วิศวของพระจอมสุดยอดขนาดนั้นเลยหรอครับ???

ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เพราะผมอ่านดู ก็พอจะรู้ว่าจขกท. อึดอัดเรื่องอะไร ขอตีประเด็นชัดๆ ที่จขกท. อยากรู้ โดยไม่กลัวมาม่า
ว่าจขกท. กำลังเอาสิ่งที่พูดกัน ว่าจริงหรือที่วิศวะราชมงคล หรือเอกชนอื่นๆ สู้พระจอมเกล้าไม่ได้
เพราะแน่ใจว่าผมไม่มีอคติ แต่มองโลกความเป็นจริงจากคนรอบข้าง .... พี่ชายผมคนหนึ่งก็จบราชมงคลพายัพแล้วมาตรีส่วนกลางที่เทเวศร์ แต่อีกคนพระนครเหนือ (ตอนนี้เป็นผู้จัดการโรงงานทั้งคู่) ...วันนี้ หลานชายผมก็กำลังจะไปรายงานตัว ที่ราชมงคล (... หลังจากพลาด แย่งที่นั่งเข้าพระนครเหนือไม่ได้)


ผมจะอธิบายคความจริง แห่งที่มา
ก็อย่างจะถามว่า จริงหรือที่บอกว่าแพทย์มหิดล เก่งกว่าแพทย์รังสิต
หรือจะถามว่า จริงหรือบัญชีจุฬา เก่งกว่าพาณิชย์ธน พาณิชย์พระนคร
มันเป็นความจริง และชัดเจนขนาดนี้ ในความรู้สึกคนทั่วไป



ไม่ใช่เพราะความฟลุ๊ก หรือเป็นการยกย่องเกินเหตุ
....ถ้าสรุปกว้างๆ เพราะการสร้างสมประสบการณ์ในวงการสร้างคนให้วงการช่างเทคนิค วงการวิศวกรรม มันต่อเนื่องยาวนาน
แล้วความต่อเนื่องยาวนาน ก็จะรวมถึงงบประมาณสนับสนุนต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ก็ที่หลายคนอาจรู้มาบ้าง
เดิมทีพระนครเหนือรับความรู้และงบ จากเยอรมัน มีอาจารย์ยากเยอรมันมาสอนจริง และไปเรียนต่อเยอรมันจนมาเป็นอธิการบดี เอกสารในโรงพิมพ์ ยังมีภาษาเยอรมันติดอยู่ก็มี... ทุกวันนี้ ก็ยังมี ไทย-ฝรั่งเศสเพิ่มมา
ส่วนลาดกระบัง ก็เดิมโทรคมนาคม ไทย-ญี่ปุ่น  เริ่มที่เป็นเทคนิคเล็กๆ ที่นนทบุรี เลยโรงหนังเก่า (ชื่อศรีนนท์หรือนครนนท์อะไรนี่แหละ) ไปนิดหน่อย ตอนนี้ก็ยังอยู่  
ธนบุรี ที่คนบางส่วนก็ยังติดปากว่า "บางมด" ก็เคยสังกัดกรมอาชีวศึกษาสอนแค่ ปว.ช. ปว.ส. เหมือนกัน
แล้ว 2514 ก็รวม 3 ที่ มีพรบ. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า มีอธิการบดี 3 แห่งนั้นเดิมที  ไม่ได้ถือว่าแยกกัน แต่เป็น "3 วิทยาเขต"

ขณะที่ราชมงคล เพิ่งก่อตั้งในปี 2518 ตอนแรก ชื่อ "วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา"
ราชมงคล ก็นามพระราชทาน พ.ศ. 2531 ซึ่งได้หลังจากยกระดับเทียบเท่ามหาวิทยาลัย เหมือนความเป็นมา 3 พระจอมเช่นกัน (จึงเป็น "ราชมงคล" ในปีที่จัดพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในหลวงครองราชย์ยาวนานที่สุดกว่าพระองค์ใดๆ)


ถ้า 3 พระจอม เพิ่งเปิดแพทย์ในปีนี้ ผมก็ขอบอกว่า ตอนเริ่มต้น ก็จะเป็นเช่น เอกชนและราชมงคล เหมือนกัน
แต่ระยะยาว ต้องรอพิสูจน์ตัวเอง จะเอาแค่ความเก่า ความเก๋าไม่ได้

เหมือนคนที่ทำงานเป็นระยะเวลานานแล้ว ย่อมเริ่มมีสง่าราศรี ดูมีมาด
นอกจากเก๋าในการดำเนินชีวิต ในการทำงานแล้ว มีเงินเดือนกิน เอามาปรับปรุงบุคลิกที่เป็นภายนอก และพัฒนาความรู้และความสามารถเพิ่มเติมจริงๆ ถ้าใฝ่ที่จะพัฒนาตนเอง
ต่างจากคนที่จบทีหลัง ข้างบนที่เปรียบเทียบย่อมด้อยกว่าธรรมดา เพราะเพิ่งเกิดตามมา

อย่างไรก็ดี ก็ขึ้นกับตัวบุคคลแต่ละบุคคลด้วย
ถ้าผู้ใหญ่ ที่เกิดก่อน ไม่รู้จักปรับปรุงตนเองจริง ติดหล่ม มัวภูมิใจ อยู่กับความสำเร็จในอดีต
เด็กที่เกิดมาทีหลัง ที่เริ่มสะสมประสบการณ์ให้แก่กล้า ก็ย่อมจะพัฒนาปรับปรุงตนเอง แซงหน้าได้เหมือนกัน



ปล. บอกข้อสังเกตเพิ่ม จากความเห็นข้างบน
สิ่งที่คนทั่วไปหรือคนนอกวงการอาจไม่รู้ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ ยังเหลือพระนครเหนือที่เดียวที่ยังคงรากเดิมไว้
พระนครเหนือยังคงมีปวช. และปวส.จนทุกวันนี้
ถ้าเปรียบวงการทหาร มีเตรียมทหาร.... ข้างๆจุฬา มีเตรียมอุดม ...อันนี้ ก็คือเตรียมวิศวะและเตรียมช่าง

แต่ส่วนของปริญญาตรี ก็ยังมีการรับ ม.ปลายและปว.ช. อีก ก็เหมือนแบบโรงเรียนทหารเดิมที่เคยรับ ม. 6 ด้วย... และ ปว.ส. ก็รับไปจนต่อเนื่องจบปริญยาตรี

แต่ปวช. พระนครเหนือ ไม่ใช่เหมือนเด็กเทคนิคเดิมแบบยุคก่อตั้งอีกต่อไปแล้ว เพราะเรียนทั้งช่าง และวิศวะไปพร้อมกัน อย่างที่เขาว่าจริงๆ
เด็กจริงๆ ก็ถูก "อัด" ความรู้ไปอย่างว่า
มีบางรุ่นบางห้อง ไปสอบจุฬาต่อติดแทบยกชั้น

จขกท. เห็นไหม เกิดการเปรียบเทียบอีกแล้ว... (ก็ด้วยเหตุผลที่มาเดียวกัน กับการเปรียบเทียบพระจอม กับราชมงล หริอเอกชนที่เกิดใหม่ทีหลัง)
เด็กพระนครเหนือเขาก็ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเทวดาหรอก ทุกคนก็พยายามหาโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตตัวเองทั้งนั้น อาจมีบางส่วนที่มัวเหมาติดหล่มภูมิในอยู่เฉพาะในชื่อเสียงสถาบันอย่างเดียว โดยไม่รู้เนื้อแท้คืออะไร ... แบบนั้นไปได้ไม่ไกลหรอก
ความคิดเห็นที่ 2
ดั้งเดิมแล้ว วิศวพระจอมเกล้า(พระนครเหนือ) เติบโตมาจากเด็กปวช. มีประสบการณ์การลงshop+ทำงาน+ทฤษฎีสามปีเต็มๆ จึงเข้าใจงานได้ดี

ตอนสมัยเราเรียนปวช. เราลงshop ๕วัน เรียนทฤษฎีตอนเย็นถึงสองทุ่มทุกวัน วันเสาร์เต็มวัน
ตอนปิดเทอม ก็รับงานนอกอีก ตั้งแต่เรียนปวช.ปีแรกเลย
แล้วจะไม่มีประสบการณ์ได้อย่างไร

แต่เราเรียนพระนครเหนือแค่ปวส.นะ ไม่ได้ต่อถึงป.ตรี

ที่อื่นๆเราขอไม่พูดถึง
ความคิดเห็นที่ 6
ในฐานะที่เป็นลูกพระจอมฯ เช่นกัน ขอตอบว่า วิศวะพระจอมเกล้า ทั้งสามที่สุดยอดจริง
ทำงานเจอมาครบทั้งสามที่  

พี่ท่านคอทองแดงสุดยอดทุกคน........เรื่องนี้นับเป็นเรื่องสุดยอดมั้ยคะ
ความคิดเห็นที่ 36
ถ้าเป็นเรื่องสถาบันนี่ ใครเป็นอันดับ 1 เราจะประเมินกันที่ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสารวิชาการต่างๆ ต่อจำนวนนศ ต่ออาจารย์ เขาก็จะคิดเป็นคะแนน ซึ่งอันนี้ก็ไปหาดูการจับอันดับมหาลัยได้ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ คิดว่าไม่จำเป็นต้องมาเถียงกันในพันทิพย์

ส่วนเรื่อง เด็กจบพระจอม ถามว่าเจ๋งหรือไม่ ผมก็ตอบไม่ได้หรอกครับว่าเจ๋งกว่าใครรึเปล่า แต่ละสถาบันสร้างบันฑิตที่มี Nature ต่างกัน ซึ่งหมายถึงความคิดความสามารถก็แตกต่างกัน ซึ่งบริษัทก็ต้องพิจารณา การเลือกสรรค์ที่เหมาสม ว่าจะเลือกใคร

จากประสบการณ์การทำงานจริงของผม รุ่นพี่จากสามสถาบันนี้ช่วย Support สนับสนุนน้องๆรุ่นใหม่ๆ ให้ทำงานได้ สามพระจอมเราไม่เคยทิ้งกันครับ นั่นทำให้เครือข่ายเราเติบโต และยิ่งใหญ่ (แต่เราดูความสามารถความประพฤติกันด้วย ถึงจะจบพระจอมแต่ทำตัวแย่ ก็ไม่เอาเหมือนกันนะครับ ถือว่าทำให้สถาบันเสียชื่อเสียง) มีบัณฑิตจากสามสถาบันกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าในอุตสหกรรมในประเทศไทย ผมเชื่อว่า บริษัทขนาดกลางจนไปถึงขนาดใหญ่ มากกว่า 90% ต้องมี เด็กจากสามสถาบันนี้เข้าไปอยู่

เด็กพระจอมทุกคนเขาภูมิใจครับที่เขาเรียนจบมาครับ เราเติบโตได้ เพราะมีรุ่นพี่รุ่นเก่าสร้างชื่อเอาไว้มากมาย และเราก็สานต่อ และทำให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ

กรุณาใช้สมองในการตั้งคำถาม เพราะเด็กพระจอมเขาก็ไม่จะเอาตัวเองไปยกตนข่มใคร วิถีของปัญญาชนเราวัดกันที่หน้างาน ไม่ใช่เอาสถาบันมาวัดค่าของบัณฑิต ฝาก จขกท กรุณาอย่าสอบเข้าที่นี่นะครับ เพราะผมไม่อยากได้รุ่นน้องๆห่วยๆแบบคุณ

ปล.ผมจบ พระจอมเกล้าธนบุรี
ความคิดเห็นที่ 10
จริงๆออกแนว สายต่อเนื่อง กับ สายสามัญ มากกว่านะครับ พระจอมฯไม่ได้เป็นปัจจัยหลัก

สายสามัญ ก็เรียน ม.ปลาย3ปี ตรี4ปี ลงshopจริงๆ3ปี(ป.ตรีปี2-4เท่านั้น) เวลาลงshopก็น่าจะราว50%โดยประมาณ
สายต่อเนื่อง เรียน ปวช.3ปี ปวส.2ปี ตรี3ปี รวมแล้วลงshop8ปีแค่นั้นเอง ยิ่งปวส.นี่นังเรียนในshopเกือบจะทุกวิชา

สายต่อเนื่องเรียนก่งกว่าหรือ? ไม่ใช่ครับเพราะว่าตอน ป.ตรี เราเรียนรวมกันได้กับสายสามัญ ความแตกต่างที่เห็นคือ
สายสามัญเขากางตำราเถียงกันมา10นาทีว่าเนื้อหาในตำราคืออะไรกันแน่
สายต่อเนื่องเดินไปเปิดเครื่องลองกันตรงนั้น30วินาทีจบเลย
คือสายต่อเนื่องไม่คิดมากครับลุยเลยขอแค่มีเครื่องมือลองได้ ทำเลย

วิศวะสามัญ  => ถ้าคิดก่อนทำได้ คิดก่อน ทำทีหลัง
วิศวะต่อเนื่อง => ถ้าทำก่อนได้ไม่มีอะไรเสียหาย ทำก่อน แล้วค่อยประเมินผลปรับแผน

ทีมที่ดีควรมีคนทั้ง2แบบครับ เพราะแบบนึงถ้าไม่ถูกกระตุ้นจะเอาแต่คิดไม่ลงมือทำ
อีกแบบนึงถ้าไม่มีใครคอยเบรกบ้างเลยก็จะลุยวงในท่าเดียว
งานบางอย่างก็ต้องวางไว้แล้วถอยออกมาดูไกลๆบ้างถึงจะออกมาดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่