สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ
คือวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การนั่งรถตู้ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับอุบัติเหตุใดๆ
แต่เกี่ยวกับมารยาทการใช้ค่ะ
คือเราเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนที่เมืองกรุง แล้วก็เผอิญเป็นช่วงวันหยุดยาวค่ะ
เลยตัดสินใจกลับบ้าน ปกตินั่งรถทัวร์กลับเพราะได้ยินข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุมาเยอะเลยออกแนวกลัว
แต่ด้วยความที่ชอบขนของกลับเยอะ ทั้งๆที่หยุดไม่กี่วัน (บ้าหอบฟางนั้นแหละ) เลยทำให้เวลาเดินทางไปหมอชิตค่อนข้างลำบาก
นั่งแท๊กซี่ก็แพง (งกอีก)
เลยลองกลับรถตู้ดูบ้าง เพราะท่ารถตู้อยู่ไม่ไกลจากหอค่ะ เดินทางสะดวก ที่สำคัญรถผ่านถนนหน้าบ้านเลย ไม่ต้องต่อรถกลับให้วุ่นวาย
เราก็นั่งรถตู้มาตลอด 3-4ครั้ง ก็ไม่มีอะไร จนที่ผ่านมาไม่นานนี้ค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่า เรามารอรถตู้ตอนช่วงสายๆของวันที่ท่ารถค่ะ อากาศก็ร้อนมากๆ
เรากับเพื่อนก็นั่งคุยกันไปตามประสา แต่ก็ไม่ได้คุยเสียงดังเลย คือส่วนใหญ่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์กันมากกว่า
แล้วตอนนั้นก็มีผญ นางนึงมากับทอมค่ะ นางก็เชิ่ดๆใส่ แบบว่าฉันนี่แหละสวยสุดบนรถตู้ ฮึ! รสนิยมการแต่งตัวของนางอิฉันไม่อยากเอ่ย
ไม่เข้าใจว่าเชิ่ดเพื่อออออออออ? เราก็ไม่สนใจค่ะ ร้อนอิ๊บอ๋ายจะตายอยู่แล้นนน หันไปถูโทรศัพท์ต่อ
ระหว่างนั้นรถตู้ก็มา เราก็ขึ้นไปนั่งกัน ด้วยความที่เรากินยาแก้เมารถไปก็เกิดอาการง่วงสุดๆ
อ้อ! เรานั่งติดหน้าต่างค่ะ ส่วนเพื่อนนั่งติดทางเดิน คือตอนที่เราซื้อตั๋วพี่คนขายก็บอกว่าเดี๋ยวถ้าเต็มรถก็จะออกเลย อย่าไปไหนไกล เพราะรถจะมาแล้ว
เรากับเพื่อนก็หลับค่ะ หลับทันทีที่ขึ้นรถตู้ ผ่านไปสักพักรถก็ยังไม่ออก เราก็เลยตื่นมาดูว่าทำไมยังไม่ออก เพราะคนขึ้นมาเยอะแล้ว
หันไปข้างหลังเห็นที่ว่างอยู่สองที่ พี่คนขับก็เหมือนกำลังโทรตามใครสักคน
เราก็เลยไม่สนใจอะไรเลยหลับต่อ เพราะคิดว่ากำลังรอสองคนที่เหลืออยู่มั้ง คือคิดว่ายังไม่มีคนมาซื้อตั๋ว
สักพักก็มีคนขึ้นมาแล้วรถก็ออก ปรากฎว่าสองคนที่ขึ้นมาเป็นนางหุ่นเชิ่ดและแฟนทอมของนาง ที่รู้ว่าเป็นแฟนเพราะเห็นนางซบนางซบนางกอดราวกับที่นี่เป็นโรงแรม
คือเราเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่าเกลียดค่ะ แต่โชคดีหน่อยที่นางนั่งอยู่ด้านหลัง อิฉันจึงไม่ต้องทนทนเห็นภาพอุจาดเหล่านั้น
แค่นั้นยังไม่พอค่ะ...หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง ที่หลับเป็นตาย พอตื่นขึ้นมาก็ใกล้ถึงแล้ว มีคนลงไปแล้วประมาณครึ่งคัน
เราก็ตื่นนั่งดูทางไป สักพักเราก็ได้กลิ่นโลชั่นลอยมา คือกลิ่นฉุนมากกกกกกกกกกกกก เรากับเพื่อน และคุณป้าที่นั่งอยู่ด้านหน้าเราก็หันไป
หาต้นตอของกลิ่น มันมาจากนางเชิ่ดค่ะคุณผู้โช้มมมมม เอ่อออ...นางทาแบบลอยหน้าลอยตามาก
หลังจากนั้นเพื่อนเราก็ถามว่าอะไรติดหัวเรา แล้วปัดๆออกให้ เราก็ไม่รู้นึกว่าเป็นใบมงใบไม้
แต่ๆ...มันคือโลชั่นค่ะ ตอนนั้น เราไม่ได้ถามเพื่อนว่ามันคืออะไร ถามแต่ว่าออกหรือยัง เพื่อนมาเล่าให้ฟังทีหลังค่ะว่ามันคือโลชั่น
เพื่อนเล่าให้ฟังว่าพอหลังจากที่หันไปหาต้นตอของกลิ่น เราหันกลับมาก่อนแล้วเราก็ย่นจมูกเพราะทนกลิ่นฉุนไม่ไหวก่อนจะเอายาดมขึ้นมาดม
แล้วก็มีโลชั่นกระเด็นมาติดหัวเราเพื่อนเราก็เห็นแล้วหันไปมอง นางเชิ่ดก็หัวเราะคิกคัก
เราก็คิดว่านางไม่ได้ตั้งใจอ่ะนะ แต่การแสดงออกคือ? แทนทีนางเห็นเพื่อนเรานางจะขอโทษ แต่กลับหัวเราะ
ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้นะว่าเป็นโลชั่น เราก็อารมณ์เสีย เพราะกลิ่นมันชวนเวียนหัวมากๆ
แล้วเพื่อนเราบังเอิญเห็นอีกจ้า ว่านางพูดว่า "ก็แล้วแต่!" ที่เราทำหน้าหงุดหงิด
คือนางเข้าใจว่าเราทำหน้าหงุดหงิดเพราะคิดว่าเรารู้ว่านางทำโลชั่นกระเด็นใส่หัวเรา
แต่จริงๆแล้วเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นโลชั่นที่ติดหัวเรา เพราะถ้าเรารู้เราจะไม่แค่ทำหน้าหงุดหงิดใส่แน่ๆ
มิหนำซ้ำยังมาหัวเราะอีก เหอะ!!! อย่าว่าเราแรงเลย เราจะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทเสมอ
นี่ถือเป็นประสบการณ์ของเราจริงๆ หวังว่าจะเป็นอุทธาหรณ์ให้ใครได้บ้างนะค่ะ
ว่าเวลาทำอะไรในที่ส่วนรวมเนี่ย ควรจะรักษามารยาท ไม่กระทำการใดๆที่จะรบกวนผู้อื่น
ปล.เราเองจริงๆไม่ได้มีมารยาทดีอะไร แต่เราไม่เคยกระทำการใดๆที่จะเป็นที่รบกวนให้แก่ผู้อื่น
ประสบการณ์การ(เจ็บใจ)นั่งรถตู้
คือวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การนั่งรถตู้ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับอุบัติเหตุใดๆ
แต่เกี่ยวกับมารยาทการใช้ค่ะ
คือเราเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนที่เมืองกรุง แล้วก็เผอิญเป็นช่วงวันหยุดยาวค่ะ
เลยตัดสินใจกลับบ้าน ปกตินั่งรถทัวร์กลับเพราะได้ยินข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุมาเยอะเลยออกแนวกลัว
แต่ด้วยความที่ชอบขนของกลับเยอะ ทั้งๆที่หยุดไม่กี่วัน (บ้าหอบฟางนั้นแหละ) เลยทำให้เวลาเดินทางไปหมอชิตค่อนข้างลำบาก
นั่งแท๊กซี่ก็แพง (งกอีก)
เลยลองกลับรถตู้ดูบ้าง เพราะท่ารถตู้อยู่ไม่ไกลจากหอค่ะ เดินทางสะดวก ที่สำคัญรถผ่านถนนหน้าบ้านเลย ไม่ต้องต่อรถกลับให้วุ่นวาย
เราก็นั่งรถตู้มาตลอด 3-4ครั้ง ก็ไม่มีอะไร จนที่ผ่านมาไม่นานนี้ค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่า เรามารอรถตู้ตอนช่วงสายๆของวันที่ท่ารถค่ะ อากาศก็ร้อนมากๆ
เรากับเพื่อนก็นั่งคุยกันไปตามประสา แต่ก็ไม่ได้คุยเสียงดังเลย คือส่วนใหญ่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์กันมากกว่า
แล้วตอนนั้นก็มีผญ นางนึงมากับทอมค่ะ นางก็เชิ่ดๆใส่ แบบว่าฉันนี่แหละสวยสุดบนรถตู้ ฮึ! รสนิยมการแต่งตัวของนางอิฉันไม่อยากเอ่ย
ไม่เข้าใจว่าเชิ่ดเพื่อออออออออ? เราก็ไม่สนใจค่ะ ร้อนอิ๊บอ๋ายจะตายอยู่แล้นนน หันไปถูโทรศัพท์ต่อ
ระหว่างนั้นรถตู้ก็มา เราก็ขึ้นไปนั่งกัน ด้วยความที่เรากินยาแก้เมารถไปก็เกิดอาการง่วงสุดๆ
อ้อ! เรานั่งติดหน้าต่างค่ะ ส่วนเพื่อนนั่งติดทางเดิน คือตอนที่เราซื้อตั๋วพี่คนขายก็บอกว่าเดี๋ยวถ้าเต็มรถก็จะออกเลย อย่าไปไหนไกล เพราะรถจะมาแล้ว
เรากับเพื่อนก็หลับค่ะ หลับทันทีที่ขึ้นรถตู้ ผ่านไปสักพักรถก็ยังไม่ออก เราก็เลยตื่นมาดูว่าทำไมยังไม่ออก เพราะคนขึ้นมาเยอะแล้ว
หันไปข้างหลังเห็นที่ว่างอยู่สองที่ พี่คนขับก็เหมือนกำลังโทรตามใครสักคน
เราก็เลยไม่สนใจอะไรเลยหลับต่อ เพราะคิดว่ากำลังรอสองคนที่เหลืออยู่มั้ง คือคิดว่ายังไม่มีคนมาซื้อตั๋ว
สักพักก็มีคนขึ้นมาแล้วรถก็ออก ปรากฎว่าสองคนที่ขึ้นมาเป็นนางหุ่นเชิ่ดและแฟนทอมของนาง ที่รู้ว่าเป็นแฟนเพราะเห็นนางซบนางซบนางกอดราวกับที่นี่เป็นโรงแรม
คือเราเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่าเกลียดค่ะ แต่โชคดีหน่อยที่นางนั่งอยู่ด้านหลัง อิฉันจึงไม่ต้องทนทนเห็นภาพอุจาดเหล่านั้น
แค่นั้นยังไม่พอค่ะ...หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง ที่หลับเป็นตาย พอตื่นขึ้นมาก็ใกล้ถึงแล้ว มีคนลงไปแล้วประมาณครึ่งคัน
เราก็ตื่นนั่งดูทางไป สักพักเราก็ได้กลิ่นโลชั่นลอยมา คือกลิ่นฉุนมากกกกกกกกกกกกก เรากับเพื่อน และคุณป้าที่นั่งอยู่ด้านหน้าเราก็หันไป
หาต้นตอของกลิ่น มันมาจากนางเชิ่ดค่ะคุณผู้โช้มมมมม เอ่อออ...นางทาแบบลอยหน้าลอยตามาก
หลังจากนั้นเพื่อนเราก็ถามว่าอะไรติดหัวเรา แล้วปัดๆออกให้ เราก็ไม่รู้นึกว่าเป็นใบมงใบไม้
แต่ๆ...มันคือโลชั่นค่ะ ตอนนั้น เราไม่ได้ถามเพื่อนว่ามันคืออะไร ถามแต่ว่าออกหรือยัง เพื่อนมาเล่าให้ฟังทีหลังค่ะว่ามันคือโลชั่น
เพื่อนเล่าให้ฟังว่าพอหลังจากที่หันไปหาต้นตอของกลิ่น เราหันกลับมาก่อนแล้วเราก็ย่นจมูกเพราะทนกลิ่นฉุนไม่ไหวก่อนจะเอายาดมขึ้นมาดม
แล้วก็มีโลชั่นกระเด็นมาติดหัวเราเพื่อนเราก็เห็นแล้วหันไปมอง นางเชิ่ดก็หัวเราะคิกคัก
เราก็คิดว่านางไม่ได้ตั้งใจอ่ะนะ แต่การแสดงออกคือ? แทนทีนางเห็นเพื่อนเรานางจะขอโทษ แต่กลับหัวเราะ
ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้นะว่าเป็นโลชั่น เราก็อารมณ์เสีย เพราะกลิ่นมันชวนเวียนหัวมากๆ
แล้วเพื่อนเราบังเอิญเห็นอีกจ้า ว่านางพูดว่า "ก็แล้วแต่!" ที่เราทำหน้าหงุดหงิด
คือนางเข้าใจว่าเราทำหน้าหงุดหงิดเพราะคิดว่าเรารู้ว่านางทำโลชั่นกระเด็นใส่หัวเรา
แต่จริงๆแล้วเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นโลชั่นที่ติดหัวเรา เพราะถ้าเรารู้เราจะไม่แค่ทำหน้าหงุดหงิดใส่แน่ๆ
มิหนำซ้ำยังมาหัวเราะอีก เหอะ!!! อย่าว่าเราแรงเลย เราจะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทเสมอ
นี่ถือเป็นประสบการณ์ของเราจริงๆ หวังว่าจะเป็นอุทธาหรณ์ให้ใครได้บ้างนะค่ะ
ว่าเวลาทำอะไรในที่ส่วนรวมเนี่ย ควรจะรักษามารยาท ไม่กระทำการใดๆที่จะรบกวนผู้อื่น
ปล.เราเองจริงๆไม่ได้มีมารยาทดีอะไร แต่เราไม่เคยกระทำการใดๆที่จะเป็นที่รบกวนให้แก่ผู้อื่น