แม้จะปรับลดรายจ่าย เลิกจ้าง หรือแม้แต่ขายกิจการบางส่วนให้บริษัทเงินทุนเข้ามาโอบอุ้มไว้ก็แล้วก็ตาม แต่ก็ดูทว่าหนทางการรอดของแบล็คเบอร์รี่จะยังอีกยาวไกล แถมล่าสุด John Chen ซีอีโอแบล็คเบอร์รี่ยังได้แสดงอาการถอดใจ ระหว่างการสัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ว่า อาจคิดเทขายแผนกโทรศัพท์ที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตจริงจัง หากสถานการ์ณยังคงโคม่าต่อเนื่อง
โดยระบุว่า "ถ้ายังไม่สามารถทำเงินจากธุรกิจโทรศัพท์ได้ แบล็คเบอร์รี่ก็จะไม่อยู่ในวงการโทรศัพท์อีกต่อไป"
แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า แบล็คเบอร์รี่ กำลังครุ่นคิดถึงการก้าวออกจากเป็นผู้เล่นในวงการสมาร์ทโฟน แต่กระนั้นบริษัทก็จะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือ, ซอฟท์แวร์ธุรกิจและบริการเซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่เข้าหรือจับมือกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น สุขภาพ การเงิน กฏหมายและอื่นๆ เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่าแบล็คเบอร์รี่มีเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในเรื่องของความปลอดภัยระดับสูง
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทสัญชาติแคนาเดี้ยนรายนี้ ต้องประสบกับภาวะสูญเสียรายได้ถึง 423 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับผลกำไรที่ได้รับเพียง 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือขาดทุนถึง 64% โดยแบล็คเบอร์รี่เคยก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 2011 ด้วยยอดขายโทรศัพท์ 52.3 ล้านเครื่อง
ที่มา TechSpot
ซีอีโอแบล็คเบอร์รี่ บอกถอดใจ อาจเทขายแผนกโทรศัพท์ หากสถานการ์ณยังโคม่า
แม้จะปรับลดรายจ่าย เลิกจ้าง หรือแม้แต่ขายกิจการบางส่วนให้บริษัทเงินทุนเข้ามาโอบอุ้มไว้ก็แล้วก็ตาม แต่ก็ดูทว่าหนทางการรอดของแบล็คเบอร์รี่จะยังอีกยาวไกล แถมล่าสุด John Chen ซีอีโอแบล็คเบอร์รี่ยังได้แสดงอาการถอดใจ ระหว่างการสัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ว่า อาจคิดเทขายแผนกโทรศัพท์ที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตจริงจัง หากสถานการ์ณยังคงโคม่าต่อเนื่อง
โดยระบุว่า "ถ้ายังไม่สามารถทำเงินจากธุรกิจโทรศัพท์ได้ แบล็คเบอร์รี่ก็จะไม่อยู่ในวงการโทรศัพท์อีกต่อไป"
แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า แบล็คเบอร์รี่ กำลังครุ่นคิดถึงการก้าวออกจากเป็นผู้เล่นในวงการสมาร์ทโฟน แต่กระนั้นบริษัทก็จะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือ, ซอฟท์แวร์ธุรกิจและบริการเซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่เข้าหรือจับมือกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น สุขภาพ การเงิน กฏหมายและอื่นๆ เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่าแบล็คเบอร์รี่มีเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในเรื่องของความปลอดภัยระดับสูง
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทสัญชาติแคนาเดี้ยนรายนี้ ต้องประสบกับภาวะสูญเสียรายได้ถึง 423 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับผลกำไรที่ได้รับเพียง 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือขาดทุนถึง 64% โดยแบล็คเบอร์รี่เคยก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 2011 ด้วยยอดขายโทรศัพท์ 52.3 ล้านเครื่อง
ที่มา TechSpot