นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ขอวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองหลังเทศกาลรื่นเริงมหาสงกรานต์จบลงไปแล้ว พรุ่งนี้ ( 16 เมษา) ก็เข้าสู่การทำงานกันปกติคืนนี้มีข่าว "พระจันทร์สีเลือด"
หากเอาเรื่องดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์มาทำนายดูดวงเมืองสำหรับคนไทยนั้นถือว่า "น่ากลัว" เพราะสถานการณ์การเมืองตอนนี้เข้าสู่กลียุค และคนไทยก็มองว่าดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์เป็นของคู่กันเมื่อเกิดปรากฏการณ์ชื่อน่ากลัวว่า "พระจันทร์สีเลือด" ก็มีการตีความกันไปต่างๆนานาถึงเรื่องดวงเมือง หรือการนองเลือด ที่มักเกิดขึ้นในเดือนเมษายน
สถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์เริ่มร้อนแรงขึ้นจริงๆ ตามคำทำนาย เพราะหลายฝ่ายเริ่มขยับ เริ่มตั้งแต่ คณะรัฐบุคคลนำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีตรอง ผบ.ทอ. และ ร.อ.ปราศรัย ทรงสุรเวทย์ อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง “ทางออกประเทศไทย เมื่อยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศทั้งทางด้านนิตินัยและพฤตินัย”
หากพิจารณาดีๆ แล้ว นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ มองว่านั่นคือการ "เปิดไพ่" ให้ฝ่ายประชาธิปไตยเห็นหมดแล้วว่า "อีกฝ่ายเริ่มแพ้หมดสภาพ" แต่ก็ยังสู้ และดิ้นไม่ถอย เหมือนกรณีที่มีคำว่า "งานใหญ่กำลังรออยู่"
ฝ่าย กปปส.ไม่ยอมแพ้ขอเอาไพ่คืนมาเรียงต่อในมือแล้วเล่นใหม่ มองได้จาก คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เลือก น.ส. สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังมาเป็น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตัดสินคดีความ ซึ่งแค่มองเผินๆ ก็รู้ว่าอะไร เป็นอะไร แต่ก็ดี เพราะเท่ากับประจานตัวเองไปในตัว ประชาชนจะมองเห็นอะไรที่ชัดเจนและเยอะแยะมากขึ้น
เพราะ น.ส. สุภา ปิยะจิตติ ประวัติไม่ธรรมดา และที่สำคัญคือ ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่ม กปปส. และกองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งตัวแทนองค์กรอิสระในคณะกรรมการสรรหา รวมไปถึง “กรรมการ ป.ป.ช.” บางคนเองก็แอบส่งใจเชียร์ไม่ใช่น้อย
ในวันที่ 18 เม.ย. 57 จะครบกำหนดวันยื่นชี้แจงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สิ่งที่จะเกิดขึ้นว่า ที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยนายกรัฐมนตรีมีการกระทำต้องห้ามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ทั้งนี้ศาลจะชี้ว่านายกรัฐมนตรีทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 (2) มีผลทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง
เมื่อไม่มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะสูญญากาศทางการเมือง และได้จังหวะของคนแก่ที่เรียกตัวเองว่า "คณะรัฐบุคคล" เสนอให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ถวายร่างพระบรมราชโองการให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไธย เพื่อแก้วิกฤตบ้านเมือง และก็ทันที ทันใด เหมือนรับลูกให้ดูดี เพราะ พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ และนายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ระบุว่า ขณะนี้ พล.อ.เปรมรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสื่อมวลชนที่มีการนำเสนอข่าว แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
ขณะเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ระบุว่าเป็นเพียงการหวังผลทางการเมือง เพราะเป็นวิธีที่ผิดไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและนานาชาติ รวมทั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การเสนอพลให้ พล.อ.เปรมซึ่งเป็นประธานองคมนตรีทำเรื่องดังกล่าวนั้น แค่คิดก็ผิดแล้ว การจะหาทางหาทางออกด้วยนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และต้องฟังเสียงประชาชน
นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ขอให้จับตาดูกันให้ดีว่า เพราะคำพูดของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ระบุว่า กองทัพกำลังจะมีงานใหญ่ต้องทำให้สำเร็จนั้น มีนัยยะทางการเมืองมาก ดังนั้นคงหลีกเลี่ยงเหตุการณ์กลียุคหลังสงกรานต์พระจันทร์สีเลือดไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เครดิต : แซดนิวส์ จาก
http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/547-2014-04-15-16-03-11
งานใหญ่รออยู่ ! กลียุคหลังสงกรานต์พระจันทร์สีเลือด
หากเอาเรื่องดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์มาทำนายดูดวงเมืองสำหรับคนไทยนั้นถือว่า "น่ากลัว" เพราะสถานการณ์การเมืองตอนนี้เข้าสู่กลียุค และคนไทยก็มองว่าดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์เป็นของคู่กันเมื่อเกิดปรากฏการณ์ชื่อน่ากลัวว่า "พระจันทร์สีเลือด" ก็มีการตีความกันไปต่างๆนานาถึงเรื่องดวงเมือง หรือการนองเลือด ที่มักเกิดขึ้นในเดือนเมษายน
สถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์เริ่มร้อนแรงขึ้นจริงๆ ตามคำทำนาย เพราะหลายฝ่ายเริ่มขยับ เริ่มตั้งแต่ คณะรัฐบุคคลนำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีตรอง ผบ.ทอ. และ ร.อ.ปราศรัย ทรงสุรเวทย์ อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง “ทางออกประเทศไทย เมื่อยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศทั้งทางด้านนิตินัยและพฤตินัย”
หากพิจารณาดีๆ แล้ว นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ มองว่านั่นคือการ "เปิดไพ่" ให้ฝ่ายประชาธิปไตยเห็นหมดแล้วว่า "อีกฝ่ายเริ่มแพ้หมดสภาพ" แต่ก็ยังสู้ และดิ้นไม่ถอย เหมือนกรณีที่มีคำว่า "งานใหญ่กำลังรออยู่"
ฝ่าย กปปส.ไม่ยอมแพ้ขอเอาไพ่คืนมาเรียงต่อในมือแล้วเล่นใหม่ มองได้จาก คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เลือก น.ส. สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังมาเป็น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตัดสินคดีความ ซึ่งแค่มองเผินๆ ก็รู้ว่าอะไร เป็นอะไร แต่ก็ดี เพราะเท่ากับประจานตัวเองไปในตัว ประชาชนจะมองเห็นอะไรที่ชัดเจนและเยอะแยะมากขึ้น
เพราะ น.ส. สุภา ปิยะจิตติ ประวัติไม่ธรรมดา และที่สำคัญคือ ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่ม กปปส. และกองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งตัวแทนองค์กรอิสระในคณะกรรมการสรรหา รวมไปถึง “กรรมการ ป.ป.ช.” บางคนเองก็แอบส่งใจเชียร์ไม่ใช่น้อย
ในวันที่ 18 เม.ย. 57 จะครบกำหนดวันยื่นชี้แจงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สิ่งที่จะเกิดขึ้นว่า ที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยนายกรัฐมนตรีมีการกระทำต้องห้ามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ทั้งนี้ศาลจะชี้ว่านายกรัฐมนตรีทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 (2) มีผลทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง
เมื่อไม่มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะสูญญากาศทางการเมือง และได้จังหวะของคนแก่ที่เรียกตัวเองว่า "คณะรัฐบุคคล" เสนอให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ถวายร่างพระบรมราชโองการให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไธย เพื่อแก้วิกฤตบ้านเมือง และก็ทันที ทันใด เหมือนรับลูกให้ดูดี เพราะ พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ และนายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ระบุว่า ขณะนี้ พล.อ.เปรมรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสื่อมวลชนที่มีการนำเสนอข่าว แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
ขณะเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ระบุว่าเป็นเพียงการหวังผลทางการเมือง เพราะเป็นวิธีที่ผิดไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและนานาชาติ รวมทั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การเสนอพลให้ พล.อ.เปรมซึ่งเป็นประธานองคมนตรีทำเรื่องดังกล่าวนั้น แค่คิดก็ผิดแล้ว การจะหาทางหาทางออกด้วยนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และต้องฟังเสียงประชาชน
นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ขอให้จับตาดูกันให้ดีว่า เพราะคำพูดของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ระบุว่า กองทัพกำลังจะมีงานใหญ่ต้องทำให้สำเร็จนั้น มีนัยยะทางการเมืองมาก ดังนั้นคงหลีกเลี่ยงเหตุการณ์กลียุคหลังสงกรานต์พระจันทร์สีเลือดไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เครดิต : แซดนิวส์ จาก http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/547-2014-04-15-16-03-11