เรื่องการแสดงในยุคแรกๆ สนด้อยกว่าบอมในตอนนี้ คือสนแสดงแข็งทุกฉาก แต่บอมถือว่าผ่านในพวกฉากความรักหนุ่มสาว กุ๊กกิ๊ก พ่อแง่อน แต่บอมมีปัญหาด้านบุคลิกมากกว่า คือการพูด การยืน เดิน ฉากที่แย่บอมเลยดูขัดหูขัดตากว่า (ประกอบกับข่าวส่วนตัวด้วย) แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมากในยุคนั้นกับยุคนี้คือลักษณะสังคมติ่งและแฟนคลับ รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี การมี Social Network ยุคนี้คนที่เข้ามาวิจารณ์ มีหลากหลาย และมีแรงผลักดันที่ต่างกับสมัยก่อน สมัยก่อนอาจแค่ดูแล้ววิจารณ์ไปตามเนื้อผ้า แต่ยุคนี้ มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีดารา นักร้อง ศิลปินที่กลุ่มแฟนคลับ กลุ่มติ่งสนับสนุน เพราะฉะนั้นการล้มหรือการเกิดของดารา ศิลปินแต่ละคนมันส่งผลถึงโอกาสและผลประโยชน์ของคนอีกกลุ่มเสมอ การเป็นพระเอกละครค่ำ ของช่อง 3 มันก็ต่างกับพระเอกละครเอ๊กแซคท์ ในด้านฐานผู้ชม โอกาสและผลประโยชน์อื่นๆ ที่จะตามมา การวิพากษ์วิจารณ์ของคนบางกลุ่ม ก็เลยไม่ใช่แค่ทำไปตามเนื้อผ้า แต่เป็นการเจาะช่องโหว่ ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ให้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของฝ่ายตน ด้วยการพยายามเหยียบย่ำ สร้างภาพลักษณ์แย่ๆ กว่าที่เป็นจริง ย้ำคิดย้ำทำให้คนจดจำ คล้ายๆ สะกดจิต เพื่อตัดโอกาส ในขณะเดียวกัน ก็สอดแทรกตัวเลือกที่ตนสนับสนุนเข้ามา (ทั้งในแง่ของช่อง ละคร หรือตัวบุคคล แบบเนียนบ้างไม่เนียนบ้าง) ในขณะที่คนบางกลุ่มก็อาศัย Social Network ต่อยอดความบันเทิงจากละครที่ชม คือผสมโรงเอามันส์ด้วย ภาพและกระแสที่ออกมาก็เลยเป็นอะไรที่เยอะแยะมากมายอย่างที่เห็น ทั้งที่เหตุมีเพียงเล็กน้อย

แต่คนทำธุรกิจ คนที่มีผลประโยชน์จับต้องได้จริงๆ ก็คงอ่านเกมออก ไม่โดนกระแสปั่นหัวง่ายๆ ถึงได้มีคำว่า สวนกระแสบ่อยๆ เพราะประเทศไทย คนที่ยังดูละครทางทีวี ก็ยังมีอัตราที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตไม่มากนัก กระแสในพันทิปหรือ Social Network จึงไม่ใช่กระแสของประเทศไทยเสมอไป

ในเรื่องของสน ส่วนตัวคิดว่าผ่านมาได้จาก ลิขิตฟ้าชะตาดิน ซึ่งก็หลายปีจากเรื่องแรก และก็เริ่มจะมีกระแสมากขึ้นจาก แค้นเสน่หา ทางช่อง 3 สน นี่ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือการแสดงไม่ได้โดดเด่นมาก ฐานแฟนคลับยังไม่มั่นคง ไม่ใช่ลูกหม้อช่อง 3 แต่ได้รับโอกาสที่ดี ถ้ามีอะไรพลาดก็คงไม่แคล้วโดนถล่ม