ เราได้คะแนน 80 คะแนนขึ้นไป ซึ่งในชั้นเรียนนั้น เพื่อนของเราที่มีคะแนน 86 90 87 88 หรือ 100 ก็จะได้เกรด A เช่นกัน สุดท้ายนำคะแนนมาเรียงลำดับกันอีกครั้ง
วอนสังคมแยกแยะ 'ความตั้งใจของเด็ก' และ 'การทำงานของผู้ใหญ่'
แม้วันนี้ "ดราม่าวงโยฯ" อาจเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ผู้ควบคุมคนนี้ทิ้งท้ายว่า ยังขอให้สังคมแยกแยะประเด็น เรื่องของการบริหารจัดการของผู้บริหาร เรื่องคลิปเสียง และความตั้งใจในการฝึกซ้อมของเด็กๆ ออกจากกัน เพราะหากมองดูในโลกอินเทอร์เน็ต ก็พบว่า มีการด่าทอกันมากเกินเหตุ และไม่มองถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากนัก จนทำให้เรื่องราวบานปลาย ขณะเดียวกัน ในส่วนการดำเนินการตรวจสอบและสอบสวน ก็ดำเนินการต่อไปตามข้อเท็จจริง
เป็นไปได้หรือไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการให้ "คุณค่า" ของการแข่งขันที่ไม่ตรงกัน จนทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน โดยกลุ่มหนึ่ง มีความตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เป็นระยะเวลานาน เพื่อชื่อเสียง และประสบการณ์ที่สามารถนำไปต่อยอดโอกาสในชีวิต จึงจะพลาดโอกาสครั้งนี้ไม่ได้! จนส่งผลให้เลือกวิธีการที่ไม่สมควร ขณะที่อีกกลุ่มมองว่า วิธีการอันได้มาซึ่งโอกาส ควรจะมีศักดิ์ศรี และน่าภาคภูมิใจมากกว่านี้!
ทั้งหมดนี้ ยังคงเป็นสิ่งที่เราทุกคนในสังคม จะต้องทำความเข้าใจ และเรียนรู้กันไปพร้อมๆ กัน...เข้าใจตรงกันนะ!!!
http://thairath.co.th/content/415702
สำหรับประสบการณ์โดยตรงของผมที่รู้จักพี่ที่อยู่โรงเรียนอื่นที่ไม่ใช่สตรีวิทยา2 ก็เคยบอกว่า การแข่งนั้นบางโรงเรียนไม่สามารถหาคนแข่งได้ครบจึงต้องมีการยืมตัว หรือหาคนนอกเข้ามา อาจจะเป็นศิษย์เก่า
เชื่อว่าวงโยในประเทศไทยก็เป็นแบบนี้กันแทบทุกวงทั้งนั้น พี่ผมเรียนอยู่โรงเรียนนึง เป่าฟรุต อีกโรงเรียนมาขอยืมตัวไปแข่งในนามโรงเรียนที่มายืมตัวไปก็มี
จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับประเทศไทยที่จะมีคนนอกเข้ามาแข่ง
ส่วนการแข่งในข่าวก็เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า วงนี้ไปแข่ง ในระดับ world class แม้ว่าจะมีทีมเข้าแข่งเพียงทีมเดียว แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะได้เหรียญทอง เปรียบเสมือนการตัดเกรดในระดับมัธยมต่อให้มีนักเรียนไปสอบเพียงคนเดียว ก็ต้องตัดเกรดตามเกณฑ์ทำข้อสอบไม่ผ่านก็ไม่ได้ ประวัติในระดับ world class ก็เป็นเกียรติที่ทรงคุณค่ามาก ซึ่งหากจะคิดให้ดีประเทศไทยมีวงโยไปแข่งแล้วได้เหรียญทองกลับมาก็หลายวงเหมือนกัน
ผมไม่ได้เป็นเด็กสตรีวิทยา2 แต่ค่อนข้างเห็นใจ กับความพยายามที่ไม่ได้รับการแลเหลียว และการต้องตกเป็นเหยื่อสังคมของนักสืบpantip การไปแข่งทุกชนิดจะต้องมีสปอนเซอร์สนับสนุนกันทั้งนั้นจะจัดแข่งบอลก็ต้องมีสปอนเซอร์ จะจัดค่ายยังต้องหาสปอนเซอร์เลย คุณกล้าบอกไหมว่าคุณสามารถเดินทางไปแข่งระดับโลกโดยปราศจากสปอนเซอร์
เรื่องนี้หากจะคิดว่าใครผิดผมคิดว่าคนที่ผิดที่สุดคือ สพฐ. ที่ไม่ยอมให้คำตอบเขาซะที หากให้คำตอบเร็วกว่านี้เขาอาจจะไปหาเงินสนับสนุนจากเอกชนแล้วก็ได้
ก็อยากพูดเท่านี้แหละครับ ไม่รู้ว่าคนที่เห็นใจเขาอย่างผมจะโดนด่าไปด้วยรึป่าว