มาลองไล่ดูนักเตะระดับท๊อปๆในพรีเมียร์ลีคที่มีแฟนคลับเยอะๆ ในบ้านเรา แต่ละคนก็มีบุคลิกเฉพาะตัวแตกต่างกันไป
อย่าง อลัน เชียเรอร์ ลูกยิงกระซวกไส้ เสยใต้คาน อย่าให้ได้ง้างเลยนะ เขาคือสไตรเกอร์ตัวจริง
ฟาวเลอร์ เด็กนรกแตก พาสเตอร์ปิดจมูก ซ้ายติดรีโมท ลงไปยิงกระจุยกระจายและแสดงท่าดีใจแบบแสบๆ กวนๆ
อองรี ท่าดีใจยียวนไม่แพ้กัน แต่ฝีเท้าฉกาจฉกรรแบบหาตัวจับยาก เวิร์ลคลาสของจริง
คันโตน่า เป็นเหมือนความเกรี้ยวกราดของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันในสนาม ที่พร้อมจะข่มขวัญทุกคนให้ง่อไปตามๆกัน
เดวิด เบคแฮม จอมเตะฟรีคิกส์ วางบอลแม่นเป๊ะ มีออร่าแบบซุปตาร์
ไรอันกิ๊ก พุ่งบอลไปข้างหน้า ทั้งจ่ายทั้งยิง กดดันคู่ต่อสู้ได้โหดสุดๆ แถมมีบุคลิกเป็นแบบผู้ชนะตลอดกาล
คราวนี้กลับมามองดูนักเตะอย่างเจอราร์ดบ้าง แรกๆลักษณะเป็นแบบเด็กวัยรุ่นห้าวเป้งทั่วไป เข้าบอลหนัก ยิงแรง
คิดว่าคงมาสไตล์พอลอินส์แน่ๆ บอกตรงๆช่วงนั้นยังรู้สึกชอบ เดวิด ธอมป์สัน มากกว่าซะอีก เล่นเกมรุกได้มันส์กว่าเยอะ ความเห็นส่วนตัว
สปอร์ตไลท์เริ่มฉายมาที่เจอราร์ดตอนที่เขายิงแมนฯยูได้ใน FA Cup นั้นแหละ ยิงบากเตสซะตาข่ายกระจุย
จนมีคนพูดกันว่าทั้งทีมลิเวอร์พูลมีนักเตะที่ใช้จริงๆแค่ 2 คนนี้เท่านั้น คือ เจอราร์ด,โอเว่น
บุคลิกของเจอราร์ดเริ่มถูกทำให้ชัดขึ้นตอนที่รับหน้าที่เป็นกัปตัน
ก่อนหน้านั้นกัปตันทีมลิเวอร์พูลได้แก่ เรดแนป ฟาวเลอร์ ฮูเปีย ตามลำดับ
เหตุผลที่อุลลิเย่หันมามอบปลอกแขนกัปตันทีมให้เจอราร์ดเพราะตอนนั้นทีมได้เสียไมเคิลโอเว่นให้รีลมาดริดไป และฮูเปียต้องเสียสละ
ช่วงเวลาที่เจอราร์ดเป็นกัปตันทีม ผู้คนมักจะจดจำภาพที่เจอราร์ดเป็นผู้แบกทีมไว้บนบ่าเสมอมา
เขาอาจไม่ได้มีฝีเท้าเป็นนักเตะระดับโลก ไม่เคยอยู่ในทีมที่มี 11 ตัวจริงเป็นสุดยอดของโลก ของทวีป หรือของประเทศ
การต่อสู้ของพวกเขาจึงมักจะเป็นลักษณะแบบพวกมวยรองบ่อน จะต้องฮึดกลับมาถึงจะชนะเสมอ พวกเขาไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ
วีรกรรมของเจอราร์ดจึงมักจะเป็น
- ยิงประตู 3-1 ดับโอลิมเปียกอสในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งๆที่น่าจะตายไปตั้งแต่ครึ่งแรกที่โดน 0-1 แล้ว เพราะต้องยิงกลับถึง 3 ลูก
แต่พอเริ่มครึ่งหลังนักเตะลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จ โดยเจอราร์ดเป็นผู้ยิงประตูปิดท้าย พาทีมเข้ารอบได้ในที่สุด
- พลิกกลับมาชนะ เอซีมิลาน 3-3 โดยการดวลจุดโทษ กลายเป็นเจ้ายุโรปได้อย่างเหลือเชื่อ
ท่าปลุกใจลูกทีมตอนที่เจอราร์ดยิงลูกแรก ยังมีคนเอามาเชื่อมโยงกับท่าทางในเกมกับแมนฯซิตี้เมื่อคืนนี้อยู่เลย
- ไล่ตีเสมอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ FA Cup โดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นผู้ยิงไกลสุดสวยไล่ตีเสมอท้ายเกมเช่นเคย
แล้วการแสดงบุคลิกแบบนี้แหละ ที่เจอราร์ดได้ทำให้เห็นอีกครั้งในเกมที่ชนะ แมนฯซิตี้ 3-2 เมื่อคืน
ตอนที่สิ้นเสียงกรรมการเป่านกหวีด นักเตะลิเวอร์พูลเข้ามาล้อมวงกันอย่างพร้อมเพรียง
ณ ที่นั้น เจอราร์ดเป็นผู้เปิดประชุมทีมสดๆในสนาม ใส่วาทะกระแทกกระทั้นปลุกใจลูกทีมทุกคนอย่างรุนแรง
"เราจะทำอีกครั้ง เราจะไปนอริช เราไปด้วยกัน ทุกคน สู้!"
บร๊ะ!! แบบนี้สินะ บุคลิกของเขา นักเตะที่ชื่อ สตีเว่น เจอราร์ด
นักเตะบุคลิกแบบเจอราร์ด
อย่าง อลัน เชียเรอร์ ลูกยิงกระซวกไส้ เสยใต้คาน อย่าให้ได้ง้างเลยนะ เขาคือสไตรเกอร์ตัวจริง
ฟาวเลอร์ เด็กนรกแตก พาสเตอร์ปิดจมูก ซ้ายติดรีโมท ลงไปยิงกระจุยกระจายและแสดงท่าดีใจแบบแสบๆ กวนๆ
อองรี ท่าดีใจยียวนไม่แพ้กัน แต่ฝีเท้าฉกาจฉกรรแบบหาตัวจับยาก เวิร์ลคลาสของจริง
คันโตน่า เป็นเหมือนความเกรี้ยวกราดของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันในสนาม ที่พร้อมจะข่มขวัญทุกคนให้ง่อไปตามๆกัน
เดวิด เบคแฮม จอมเตะฟรีคิกส์ วางบอลแม่นเป๊ะ มีออร่าแบบซุปตาร์
ไรอันกิ๊ก พุ่งบอลไปข้างหน้า ทั้งจ่ายทั้งยิง กดดันคู่ต่อสู้ได้โหดสุดๆ แถมมีบุคลิกเป็นแบบผู้ชนะตลอดกาล
คราวนี้กลับมามองดูนักเตะอย่างเจอราร์ดบ้าง แรกๆลักษณะเป็นแบบเด็กวัยรุ่นห้าวเป้งทั่วไป เข้าบอลหนัก ยิงแรง
คิดว่าคงมาสไตล์พอลอินส์แน่ๆ บอกตรงๆช่วงนั้นยังรู้สึกชอบ เดวิด ธอมป์สัน มากกว่าซะอีก เล่นเกมรุกได้มันส์กว่าเยอะ ความเห็นส่วนตัว
สปอร์ตไลท์เริ่มฉายมาที่เจอราร์ดตอนที่เขายิงแมนฯยูได้ใน FA Cup นั้นแหละ ยิงบากเตสซะตาข่ายกระจุย
จนมีคนพูดกันว่าทั้งทีมลิเวอร์พูลมีนักเตะที่ใช้จริงๆแค่ 2 คนนี้เท่านั้น คือ เจอราร์ด,โอเว่น
บุคลิกของเจอราร์ดเริ่มถูกทำให้ชัดขึ้นตอนที่รับหน้าที่เป็นกัปตัน
ก่อนหน้านั้นกัปตันทีมลิเวอร์พูลได้แก่ เรดแนป ฟาวเลอร์ ฮูเปีย ตามลำดับ
เหตุผลที่อุลลิเย่หันมามอบปลอกแขนกัปตันทีมให้เจอราร์ดเพราะตอนนั้นทีมได้เสียไมเคิลโอเว่นให้รีลมาดริดไป และฮูเปียต้องเสียสละ
ช่วงเวลาที่เจอราร์ดเป็นกัปตันทีม ผู้คนมักจะจดจำภาพที่เจอราร์ดเป็นผู้แบกทีมไว้บนบ่าเสมอมา
เขาอาจไม่ได้มีฝีเท้าเป็นนักเตะระดับโลก ไม่เคยอยู่ในทีมที่มี 11 ตัวจริงเป็นสุดยอดของโลก ของทวีป หรือของประเทศ
การต่อสู้ของพวกเขาจึงมักจะเป็นลักษณะแบบพวกมวยรองบ่อน จะต้องฮึดกลับมาถึงจะชนะเสมอ พวกเขาไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ
วีรกรรมของเจอราร์ดจึงมักจะเป็น
- ยิงประตู 3-1 ดับโอลิมเปียกอสในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งๆที่น่าจะตายไปตั้งแต่ครึ่งแรกที่โดน 0-1 แล้ว เพราะต้องยิงกลับถึง 3 ลูก
แต่พอเริ่มครึ่งหลังนักเตะลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จ โดยเจอราร์ดเป็นผู้ยิงประตูปิดท้าย พาทีมเข้ารอบได้ในที่สุด
- พลิกกลับมาชนะ เอซีมิลาน 3-3 โดยการดวลจุดโทษ กลายเป็นเจ้ายุโรปได้อย่างเหลือเชื่อ
ท่าปลุกใจลูกทีมตอนที่เจอราร์ดยิงลูกแรก ยังมีคนเอามาเชื่อมโยงกับท่าทางในเกมกับแมนฯซิตี้เมื่อคืนนี้อยู่เลย
- ไล่ตีเสมอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ FA Cup โดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นผู้ยิงไกลสุดสวยไล่ตีเสมอท้ายเกมเช่นเคย
แล้วการแสดงบุคลิกแบบนี้แหละ ที่เจอราร์ดได้ทำให้เห็นอีกครั้งในเกมที่ชนะ แมนฯซิตี้ 3-2 เมื่อคืน
ตอนที่สิ้นเสียงกรรมการเป่านกหวีด นักเตะลิเวอร์พูลเข้ามาล้อมวงกันอย่างพร้อมเพรียง
ณ ที่นั้น เจอราร์ดเป็นผู้เปิดประชุมทีมสดๆในสนาม ใส่วาทะกระแทกกระทั้นปลุกใจลูกทีมทุกคนอย่างรุนแรง
"เราจะทำอีกครั้ง เราจะไปนอริช เราไปด้วยกัน ทุกคน สู้!"
บร๊ะ!! แบบนี้สินะ บุคลิกของเขา นักเตะที่ชื่อ สตีเว่น เจอราร์ด