เพื่อนผมคนนึงมันเป็นติ่ง Marvel มากๆ จึงไม่แปลกที่มันไปดู Captain เป็นคนแรกๆในประเทศ (มันว่างั้น) พอดูจบ มันรีบร้อนรนเพื่อจะมาเล่าให้ฟังว่า เป็นอย่างไร ผมไม่รอช้าที่จะปิดหู พร้อมตะโกนผ่านโทรศัพท์ว่า "กูยังไม่ได้ดู" แต่ที่แน่ๆ เห็นมันบอกว่า ภาคนี้ ไม่มีโจรสลัดที่ขโมยชุด Captain มาใส่ พร้อมด้วยวลีเด็ดที่ว่า "Look at me! Look at me!! I Am The Captain (America) Now!!!"
Captain America : Winter Soldier เป็นเหตุการณ์หลังจาก The Avenger โดยในภาคนี้ Captain America (Chris Evans) ยังคงทำงานให้กับหน่วยโล่ภายใต้คำสั่งของ Nick Fury (Samuel L. Jackson) ในภารกิจแบบ Mission Impossible แต่การปรากฎตัวของ Winter Soldier (Sebastian Stan) ตัวร้ายสุดโหด (ซึ่งแอบเหมือน Loki) ทำให้ทุกอย่างในหน่วย S.H.E.I.L.D เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งเบื้องหลังของหน่วย S.H.E.I.L.D หรือแม้กระทั่งความลับของ Winter Soldier ว่าเป็นใคร งานนี้กัปตันเลยต้องพึ่งตัวช่วยอย่าง Natasha Romanoff / Black Widow (Scarlett Johansson) สายลับสาวที่ภาคนี้ผมไม่ค่อยเห็นเนินอกของเธอเลย (แอบหื่น) และ Sam Wilson / Falcon (Anthony Mackie) อดีตทหารอากาศ เรียกได้ว่า 3 รุม 1 แบบนี้ไม่ค่อยแฟร์เล้ยยยยย
ที่พลาดไม่ได้ และผมคิดว่าเป็นไฮไลท์ในภาคนี้คือการดึงตัว ปู่ Robert Redford มาเล่นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ (บร๊ะเจ้า!!! แกยังวิ่งไหวเหรอนั่น) ในวงเล็บคือความคิดของผมหลังจากที่ได้ยินชื่อปู่ Redford เป็นครั้งแรก แต่หารู้ไม่ ทั้งเรื่อง แกไม่วิ่งครับ!!! โดยรับบทเป็น Alexander Pierce เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วย S.H.E.I.L.D อีกทั้งยังเป็นเพื่อนของ Nick Fury ถือว่าการดึงปู่ Robert Redford ทำให้ความสนใจของผมที่อยากจะไปดูหนังมีมากโขเลยล่ะครับ
ความเห็นส่วนตัว - หนังมีความเป็น Marvel มากๆล่ะครับ คือ มุก และการเล่าเรื่องที่รวดเร็ว โดยโทนของ Captain America ในภาคนี้ ดูมืดหน่อยๆ มีความเป็นหนังสายลับในยุค 70 อย่างที่ผู้กำกับต้องการ เนื้อเรื่องสนุก เพราะอย่างที่บอก กระชับ ฉับไว แต่เพราะอะไรไม่รู้ ผมถึงพอจะเดาว่าจุดหักมุมมันคืออะไรได้!!! หนังเล่นในเรื่องของ "ความไว้ใจ" และที่ขาดไม่ได้คือ End Credit ที่มาในตอนท้ายของภาพยนต์ในจักรวาล Marvel ทุกเรื่อง! จนผมเริ่มเบื่อล่ะ แต่โดยรวม ผมคิดว่าเป็นหนังในตระกูล Marvel ที่ดีที่สุดเลย ทั้งเนื้อหา และการต่อยอดไปในภาคต่อๆไปเลยครับ
ฉากประทับใจ ในเรื่องนี้มี 3 ฉากครับ
- ฉากแรก เป็นฉากที่ Captain America ไปเยี่ยม Peggy Carter (Hayley Atwell) ในวัยชรา และในประโยคนึงที่ Captain พูดว่า " คุณยังติดเต้นรำผมอยู่" (นี่มันหนังรักชัดๆ)
- อีกฉากนึงเป็นฉากที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Nick Fury ถูกยิง มันให้อารมณ์แบบหนังของ Quentin Tarantino มากๆอ่า แบบ จู่ๆ ตาย 55555
- เป็นฉากที่ Nick Fury และ Maria Hill ขับ ฮ. มาช่วย Falcon มันอารมณ์เดียวกับที่ ดอม กระโดดรับ เล็ตตี้ ใน Fast 6 เลยเว้ยเฮ้ย
เหตุผลที่ควรไปดู
1. สำหรับผม นี่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ในซีรีย์ The Avenger ที่ดีที่สุด
2. สำหรับสาวๆ เกย์ กระเทย ตุ๊ด ควรที่จะไปดู หุ่นของหนุ่ม Chris Evans
3. สำหรับชายไทยเถื่อน (เช่นเดียวกับผม) ควรที่จะไปดูใบหน้าของสาว Scarlett Johansson (ถึงจะไม่ค่อยเห็นเนินอกเท่าไหร่ก็เถอะ)
4. ผมคิดว่าเรื่องนี้ Falcon เท่มากๆ (ชื่อพี่แกแอบเหมือนยี่ห้อของนมข้นเนอะ!)
5. การแบ่งความสำคัญของแต่ละตัวละคร ทำออกมาได้เยี่ยม
6. เช่นเดียวกันกับการใช้บริการของตัวละครเก่าๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่ Peggy Carter
ความหมายของคะแนน
0 - 5 : มันห่วยซะเหลือเกิน
5.5 - 6.5 : พอได้
7 : ดูก็ได้ ไม่ดูก็ดี
7.5 - 9 : หนังดีที่ควรดู
9.5 - 10 : พลาดเรื่องนี้ ตายตาไม่หลับ
คะแนน
8.5 / 10
ฝากไว้กับผลงานการ รีวิวภาพยนต์เรื่องแรกด้วยนะครับ ติชมได้ และจะขยันทำออกมาอย่างสม่ำเสมอล่ะครับ
Review บ้านๆ - Captain America : Winter Soldier (กัปตันอเมริกา : มัจจุราช ระวังซ้าย!!!)
เพื่อนผมคนนึงมันเป็นติ่ง Marvel มากๆ จึงไม่แปลกที่มันไปดู Captain เป็นคนแรกๆในประเทศ (มันว่างั้น) พอดูจบ มันรีบร้อนรนเพื่อจะมาเล่าให้ฟังว่า เป็นอย่างไร ผมไม่รอช้าที่จะปิดหู พร้อมตะโกนผ่านโทรศัพท์ว่า "กูยังไม่ได้ดู" แต่ที่แน่ๆ เห็นมันบอกว่า ภาคนี้ ไม่มีโจรสลัดที่ขโมยชุด Captain มาใส่ พร้อมด้วยวลีเด็ดที่ว่า "Look at me! Look at me!! I Am The Captain (America) Now!!!"
Captain America : Winter Soldier เป็นเหตุการณ์หลังจาก The Avenger โดยในภาคนี้ Captain America (Chris Evans) ยังคงทำงานให้กับหน่วยโล่ภายใต้คำสั่งของ Nick Fury (Samuel L. Jackson) ในภารกิจแบบ Mission Impossible แต่การปรากฎตัวของ Winter Soldier (Sebastian Stan) ตัวร้ายสุดโหด (ซึ่งแอบเหมือน Loki) ทำให้ทุกอย่างในหน่วย S.H.E.I.L.D เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งเบื้องหลังของหน่วย S.H.E.I.L.D หรือแม้กระทั่งความลับของ Winter Soldier ว่าเป็นใคร งานนี้กัปตันเลยต้องพึ่งตัวช่วยอย่าง Natasha Romanoff / Black Widow (Scarlett Johansson) สายลับสาวที่ภาคนี้ผมไม่ค่อยเห็นเนินอกของเธอเลย (แอบหื่น) และ Sam Wilson / Falcon (Anthony Mackie) อดีตทหารอากาศ เรียกได้ว่า 3 รุม 1 แบบนี้ไม่ค่อยแฟร์เล้ยยยยย
ที่พลาดไม่ได้ และผมคิดว่าเป็นไฮไลท์ในภาคนี้คือการดึงตัว ปู่ Robert Redford มาเล่นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ (บร๊ะเจ้า!!! แกยังวิ่งไหวเหรอนั่น) ในวงเล็บคือความคิดของผมหลังจากที่ได้ยินชื่อปู่ Redford เป็นครั้งแรก แต่หารู้ไม่ ทั้งเรื่อง แกไม่วิ่งครับ!!! โดยรับบทเป็น Alexander Pierce เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วย S.H.E.I.L.D อีกทั้งยังเป็นเพื่อนของ Nick Fury ถือว่าการดึงปู่ Robert Redford ทำให้ความสนใจของผมที่อยากจะไปดูหนังมีมากโขเลยล่ะครับ
ความเห็นส่วนตัว - หนังมีความเป็น Marvel มากๆล่ะครับ คือ มุก และการเล่าเรื่องที่รวดเร็ว โดยโทนของ Captain America ในภาคนี้ ดูมืดหน่อยๆ มีความเป็นหนังสายลับในยุค 70 อย่างที่ผู้กำกับต้องการ เนื้อเรื่องสนุก เพราะอย่างที่บอก กระชับ ฉับไว แต่เพราะอะไรไม่รู้ ผมถึงพอจะเดาว่าจุดหักมุมมันคืออะไรได้!!! หนังเล่นในเรื่องของ "ความไว้ใจ" และที่ขาดไม่ได้คือ End Credit ที่มาในตอนท้ายของภาพยนต์ในจักรวาล Marvel ทุกเรื่อง! จนผมเริ่มเบื่อล่ะ แต่โดยรวม ผมคิดว่าเป็นหนังในตระกูล Marvel ที่ดีที่สุดเลย ทั้งเนื้อหา และการต่อยอดไปในภาคต่อๆไปเลยครับ
ฉากประทับใจ ในเรื่องนี้มี 3 ฉากครับ
- ฉากแรก เป็นฉากที่ Captain America ไปเยี่ยม Peggy Carter (Hayley Atwell) ในวัยชรา และในประโยคนึงที่ Captain พูดว่า " คุณยังติดเต้นรำผมอยู่" (นี่มันหนังรักชัดๆ)
- อีกฉากนึงเป็นฉากที่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ มันให้อารมณ์แบบหนังของ Quentin Tarantino มากๆอ่า แบบ จู่ๆ ตาย 55555
- เป็นฉากที่ Nick Fury และ Maria Hill ขับ ฮ. มาช่วย Falcon มันอารมณ์เดียวกับที่ ดอม กระโดดรับ เล็ตตี้ ใน Fast 6 เลยเว้ยเฮ้ย
เหตุผลที่ควรไปดู
1. สำหรับผม นี่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ในซีรีย์ The Avenger ที่ดีที่สุด
2. สำหรับสาวๆ เกย์ กระเทย ตุ๊ด ควรที่จะไปดู หุ่นของหนุ่ม Chris Evans
3. สำหรับชายไทยเถื่อน (เช่นเดียวกับผม) ควรที่จะไปดูใบหน้าของสาว Scarlett Johansson (ถึงจะไม่ค่อยเห็นเนินอกเท่าไหร่ก็เถอะ)
4. ผมคิดว่าเรื่องนี้ Falcon เท่มากๆ (ชื่อพี่แกแอบเหมือนยี่ห้อของนมข้นเนอะ!)
5. การแบ่งความสำคัญของแต่ละตัวละคร ทำออกมาได้เยี่ยม
6. เช่นเดียวกันกับการใช้บริการของตัวละครเก่าๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่ Peggy Carter
ความหมายของคะแนน
0 - 5 : มันห่วยซะเหลือเกิน
5.5 - 6.5 : พอได้
7 : ดูก็ได้ ไม่ดูก็ดี
7.5 - 9 : หนังดีที่ควรดู
9.5 - 10 : พลาดเรื่องนี้ ตายตาไม่หลับ
คะแนน
8.5 / 10
ฝากไว้กับผลงานการ รีวิวภาพยนต์เรื่องแรกด้วยนะครับ ติชมได้ และจะขยันทำออกมาอย่างสม่ำเสมอล่ะครับ