บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัท
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
38.1 คดีฟ้องร้องที่ค้างอยู่ที่ศาลปกครอง
38.1.1 ข้อพิพาทเกี่ยวกับการติดรูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนตู้โทรศัพท์สาธารณะ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ทศท. ยื่นคำเสนอ
ข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการจากการที่บริษัทติดรูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทกับ ทศท. เรื่องโทรศัพท์สาธารณะ ทศท. เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 433.85 ล้านบาท เมื่อวันที่
30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านต่ออนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 อนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาดให้ ทศท. ชนะคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ทศท. ได้ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลบังคับให้เป็นไปตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการและให้บริษัทชดใช้เป็นจำนวนเงิน 150.00 ล้านบาท และจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 90 บาทต่อเดือนต่อตู้โทรศัพท์หนึ่งตู้ ตั้งแต่วันที่ฟ้องร้องจนกว่าบริษัทจะหยุดใช้ตราสัญลักษณ์บนตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้รวมคดีกับสำนวนคดีที่บริษัทขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดของ
คณะอนุญาโตตุลาการ ศาลปกครองกลางได้กำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ศาลปกครองกลางพิจารณาให้ยกคำร้องของบริษัท และให้บังคับตามคำชี้ขาดของ
คณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 61/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 77/2549 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 โดยให้บริษัทชำระเงินจำนวน 150.00 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดจำนวน 80,000 บาท ให้แก่ ทศท. บริษัทได้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552 ขณะนี้
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
38.1.2 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้บริษัทและ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมกันชำระค่าใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมจำนวน 3.28 พันล้านบาท ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
38.1.3 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ทศท. ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้บริษัทชำระค่าธรรมเนียมเลขหมายเป็นเงินจำนวน 407.60 ล้านบาท ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี เพื่อให้ไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ (หมายเหตุข้อ 38.2.2)
ผลที่สุดของคดีความดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ ดังนั้น บริษัทจึงไม่ได้ตั้งสำรองสำหรับผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากผลของคดีดังกล่าวไว้ในงบการเงินเว้นแต่ตามที่ระบุไว้
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
38.2 ข้อพิพาทที่ยังคงค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ
38.2.1 ข้อพิพาทที่บริษัทเป็นผู้เสนอ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ในส่วนค่าโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2548 บริษัทได้ยื่น
คำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับเรื่องการคำนวณส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดจากค่าโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ ภายใต้สัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน บริษัทได้เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับการที่ ทศท. ไม่สามารถคำนวณแยกค่าส่วนแบ่งรายได้ที่ ทศท. ได้รับจากการใช้โทรศัพท์ต่างประเทศในส่วนโครงข่ายของบริษัทออกจากส่วนของโครงข่าย ทศท. เป็นจำนวนเงิน 5,000.00 ล้านบาท และค่าเสียหายจากการคำนวณจำนวนเงินผิดพลาดอีก 3,407.68 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาข้อ 38 ของสัญญาร่วมการงาน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับเรื่องขอให้ ทศท. ระงับการใช้อำนาจกำกับดูแลสัญญาร่วมการงาน และระงับการใช้อำนาจตามสัญญา นับตั้งแต่วันที่สถานภาพ ทศท. เปลี่ยนแปลงไป และให้อำนาจกำกับดูแลเป็นของกระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ทศท. ได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ต่อมาเมื่อวันที่
8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ เรื่องการปฏิเสธอำนาจกำกับดูแลของ ทศท.
ตามข้อ 38 ของสัญญาร่วมการงาน เป็นคดีใหม่อีกคดีหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2550 บริษัทได้ยื่นเสนอ
ข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเรียกร้องให้ ทศท. ชำระเงินที่เป็นส่วนแบ่งรายได้อันเกิดจากค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศเป็นจำนวนเงิน 1,968.70 ล้านบาท ซึ่ง ทศท. นำส่งส่วนแบ่งรายได้ดังกล่าวขาดไป ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่ระบุไว้ในสัญญา โดยบริษัทได้ร้องขอให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาวินิจฉัยสั่งการในเรื่องต่อไปนี้
1. ให้ ทศท. ปฏิบัติตามสัญญาร่วมการงาน และข้อตกลงเรื่องการจัดเก็บและแบ่งรายได้ โดยให้ชำระส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศให้ถูกต้องครบถ้วนตามเงื่อนไขของสัญญาข้อตกลงดังกล่าว
2. ให้ ทศท. ชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทเป็นจำนวนเงิน 1,968.70 ล้านบาท
3. ให้ ทศท. คำนวณส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศโดยทั้งจากการเรียกเข้าและเรียกออกโดยใช้อัตรา 6 บาทต่อนาทีตามที่ระบุในสัญญามาเป็นฐานในการคำนวณส่วนแบ่งรายได้นับแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
4. ให้ ทศท. ชำระดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องตามสัญญาข้อ 21 (อัตราเฉลี่ย MLR+1) หรือในอัตราร้อยละ 7.86 ต่อปีจากส่วนแบ่งรายได้ที่ ทศท. ค้างชำระนับแต่วันที่ยื่นคำเสนอข้อพิพาทจนกว่าจะชำระครบถ้วน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2551 ทศท.ได้ยื่นคำคัดค้าน อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ทศท. ได้จ่ายเงิน
ค่าส่วนแบ่งรายได้ที่เก็บจากค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศของช่วงเวลา วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 ถึงวันที่
30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 จำนวน 133.11 ล้านบาท บริษัทได้ตอบรับการชำระเงินดังกล่าว และตกลงที่จะไม่เรียกร้องค่าส่วนแบ่งรายได้ค่าโทรศัพท์ทางไกลในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามการรับชำระเงินดังกล่าวไม่ถือเป็นการสละประเด็นข้อต่อสู้หรือเป็นการระงับข้อพิพาทแต่อย่างใด
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
38.2 ข้อพิพาทที่ยังคงค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ต่อ)
38.2.2 ข้อพิพาทที่ ทศท. เป็นผู้เสนอ
ข้อพิพาทกรณีบริษัทพิมพ์รูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี และใบเสร็จรับเงิน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2547 และวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทเรียกค่าเสียหายจากการที่บริษัทพิมพ์รูปสัญลักษณ์บนใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน การเปลี่ยนรูปแบบของใบแจ้งหนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งใบแจ้งหนี้ และค่าเสียหายด้านการตลาดและภาพลักษณ์ จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,848.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดให้บริษัทชำระค่าเสียหายจำนวนรวม 98.59 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 บริษัทได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำชี้ขาดดังกล่าว ขณะนี้กรณีพิพาทอยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าใช้ท่อร้อยสาย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทให้บริษัทชำระเงินค่าเช่า ท่อร้อยสายตั้งแต่เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ถึงเดือน เมษายน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 6.72 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2548 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องค่าโทรศัพท์ทางไกลในประเทศ TA 1234 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอ
ข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ถึงเดือน มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 15,804.18 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย อันเนื่องมาจากบริษัทลดค่าบริการทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 และร้องขอให้บริษัทเรียกเก็บค่าบริการทางไกลในประเทศตามอัตราที่ตกลงกันภายใต้สัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน เมื่อ
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 ทศท. ได้แจ้งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนทุนทรัพย์ โดยคิดค่าเสียหายเพิ่มเติมจากเดือน เมษายน พ.ศ. 2548 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 1,060.91 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16,865.09 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับการให้บริการ ADSL เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทระบุว่าบริษัทละเมิดข้อตกลงในสัญญาร่วมการงาน โดยให้บริการหรือยินยอมให้ผู้อื่นนำอุปกรณ์ในระบบไปให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) ทศท. เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,010.21 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย นอกจากนี้ ทศท. ยังเรียกร้องให้บริษัทชำระค่าเสียหายต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 อีกเดือนละ 180.00 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย และขอให้บริษัทระงับการให้บริการหรืออนุญาตให้ผู้อื่นให้บริการ ADSL ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมการงาน เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551 ทศท.ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเรียกคืนส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัทได้รับเกินกว่าสิทธิที่พึงจะได้รับจำนวน 1,479.62 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทที่ค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการดังกล่าวข้างต้นได้ถูกเสนอให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยสำนักงานอนุญาโตตุลาการ แต่เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550 คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ยกเลิกการไกล่เกลี่ยและได้นำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการตามเดิม
ใครมี True มาดูกันจ้าาาา > o <"
หมายเหตุประกอบงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัท
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
38.1 คดีฟ้องร้องที่ค้างอยู่ที่ศาลปกครอง
38.1.1 ข้อพิพาทเกี่ยวกับการติดรูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนตู้โทรศัพท์สาธารณะ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ทศท. ยื่นคำเสนอ
ข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการจากการที่บริษัทติดรูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทกับ ทศท. เรื่องโทรศัพท์สาธารณะ ทศท. เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 433.85 ล้านบาท เมื่อวันที่
30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านต่ออนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 อนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาดให้ ทศท. ชนะคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ทศท. ได้ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลบังคับให้เป็นไปตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการและให้บริษัทชดใช้เป็นจำนวนเงิน 150.00 ล้านบาท และจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 90 บาทต่อเดือนต่อตู้โทรศัพท์หนึ่งตู้ ตั้งแต่วันที่ฟ้องร้องจนกว่าบริษัทจะหยุดใช้ตราสัญลักษณ์บนตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้รวมคดีกับสำนวนคดีที่บริษัทขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดของ
คณะอนุญาโตตุลาการ ศาลปกครองกลางได้กำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ศาลปกครองกลางพิจารณาให้ยกคำร้องของบริษัท และให้บังคับตามคำชี้ขาดของ
คณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 61/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 77/2549 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 โดยให้บริษัทชำระเงินจำนวน 150.00 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดจำนวน 80,000 บาท ให้แก่ ทศท. บริษัทได้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552 ขณะนี้
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
38.1.2 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้บริษัทและ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมกันชำระค่าใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมจำนวน 3.28 พันล้านบาท ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
38.1.3 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ทศท. ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้บริษัทชำระค่าธรรมเนียมเลขหมายเป็นเงินจำนวน 407.60 ล้านบาท ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี เพื่อให้ไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ (หมายเหตุข้อ 38.2.2)
ผลที่สุดของคดีความดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ ดังนั้น บริษัทจึงไม่ได้ตั้งสำรองสำหรับผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากผลของคดีดังกล่าวไว้ในงบการเงินเว้นแต่ตามที่ระบุไว้
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
38.2 ข้อพิพาทที่ยังคงค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ
38.2.1 ข้อพิพาทที่บริษัทเป็นผู้เสนอ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ในส่วนค่าโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2548 บริษัทได้ยื่น
คำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับเรื่องการคำนวณส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดจากค่าโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ ภายใต้สัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน บริษัทได้เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับการที่ ทศท. ไม่สามารถคำนวณแยกค่าส่วนแบ่งรายได้ที่ ทศท. ได้รับจากการใช้โทรศัพท์ต่างประเทศในส่วนโครงข่ายของบริษัทออกจากส่วนของโครงข่าย ทศท. เป็นจำนวนเงิน 5,000.00 ล้านบาท และค่าเสียหายจากการคำนวณจำนวนเงินผิดพลาดอีก 3,407.68 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาข้อ 38 ของสัญญาร่วมการงาน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับเรื่องขอให้ ทศท. ระงับการใช้อำนาจกำกับดูแลสัญญาร่วมการงาน และระงับการใช้อำนาจตามสัญญา นับตั้งแต่วันที่สถานภาพ ทศท. เปลี่ยนแปลงไป และให้อำนาจกำกับดูแลเป็นของกระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ทศท. ได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ต่อมาเมื่อวันที่
8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ เรื่องการปฏิเสธอำนาจกำกับดูแลของ ทศท.
ตามข้อ 38 ของสัญญาร่วมการงาน เป็นคดีใหม่อีกคดีหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2550 บริษัทได้ยื่นเสนอ
ข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเรียกร้องให้ ทศท. ชำระเงินที่เป็นส่วนแบ่งรายได้อันเกิดจากค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศเป็นจำนวนเงิน 1,968.70 ล้านบาท ซึ่ง ทศท. นำส่งส่วนแบ่งรายได้ดังกล่าวขาดไป ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่ระบุไว้ในสัญญา โดยบริษัทได้ร้องขอให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาวินิจฉัยสั่งการในเรื่องต่อไปนี้
1. ให้ ทศท. ปฏิบัติตามสัญญาร่วมการงาน และข้อตกลงเรื่องการจัดเก็บและแบ่งรายได้ โดยให้ชำระส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศให้ถูกต้องครบถ้วนตามเงื่อนไขของสัญญาข้อตกลงดังกล่าว
2. ให้ ทศท. ชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทเป็นจำนวนเงิน 1,968.70 ล้านบาท
3. ให้ ทศท. คำนวณส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศโดยทั้งจากการเรียกเข้าและเรียกออกโดยใช้อัตรา 6 บาทต่อนาทีตามที่ระบุในสัญญามาเป็นฐานในการคำนวณส่วนแบ่งรายได้นับแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
4. ให้ ทศท. ชำระดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องตามสัญญาข้อ 21 (อัตราเฉลี่ย MLR+1) หรือในอัตราร้อยละ 7.86 ต่อปีจากส่วนแบ่งรายได้ที่ ทศท. ค้างชำระนับแต่วันที่ยื่นคำเสนอข้อพิพาทจนกว่าจะชำระครบถ้วน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2551 ทศท.ได้ยื่นคำคัดค้าน อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ทศท. ได้จ่ายเงิน
ค่าส่วนแบ่งรายได้ที่เก็บจากค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศของช่วงเวลา วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 ถึงวันที่
30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 จำนวน 133.11 ล้านบาท บริษัทได้ตอบรับการชำระเงินดังกล่าว และตกลงที่จะไม่เรียกร้องค่าส่วนแบ่งรายได้ค่าโทรศัพท์ทางไกลในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามการรับชำระเงินดังกล่าวไม่ถือเป็นการสละประเด็นข้อต่อสู้หรือเป็นการระงับข้อพิพาทแต่อย่างใด
38. คดีฟ้องร้องและข้อพิพาทยื่นต่ออนุญาโตตุลาการและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
38.2 ข้อพิพาทที่ยังคงค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ต่อ)
38.2.2 ข้อพิพาทที่ ทศท. เป็นผู้เสนอ
ข้อพิพาทกรณีบริษัทพิมพ์รูปสัญลักษณ์ของบริษัทบนใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี และใบเสร็จรับเงิน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2547 และวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทเรียกค่าเสียหายจากการที่บริษัทพิมพ์รูปสัญลักษณ์บนใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน การเปลี่ยนรูปแบบของใบแจ้งหนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งใบแจ้งหนี้ และค่าเสียหายด้านการตลาดและภาพลักษณ์ จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,848.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดให้บริษัทชำระค่าเสียหายจำนวนรวม 98.59 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 บริษัทได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำชี้ขาดดังกล่าว ขณะนี้กรณีพิพาทอยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าใช้ท่อร้อยสาย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทให้บริษัทชำระเงินค่าเช่า ท่อร้อยสายตั้งแต่เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ถึงเดือน เมษายน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 6.72 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2548 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องค่าโทรศัพท์ทางไกลในประเทศ TA 1234 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอ
ข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ถึงเดือน มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 15,804.18 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย อันเนื่องมาจากบริษัทลดค่าบริการทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 และร้องขอให้บริษัทเรียกเก็บค่าบริการทางไกลในประเทศตามอัตราที่ตกลงกันภายใต้สัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน เมื่อ
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 ทศท. ได้แจ้งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนทุนทรัพย์ โดยคิดค่าเสียหายเพิ่มเติมจากเดือน เมษายน พ.ศ. 2548 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 1,060.91 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16,865.09 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับการให้บริการ ADSL เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ทศท. ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทระบุว่าบริษัทละเมิดข้อตกลงในสัญญาร่วมการงาน โดยให้บริการหรือยินยอมให้ผู้อื่นนำอุปกรณ์ในระบบไปให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) ทศท. เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,010.21 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย นอกจากนี้ ทศท. ยังเรียกร้องให้บริษัทชำระค่าเสียหายต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 อีกเดือนละ 180.00 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย และขอให้บริษัทระงับการให้บริการหรืออนุญาตให้ผู้อื่นให้บริการ ADSL ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมการงาน เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551 ทศท.ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเรียกคืนส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัทได้รับเกินกว่าสิทธิที่พึงจะได้รับจำนวน 1,479.62 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทที่ค้างอยู่ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการดังกล่าวข้างต้นได้ถูกเสนอให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยสำนักงานอนุญาโตตุลาการ แต่เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550 คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ยกเลิกการไกล่เกลี่ยและได้นำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการตามเดิม