เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายคริส เบเกอร์ นักวิเคราะห์การเมืองไทยชาวอังกฤษและผู้เขียนบทความชื่อ "Yingluck on the streets" (ยิ่งลักษณ์บนท้องถนน) ซึ่งวิเคราะห์ป้ายหาเสียงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ได้พูดถึงนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ไว้ในวงเสวนา "ผู้นำหญิงในอุษาคเนย์/อาเซียน"ซึ่งจัดขึ้นที่ อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเบเกอร์กล่าวเริ่มต้นว่า
จากประสบการณ์ของหลายๆ ประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในศรีลังกา ปากีสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือบังกลาเทศนั้น ผู้หญิงที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศล้วนแต่สืบทอดตำแหน่งมาจากพ่อหรือสามีที่เคยดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดทางการเมืองในประเทศเหล่านั้น
เบเกอร์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผู้ชายที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในแต่ละประเทศนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทุนทางการเมืองหรือ "political capital" แต่ทว่า เมื่อความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสังหารผู้นำของประเทศ ประหารชีวิต หรือการรัฐประหาร เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้หลังจากนั้น คุณสมบัติของความเป็นผู้หญิงจะเข้ามามีอิทธิพลมากกว่า
"เรื่องของครอบครัวก็ยังเป็นเรื่องสำคัญมากในเอเชีย ซึ่งถ้าดูในเอเชียสมัยใหม่ ไม่มีผู้หญิงคนใดที่ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศนอกเหนือไปจากในลักษณะนี้ (เป็นลูกสาวหรือภรรยา) เลย หรือถ้าข้ามไปนอกเอเชีย จะเห็นว่ามีผู้หญิงบางคนที่ขึ้นมาในลักษณะดังกล่าว อาทิเช่น เอวิต้า เปรอง แห่งอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีผู้ชายที่ขึ้นมาในลักษณะเดียวกัน คือเป็นลูกชายของอดีตผู้นำประเทศที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำทางการเมืองเลย
ส่วนในกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น เบเกอร์กล่าวว่า ยิ่งลักษณ์แตกต่างจากผู้นำหญิงคนอื่นๆ ในอุษาคเนย์ ที่ส่วนใหญ่จะมีพ่อหรือสามีเป็นผู้นำประเทศก่อนหน้า แต่ในกรณีของยิ่งลักษณ์ ผู้ชายคนดังกล่าวไม่ใช่พ่อหรือสามี แต่เป็นพี่ชาย อย่างไรก็ดี เราจะเห็นได้ว่า ทักษิณ ชินวัตรค่อนข้างจะเป็นพี่ชายที่มีบทบาทของ "พ่อ" อยู่ด้วย
และเมื่อถูกถามว่า คิดว่าคุณยิ่งลักษณ์จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนานเท่าไหร่นั้น เบเกอร์ตอบว่า จากการสังเกตผู้นำหญิงในอุษาคเนย์ส่วนใหญ่ เราจะเห็นว่าพวกเธออยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานนัก?
ส่วนในกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่มีผลต่อการดำรงตำแหน่งของเธอ แต่ "ถ้าจะต้องพนันละก็" เบเกอร์กล่าวว่า ตนคิดว่ายิ่งลักษณ์จะอยู่ในตำแหน่งนาน ซึ่งจะนานเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ แต่ตนคิดว่าจะอยู่หลายปี
--------เอาแล้วไง สื่ออังกฤษออกมาวิจารณ์ยิ่งลักษณ์ แล้ว-------
จากประสบการณ์ของหลายๆ ประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในศรีลังกา ปากีสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือบังกลาเทศนั้น ผู้หญิงที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศล้วนแต่สืบทอดตำแหน่งมาจากพ่อหรือสามีที่เคยดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดทางการเมืองในประเทศเหล่านั้น
เบเกอร์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผู้ชายที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในแต่ละประเทศนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทุนทางการเมืองหรือ "political capital" แต่ทว่า เมื่อความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสังหารผู้นำของประเทศ ประหารชีวิต หรือการรัฐประหาร เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้หลังจากนั้น คุณสมบัติของความเป็นผู้หญิงจะเข้ามามีอิทธิพลมากกว่า
"เรื่องของครอบครัวก็ยังเป็นเรื่องสำคัญมากในเอเชีย ซึ่งถ้าดูในเอเชียสมัยใหม่ ไม่มีผู้หญิงคนใดที่ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศนอกเหนือไปจากในลักษณะนี้ (เป็นลูกสาวหรือภรรยา) เลย หรือถ้าข้ามไปนอกเอเชีย จะเห็นว่ามีผู้หญิงบางคนที่ขึ้นมาในลักษณะดังกล่าว อาทิเช่น เอวิต้า เปรอง แห่งอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีผู้ชายที่ขึ้นมาในลักษณะเดียวกัน คือเป็นลูกชายของอดีตผู้นำประเทศที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำทางการเมืองเลย
ส่วนในกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น เบเกอร์กล่าวว่า ยิ่งลักษณ์แตกต่างจากผู้นำหญิงคนอื่นๆ ในอุษาคเนย์ ที่ส่วนใหญ่จะมีพ่อหรือสามีเป็นผู้นำประเทศก่อนหน้า แต่ในกรณีของยิ่งลักษณ์ ผู้ชายคนดังกล่าวไม่ใช่พ่อหรือสามี แต่เป็นพี่ชาย อย่างไรก็ดี เราจะเห็นได้ว่า ทักษิณ ชินวัตรค่อนข้างจะเป็นพี่ชายที่มีบทบาทของ "พ่อ" อยู่ด้วย
และเมื่อถูกถามว่า คิดว่าคุณยิ่งลักษณ์จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนานเท่าไหร่นั้น เบเกอร์ตอบว่า จากการสังเกตผู้นำหญิงในอุษาคเนย์ส่วนใหญ่ เราจะเห็นว่าพวกเธออยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานนัก?
ส่วนในกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่มีผลต่อการดำรงตำแหน่งของเธอ แต่ "ถ้าจะต้องพนันละก็" เบเกอร์กล่าวว่า ตนคิดว่ายิ่งลักษณ์จะอยู่ในตำแหน่งนาน ซึ่งจะนานเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ แต่ตนคิดว่าจะอยู่หลายปี