อยากทราบประสบการณ์การสร้างสัมมาทิฐิกับคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัว

ครอบครัวเราเป็นครอบครัวคนจีนที่นับถือวัฒนธรรมคนจีนทำนองไหว้เจ้า ขอพรจากเทพองค์ต่างๆ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ถูกสอนมาแต่เล็กๆ ให้ศรัทธาในวัฒนธรรมนี้ และมีทิฐิที่ไม่ดีกับพระ คือมองว่าพระเป็นคนที่ไม่อยากทำงานจึงหนีไปเป็นพระและรับบริจาคข้าวมาฉัน (ทำนองว่าขี้เกียจจึงมากบวช)
แล้วก็ไม่ได้มีทัศคติเรื่องบุญ-บาป ประกอบกับแม่เป็นคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตัวเอง ไม่ได้มีฐานะจึงเข้าใจว่าการขยันทำงาน ช่วยเหลือตัวเองนั้นดีที่สุด ซึ่งมีผลเสียคือจะทำให้เกิดทัศนคติที่เห็นแก่ตัวเอง กับครอบครัว แต่เอาเปรียบคนอื่น (แต่ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมายนะครับ)

ผมเองตอนแรกก็ไม่ศรัทธาเช่นกัน แต่ชอบทำกิจกรรมจิตอาสา จึงได้มาสัมผัสพุทธศาสนา ได้นั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะ แล้วก็คิดว่าดี ค่อนข้างศรัทธา แล้วก็อยากให้ครอบครัวมาสัมผัสด้วย

คุณพ่อ คุณแม่ก็อายุมากแล้ว จึงอยากให้ท่านได้รู้ธรรมะไว้ ได้ลองมาปฎิบัติธรรม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ถ้าหากมีชีวิตหลังความตายจริง จะได้มีสติ มีใจที่ผ่องใสพร้อมเผชิญ แต่ถึงไม่มี อย่างน้อยก็จะได้จากไปอย่างสงบและไม่ฟุ้งซ่าน และเป็นกังวล


โอกาสนี้จึงอยากมาสอบถามพี่ๆ เพื่อนๆ ว่าใครมีประสบการณ์ในการสร้างสัมมาทิฐิ สร้างศรัทธาให้กับที่บ้านบ้างครับ
เริ่มจากอะไร แล้วทำอะไรบ้าง ได้ผลเป็นอย่างไร หรือใครที่กำลังคิดจะทำ มาลองแบ่งปันความคิดเห็นกันครับ

ตอนนี้กำลังคิดว่าจะลองพาแม่ไปปฎิบัติธรรมดูบ้าง อาจจะเป็นคอร์สของยุวพุทธิกสมาคมฯ แต่ไม่รู้ว่ามีคอร์สไหนเหมาะกับคนที่ใหม่ (และอาจจะติดลบเล็กน้อย) กับศาสนาพุทธหรือเปล่าครับ







“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การที่จะตอบแทนคุณแก่บุคคลทั้ง ๒ คือ มารดา ๑ บิดา ๑ เรากล่าวว่ากระทำไม่ได้ง่ายเลย

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงแบกมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง แบกบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และพึงปฏิบัติบำรุงทั้ง ๒ ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการบีบนวดอวัยวะต่าง ๆ แก่ท่านทั้งสอง แม้ท่านทั้ง ๒ ก็พึงถ่ายอุจจาระบนบ่านั่นเอง ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดา

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงตั้งมารดาไว้ในราชสมบัติ มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ แม้กระนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนคุณมารดาบิดา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง เป็นผู้สอนให้ลูกรู้จักโลก

ส่วนบุตรคนใด ทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้มีทุศีลสมาทานตั้งมั่นในสีลสัมปทา ให้บิดามารดาผู้มีความตระหนี่สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้ทรามปัญญา สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านั้น และบุตรย่อมชื่อว่าเป็นผู้อันกระทำตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดาแล้ว”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่