สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://www.ppantip.com/topic/31797128
แล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผมได้ไปหาหมอมาอีกรอบ หมอที่ผมไปหาเป็นคลินิคนอกเวลา ได้เข้าตรวจกับคุณหมอผู้หญิงท่านนึง หมอซักถามอาการอย่างละเอียด รู้สึกว่าประทับใจการวินิจฉัยมาก คุณหมอถามว่าผมจะเจาะเลือด หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปพิสูจน์ดูมั้ยว่าเป็นอะไร ผมก็ตัดสินใจทำทั้งสองอย่าง แล้วคุณหมอนัดมาดูอาการและฟังผลชิ้นเนื้อ ฟังผลเลือดอีกทีในวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา
จนมาถึงวันที่ 10 ประมาณบ่ายโมงผมก็มาตามหมอนัด รอจนพยาบาลเรียกเข้าพบหมอ หมอก็ดูแผลตามปกติ แล้วก็เรียกให้หมออีกหลายท่านมาดู อารมณ์คงประมาณว่าเคสของผมอาจจะเป็นเคสที่หมออาจไม่ค่อยเจอมาก่อน แล้วก็ให้หมอหลายๆมาช่วยกันดู แล้วก็เอาไปช่วยกันวินิจฉัย เอาไปศึกษา ผมเข้าใจว่าแบบนั้นน่ะครับ เพราะเท่าที่ทราบโรงพยาบาลนี้ก็เป็นโรงพยาบาลและโรงเรียนด้วย หากเจอเคสใหม่ๆก็คงจะเป็นประโยชน์ทั้งกับหมอและคนไข้ ที่ได้ทั้งเรียนรู้ และคนไข้ก็ได้รักษาไปในตัว
สิ่งที่ผมได้กล่าวไปบางคนอาจจะเห็นว่าก็เป็นแนวทางในการรักษาของหมอทั่วๆไป แต่ที่ผมอยากจะมาบอกมันเป็นความประทับใจส่วนตัวของผม ที่ได้มาพบกับคุณหมอดีๆ โรงพยาบาลดีๆ หมอทุกท่านที่เข้ามาซักถามอาการผมก็ดูใจดีเป็นกันเอง เพราะเท่าที่ผมเคยเจอกับตัวเองมาตามต่างจังหวัด หมอที่ผมเคยเจอมักจะทำตัวเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ การวินิจฉัยบางทีก็ถามอาการแค่สองสามคำแล้วสั่งยา (ส่วนตัวที่ผมเคยเจอมาน่ะครับ) แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ เพราะบางทีก็เป็นเพียงเจ็บไข้เล็กๆน้อยๆ
แต่พอมาเจอกับคุณหมอที่รามา ผมรู้สึกประทับใจมากจริงๆ อยากจะให้ประเทศไทยมีโรงพยาบาลแบบนี้เยอะๆ มีคุณหมอเก่งๆใจดีแบบนี้เยอะๆ อยากมาเล่าเป็นความรู้สึกส่วนตัว เผื่อคุณหมอท่านไหนผ่านมาเห็นจะได้เป็นกำลังใจในการรักษาคนไข้ต่อไป แล้วก็อยากขอบคุณพื้นที่ในพันทิปตรงนี้ที่เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้ผมได้แสดงความคิดเห็นให้คนส่วนใหญ่ในสังคมได้รับรู้
ครั้งสุดท้ายที่ผมไปมา จ่ายค่าหมอแค่ 50 บาท แต่รู้สึกว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ต่อไปโรงพยาบาลต่างจังหวัดของผม หรือโรงพยาบาลเอกชนอาจไม่ต้องไปง้อแล้วครับ
ฝากถึงคุณหมอแผนกผิวหนังโรงพยาบาลรามาธิบดี
แล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผมได้ไปหาหมอมาอีกรอบ หมอที่ผมไปหาเป็นคลินิคนอกเวลา ได้เข้าตรวจกับคุณหมอผู้หญิงท่านนึง หมอซักถามอาการอย่างละเอียด รู้สึกว่าประทับใจการวินิจฉัยมาก คุณหมอถามว่าผมจะเจาะเลือด หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปพิสูจน์ดูมั้ยว่าเป็นอะไร ผมก็ตัดสินใจทำทั้งสองอย่าง แล้วคุณหมอนัดมาดูอาการและฟังผลชิ้นเนื้อ ฟังผลเลือดอีกทีในวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา
จนมาถึงวันที่ 10 ประมาณบ่ายโมงผมก็มาตามหมอนัด รอจนพยาบาลเรียกเข้าพบหมอ หมอก็ดูแผลตามปกติ แล้วก็เรียกให้หมออีกหลายท่านมาดู อารมณ์คงประมาณว่าเคสของผมอาจจะเป็นเคสที่หมออาจไม่ค่อยเจอมาก่อน แล้วก็ให้หมอหลายๆมาช่วยกันดู แล้วก็เอาไปช่วยกันวินิจฉัย เอาไปศึกษา ผมเข้าใจว่าแบบนั้นน่ะครับ เพราะเท่าที่ทราบโรงพยาบาลนี้ก็เป็นโรงพยาบาลและโรงเรียนด้วย หากเจอเคสใหม่ๆก็คงจะเป็นประโยชน์ทั้งกับหมอและคนไข้ ที่ได้ทั้งเรียนรู้ และคนไข้ก็ได้รักษาไปในตัว
สิ่งที่ผมได้กล่าวไปบางคนอาจจะเห็นว่าก็เป็นแนวทางในการรักษาของหมอทั่วๆไป แต่ที่ผมอยากจะมาบอกมันเป็นความประทับใจส่วนตัวของผม ที่ได้มาพบกับคุณหมอดีๆ โรงพยาบาลดีๆ หมอทุกท่านที่เข้ามาซักถามอาการผมก็ดูใจดีเป็นกันเอง เพราะเท่าที่ผมเคยเจอกับตัวเองมาตามต่างจังหวัด หมอที่ผมเคยเจอมักจะทำตัวเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ การวินิจฉัยบางทีก็ถามอาการแค่สองสามคำแล้วสั่งยา (ส่วนตัวที่ผมเคยเจอมาน่ะครับ) แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ เพราะบางทีก็เป็นเพียงเจ็บไข้เล็กๆน้อยๆ
แต่พอมาเจอกับคุณหมอที่รามา ผมรู้สึกประทับใจมากจริงๆ อยากจะให้ประเทศไทยมีโรงพยาบาลแบบนี้เยอะๆ มีคุณหมอเก่งๆใจดีแบบนี้เยอะๆ อยากมาเล่าเป็นความรู้สึกส่วนตัว เผื่อคุณหมอท่านไหนผ่านมาเห็นจะได้เป็นกำลังใจในการรักษาคนไข้ต่อไป แล้วก็อยากขอบคุณพื้นที่ในพันทิปตรงนี้ที่เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้ผมได้แสดงความคิดเห็นให้คนส่วนใหญ่ในสังคมได้รับรู้
ครั้งสุดท้ายที่ผมไปมา จ่ายค่าหมอแค่ 50 บาท แต่รู้สึกว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ต่อไปโรงพยาบาลต่างจังหวัดของผม หรือโรงพยาบาลเอกชนอาจไม่ต้องไปง้อแล้วครับ